(เฝ้าดูแลไม่ห่างแต่ว่าเขาไม่แยแส)
เหตุการณ์ต่อจากวันนั้นค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษ กลุ่มโจรนิรนามถูกนายบ้านทัพทองจัดการสับแหลกไม่เหลือแม้แต่กระดูก ก่อนนำเศษซากทั้งหมดไปโยนทิ้งในป่าลึก ปล่อยให้เป็นอาหารของพวกสัตว์ป่าไปโดยปริยาย
ดงแทบไม่ได้ขึ้นเรือนนายบ้านไปดูอาการของสาวน้อยฉกา ได้ฟังข่าวคราวของสาวน้อยผ่านคนมาเยี่ยมเยียน
ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อยจำต้องนอนพักรักษาตัวให้หายดีโดยเป็นคำสั่งจากนายบ้านอีกเช่นเคย พี่ทัพสั่งให้เขานอนอยู่แต่ภายในกระท่อมห้ามลุกเดินเพ่นพ่าน อันที่จริงต่อให้เจ็บยิ่งกว่านี้ถ้าดงคิดจะเดินไปดูอาการสาวน้อยเขาย่อมทำได้สบายโดยไร้ปัญหา ทว่าปัญหามันติดตรงเจ้าของแท้จริงของสาวน้อยเขาหวงมาก
หวงจนลึกๆแล้วดงก็แอบคิดสงสัย...มาหวงเอาตอนเกือบจะสายไปหรือเปล่าหนอ
ตัวเขารักฉกาก็บอกกับสาวน้อยไปตามตรงโดนไม่อ้อมค้อม ในส่วนที่สาวน้อยไม่ยอมรับรักเขามันก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าหล่อน เขาไม่อาจบังคับฝืนใจใครให้มารัก ไม่เหมือนกับพี่ทัพทอง หลงรักเขาหมดทั้งหัวใจ หากก็ยังชอบทำเป็นปากแข็งเล่นแง่ทำให้เขาน้อยอกน้อยใจตลอดเวลา
แง่งอนกันมันก็เรื่องในส่วนของแง่งอนตามประสาชายหญิง แต่แง่งอนจนอีกฝ่ายเกือบเอาชีวิตไม่รอดดงว่ามันจะเกินไปสักหน่อย
เสียงดังกุกกักทำให้ดงนอนไม่หลับ ดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองไปยังต้นตอของเสียง ทำให้ดงต้องพลิกตัวหันหน้าหนีบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวภายในกระท่อม จิตใจรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
ทำไมต้องเป็นนังมะเฟือง ทำไมถึงไม่ใช่ส้มแป้นมาคอยดูแล รายหลังนี่ไม่เห็นหน้ากันเลย ไม่รู้นายบ้านเอาโทษมันหนักแค่ไหน
“ทำเสร็จแล้วก็วางไว้ตรงนั้นนั่นแหละ เดี๋ยวข้าลุกไปกินเอง ส่วนเอ็งจะกลับเรือนก็กลับ กินอิ่มแล้วข้าจะนอนพักต่อ...”
“ฉันป้อนให้ดีกว่าจ้ะพี่ มือพี่มีแผลขยับบ่อยๆจะระบมเอานา”
มะเฟืองยกสำรับอาหารมาวางไว้ใกล้ๆกับร่างเหยียดยาวของดง ส่งสายตาเอื้ออาทรให้เขาแต่ก็รู้ดีว่าเขาคงมองไม่เห็น นับตั้งแต่วันที่เขาเจ็บตัวมาเธอก็คอยวนเวียนมาดูแลเขาไม่เคยห่างแม้นจะถูกเขาอาละวาดใส่ ไล่ให้กลับเรือนทั้งเช้าเย็นมะเฟืองก็ไม่เก็บมาใส่ใจ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาปรนนิบัติพัดวี
ด้วยนึกสงสารเขามากกว่าจะโกธร เพราะคนที่มะเฟืองโกธรก็คือนังฉกา เพราะมันคนเดียวแท้ๆ ทำให้พี่ดงต้องมาเจ็บตัวจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด มะเฟืองบุกไปด่ามันถึงเรือนนายบ้านให้หายเจ็บใจ ครั้นพอได้มาเห็นสภาพสะบักสะบอมมีบาดแผลทั่วทั้งตัว อาการของมันยังเป็นตายเท่ากัน มะเฟืองจึงใจอ่อนยวบ เลิกล้มความตั้งใจที่จะมาด่าแล้ววิ่งแจ้นกลับเรือนมารื้อห่อยาบำรุงของพ่อ ต้มจนได้ที่แล้ววิ่งกลับมายังเรือนนายบ้านทัพทองอีกครั้ง ส่งกระติกยาบำรุงให้ฤทธิ์เป็นคนไปจัดการต่อ
‘ฉันฝากพี่ให้ช่วยจัดการต่อด้วยนะ ฉันจะเอายาบำรุงอีกกระติกไปให้พี่ดง...’ ชายหนุ่มรับมาถือไว้โดยไม่พูดไม่ถาม มีเพียงสายตาชื่นชมมองตามไปยังสาวเจ้า นึกเอ็นดูในความปากร้ายแต่ใจดี ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขานึกถึงใครอีกคน...
