(ชุบตัว)
กลิ่นยาสมุนไพรคละคลุ้งไปทั่วทั้งเรือนชั้นเดียวยกพื้นสูงหลังงาม ศีรษะมะเฟืองพิงไว้กับเสากลางเรือน มือทั้งสองข้างวางไว้บนตัก ดวงตาโศกเหม่อลอยไร้จุดหมายปลายทาง โดยมีฤทธิ์นั่งมองด้วยสีหน้าหนักใจอยู่ข้างๆ
ตั้งแต่ตัดสินใจจะพามะเฟืองมาที่นี่ ฤทธิ์ก็ปวารณาตัวเองเป็นพี่ชายสายเลือดก้อนเดียวกันทันที
กว่าฤทธิ์จะลากสาวเทื้อถูกผัวทิ้งให้เดินทางมาจนถึงที่หมาย เขาต้องใช้เวลาร่วมสามวัน เป็นสามวันที่มะเฟืองแทบไม่แตะต้องอาหารเข้าท้อง มีเพียงน้ำเปล่ากับผลไม้เล็กๆน้อยๆ ซึ่งฤทธิ์เป็นคนบังคับให้มะเฟืองกินรองท้องกันตายระหว่างทาง เขาบอกจะพาเธอมาหาสถานที่ตาย มะเฟืองก็ยินดีจะมาด้วยความเต็มใจ
‘ถ้าเอ็งอยากตายจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องยากหรอกนะมะเฟือง แค่ปลายดาบสะบั้นเข้าที่คอเอ็งฉึกเดียวลมหายใจเอ็งก็ปลิดปลิวแล้วละ’ ฤทธิ์เปรยขึ้น
‘ถ้างั้นพี่ก็ช่วยฉันหน่อยเถอะ พี่มีดาบติดตัวมาด้วยไหม ถ้ามีก็ช่วยลงมือเลย ฉันอยากตายเร็วๆ’ มะเฟืองยื่นคอให้ฤทธิ์ช่วยลงมือ ชายหนุ่มหรี่ตาลง
‘ไหนๆเอ็งก็อยากจะตายทั้งที ก็หาที่ตายให้มันดีกว่านี้หน่อยสิวะ ข้ามีที่แห่งหนึ่งอยากจะพาเอ็งไป แต่ต้องเดินทางหลายวันอยู่นะ เอ็งสนใจไหมล่ะ?’
ฤทธิ์ไม่ห้ามแถมยังใจดีเสนอสถานที่ตายให้เสียด้วย
‘สนใจสิ...พี่นำทางได้เลยจ้ะ ’ ให้เธอไปตายหมู่บ้านอื่นก็ดีเหมือนกัน พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องมาทนเห็นสภาพเน่าเละของลูกสาวไม่ได้เรื่องอย่างเธอ
ฤทธิ์พามะเฟืองเดินเข้าป่ามาลึกมาก ต้องใช้ความชำนาญกว่าจะเดินมาถึงเรือนไม้หลังน้อย เรือนหลังเดี่ยวปลูกขึ้นท่ามกลางธรรมชาติ ตัดขาดจากเพื่อนบ้านทั้งหลาย ความที่อยากจะตายอยู่ทุกลมหายใจทำให้มะเฟืองมีแรงเดินบุกป่าฝ่าดงมาจนถึงลำเจียก ฤทธิ์พาเธอขึ้นมานั่งบนเรือน บอกให้รอเวลาเดี๋ยวจะมีคนมาช่วย คงจะช่วยทำศพให้เธอกระมัง...