ดงหันตัวกลับมาตามกลิ่นอาหารลอยฟุ้ง เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ยกมือลูบหน้าลูบตาให้สดชื่น ตั้งแต่เขาต้องนอนเจ็บ มีข้าวปลาอาหารให้เขากินไม่เคยอดยาก ภายในกระท่อมดูสะอาดสะอ้านตา ไม่รกรุงรังเหมือนตอนก่อนหน้า น้ำในก็ถูกเติมจนเต็ม
“เจ็บกว่านี้ข้าก็เคยผ่านมาแล้ว ไม่เห็นมันจะเป็นอะไรนักหนานี่หว่า”
“รู้จ้ะว่าพี่ดงเก่ง แต่ถ้าฉันกลับ...แล้วใครจะเช็ดตัวให้พี่...”
“วันนี้ข้าเหนียวตัวกะว่าจะอาบน้ำให้สบายเนื้อสบายตัวสักหน่อย เอ็งก็กลับเรือนไปเลย...”
ดงยังมีเรื่องให้แย้ง...ยืนยันจะให้มะเฟืองกลับเรือนไปโดยไว มือเอื้อมไปดึงจานข้าวมาตักกินเอง มะเฟืองจึงเดินไปเอาขันน้ำฝนที่มีดอกมะลิลอยส่งกลิ่นหอมอ่อนมาวางไว้ใกล้มือของดง เขายกขึ้นดื่ม ความเย็นของน้ำในขันทำให้เขาชื่นใจ
ความดีความชอบไม่เคยซึมผ่านเข้าผนังหัวใจของดงหรอก มีแต่จะเพิ่มความรำคาญให้ชายหนุ่มซะมากกว่า พอกินอิ่มก็จัดแจงเอ่ยปากไล่...ให้สาวเจ้ากลับเรือน มะเฟืองพอถูกไล่หนักเข้า...หัวใจก็ชักจะอ่อนล้า ในที่สุดจึงยอมกลับแต่โดยดี
“ฉันกลับก็ได้จ้ะ...แล้วพรุ่งนี้จะมาแต่เช้า”
“ไม่...ต...” ดงจะบอกว่าไม่ต้องมา มะเฟืองก็เปิดตูดแน่บวิ่งออกจากกระท่อมไปนู่นแล้ว เอาเถอะต่อให้เขาออกปากว่าไม่ต้องมา ยังไงซะเจ้าหล่อนก็ต้องดื้อแพ่งมาหาเขาอีกเช่นเคย...
ดงนึกเอือมระอา เขาลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ คว้าเอาผ้าขาวม้ามาพาดบ่า สาวเท้าค่อยๆเดินออกมาอาบน้ำอาบท่าไม่นานนายบ้านทัพทองก็เดินมาดูอาการ พร้อมกับซักถามเรื่องราวในวันเกิดเหตุอย่างละเอียดยิบ
ก่อนจะให้รางวัลดงสำหรับที่ช่วยสาวน้อยฉกาไว้พร้อมกับปราบไอ้กลุ่มโจรชั่วจนสามารถเด็ดชีวิตพวกมันได้ทั้งหมด...
----------------------------
เรือนไม้หลังงามถูกสร้างด้วยแรงชาวบ้าน ต่างพร้อมใจกันมาช่วยด้วยความสมัครใจ เห็นแก่ความดีความชอบที่ดงเสี่ยงชีวิตกำจัดไอ้พวกกลุ่มโจรนิรนามจนสิ้นซาก พวกตนไม่ต้องใช้ชีวิตหวาดระแวง ไม่ต้องกลัวทรัพย์สินจะโดนปล้น
ดังนั้นเพียงไม่ถึงเดือนตัวเรือนขนาดใหญ่ก็สร้างเสร็จในพริบตาเดียว ดงเอ่ยขอบอกขอบใจชาวบ้านทุกคน บางคนเคยมองเขาในแง่ร้ายก็เปลี่ยนเป็นยกย่องสรรเสริญ ดงไม่ใช่พวกกิ้งก่าได้ทอง เขาจึงทำตัวไม่ต่างจากเดิม มีน้ำใจมาเขาก็มีตอบ แต่จะละเว้นไว้เพียงคนเดียวที่นับวันความจุ้นจ้านของเจ้าหล่อนยิ่งทำให้เขาอยากบีบคอให้ตายมันเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป
“พี่ดงจ๋า ฉันมาหาแล้วจ้ะ อะ...กำลังจะถูเรือนกันอยู่หรือ ดีเลยมาให้ฉันทำให้ดีกว่านะจ๊ะ...”
ร่างอ้วนเพิ่งเดินขึ้นเรือนมาใหม่ชะงักเท้า พอเห็นคนสองคนกำลังนั่งเคียงใกล้ นัยน์ตาสีดำเลยลุกวาว ส่งเสียงขึ้นก่อนตัวจะเดินมาถึงกลางเรือน แล้วก็พุ่งเข้ามาเบียดกั้นกลางระหว่างดงกับสาวน้อยฉกา โดยไม่สนใจสายตาแทบจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆ
“พี่ไปนั่งพักเถอะจ้ะ ประเดี๋ยวฉันทำให้เอง” มะเฟืองแย่งผ้าขี้ริ้วในมือดง พร้อมกับออกปากไล่ให้เขาไปนั่งพักตามสบาย
ดงนิ่วหน้าเครียดไม่คิดว่าจะถูกขัดจังหวะดีๆ เขาชอบให้ฉกามาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ แต่ทุกครั้งเขามักจะเจอมารผจญที่ชื่อมะเฟืองเข้ามาขัดความสุขในใจเสมอ ดงลุกมานั่งริมระเบียง ท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ
ส่วนฉการีบขยับถอยห่างจากคนอาสา เหลือบสายตาขึ้นสบกันกับดงอย่างอิหลักอิเหลื่อ เธอไม่อยากเป็นก้าง แต่ก็ยังไม่อยากกลับเรือนไปเห็นหน้าใครบางคนตอนนี้
ขอโทษทีเถอะพี่มะเฟือง ฉันขอยึดพี่ดงไว้เป็นเกราะกำบังอีกสักหน่อยเถอะนะ...ถ้าฉันทำใจได้เมื่อไร ฉันจะรีบถอยห่างจากพี่ดงเอง สาวน้อยดึงสายตามามองหญิงสาวรุ่นพี่อย่างขอโทษขอโพย
ฉกาที่มีอาการดีวันดีคืนเพราะได้หมอดูแลดีคอยตามเฝ้าไม่ห่าง จนตามร่างกายแทบจะมองไม่เห็นร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ ด้วยอารมณ์น้อยอกน้อยใจพอเธอรู้สึกตัวจึงทำท่าหมางเมินใส่นายบ้านทัพทองจนถึงขั้นไม่อยากมองหน้า พออาการดีขึ้นก็ไม่คิดอยู่ปรนนิบัติเขา เอาแต่คอยวิ่งแจ้นมาหาดง คลุกตัวอยู่กับชายหนุ่มโดยไม่สนเสียงห้ามปรามจากคนที่คอยเฝ้าเอาอกเอาใจสารพัด เขายิ่งห้ามเธอก็ยิ่งมา
สาวน้อยคลานมานั่งใกล้กับดง มะเฟืองตวัดนัยน์ตาคุกรุ่นมอง
หวงแหนไม่พอใจแค่ไหนมะเฟืองก็ทำได้เพียงข่มความรู้สึกไว้ด้วยการฉีกปากยิ้มกว้าง
“ฉกา...เอ็งมาตรงนี้สิ จะมาเอาเปรียบทิ้งให้ข้าทำความสะอาดเรือนคนเดียวไม่ได้เชียวนา” พลางพยักหน้าเรียก จิกนัยน์ตาลงเล็กน้อย
“จ้ะ...ฉันจะมาถูพื้นตรงส่วนนี้ ส่วนพี่มะเฟืองก็จัดการตรงส่วนนั้นต่อเลยแล้วกันนะจ๊ะ...” ฉกาหาทางเอาตัวรอด ทำทีเป็นก้มหน้าก้มตาถูกระดานเรือน ดงขี้เกียจรำคาญความวุ่นวายของมะเฟือง เขาดึงผ้าขี้ริ้วจากมือนุ่มของฉกา ดึงร่างน้อยให้เดินตามลงมาจากเรือน
สาวน้อยเตรียมจะเอ่ยปากโต้แย้งจึงถูกสายตาดุปรามเอาไว้ให้เงียบ...
อยากถูนัก ก็ให้มันถูไปคนเดียวเสียให้เข็ด...
มะเฟืองอ้าปากหวอ หันขวับมองตามคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกร้าวราน กระบอกตารู้สึกปวดหนึบๆ ทำดีแทบตายเขาก็ไม่เคยเหลียวแล...
ถึงจะโกรธ จะเสียใจจนน้ำตาร่วงผล็อย มะเฟืองก็ยังสั่งตัวเองให้ถูเรือนทั้งหลังจนสะอาดเอี่ยมอ่อง ก่อนจะเดินคอตก หมดอาลัยตายอยากกลับมานั่งจ๋องที่เรือนตัวเอง...
-----------------------------------