มะเฟืองคิดว่าคงเป็นอย่างนั้น...แล้วก็นั่งทำหน้าเศร้า ภาพตอนผัวประคองส้มแป้นเข้าห้องยังติดตา...พยายามลบเท่าไรก็ไม่จางหายสักที พอหัวใจไร้สุขร่างกายก็พลอยสอดคล้องผ่ายผอมลงจนน่าใจหาย สีหน้าอิดโรย วันๆเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา พอได้มาอยู่กับคนพูดน้อยอย่างฤทธิ์เลยพากันเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงระบายลมหายใจ
ไม่ห่างจากสองหนุ่มสาวผู้มาเยือน ยังมีเด็กสาวในร่างหนุ่มน้อยกำลังนั่งกอดอกมองคนทั้งคู่ตาขวาง มะยมรู้จักฤทธิ์ดี...เขาพาพี่ชายของเธอไปตายในคาราวานสินค้าเมื่อหลายปีก่อน...จนเธอต้องระเห็จมาอาศัยอยู่ในป่ากับป้าลำเจียก ตัดขาดกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง มะยมไม่มีเพื่อนเล่น เพื่อนคุย ทุกวันต้องพาตัวเองหมกอยู่กับพวกพืชสมุนไพรนานับชนิดของป้าลำเจียก หรือไม่ก็พวกลิงค่างบ่างชะนีให้หายเหงา
ป้าลำเจียกให้เธอแต่งตัวเป็นผู้ชาย จะได้ไม่เกิดภัย ต่อให้ไม่มีเพื่อนบ้านหากทว่าในป่าแห่งนี้ก็ยังมีพวกนายพรานบางทีก็เดินหลงเข้ามาถึงที่นี่
มะยมเกลียดฤทธิ์เข้ากระดูกดำ ความรู้สึกเกลียดชังเผื่อแผ่มาถึงมะเฟือง มะยมเข้าใจว่าทั้งคู่คงเป็นผัวเมียกัน เจ้าตัวเลยเหมารวมเรื่องการเกลียดขี้หน้าไปด้วยซะเลย สาวน้อยขยับตัวลุกขึ้นทันทีที่เห็นป้าก้าวขึ้นบันไดเพียงสามขั้นก็ถึงนอกชาน ตั้งท่าโวยวายใส่เต็มที่
“ป้าจะให้เมียไอ้...เอ๊ย! พี่ฤทธิ์มาอยู่กับเราด้วยจริงๆหรือจ๊ะ?”
มะยมหน้าเง้าหน้างอ มองค้อนไปยังเจ้าของร่างสูงกำยำ...จะว่าไปไหนๆไอ้พี่ฤทธิ์มันจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนทั้งที ไม่รู้จักเลือกที่มันดูสวยกว่านี้หน่อยหรือไงนะ มะยมไม่ถึงกับดูแค้นผู้หญิงด้วยกัน...สาวน้อยวัดจากอดีต...ผู้หญิงที่ฤทธิ์เคยรักใคร่ รายนั้นสวยหยาดฟ้ามาดินเชียวแหละ
แล้วดูคนนี้สิ...ไม่รู้ไปลากเอาซากศพเดินได้มาจากไหนมาทำเมีย...
“ไม่ดีหรือไงเอ็งจะได้มีเพื่อนคุย ไม่เหงาเวลาข้าต้องขึ้นเขาไปเก็บพืชสมุนไพร” ลำเจียกพูดกับหลานสาว นางเดินเหน็บกระจาดใส่พืชสมุนไพรไว้ตรงเอว เบี่ยงสายตาไปยังร่างเหม่อลอยชั่วครู่ ลำเจียกส่ายหน้า ไม่ไหวกับสภาพตรงหน้าที่เห็น นางเดินนำกระจาดที่มีพืชสมุนไพรตากจนแห้งมาเก็บไว้ในห้องปรุงยา เดินย้อนกลับมานั่งใกล้กับหญิงสาวที่พอจะรู้รายละเอียดปัญหามาจากฤทธิ์ คนผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนทอดสายตาอ่านยากไปยังหญิงสาวคราวลูก รูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่แบบนี้ไง...ผัวมันถึงได้ทิ้งเอา
“ไม่สวยก็ถูกผัวหน่ายแหนงแล้วก็ทิ้งขว้างเป็นเรื่องธรรมดา ดีนะที่เอ็งเจอกับไอ้ฤทธิ์มันก่อนจะคิดสั้นได้สำเร็จ...”
ลำเจียกเปรยเข้าตรงประเด็นจนมะยมซึ่งไม่รู้รายละเอียดของเรื่องทำหน้าเลิ่กลั่ก เธอหันขวับไปมองร่างไร้จิตวิญญาณ ดวงตาเหม่อลอยราวกับคนสติไม่ดี
อ้าวเจ้าหล่อน!ไม่ใช่เมียของไอ้พี่ฤทธิ์มันหรอกหรือ?
มะยมคลี่ยิ้มอ่อน รู้สึกโล่งใจโดยไม่รู้สาเหตุ
“มีชื่อว่าอะไรล่ะ ฉันจะได้เรียกถูก” เดินมายอบตัวลงใกล้กับมะเฟือง รอบสังเกตพิจารณาความไม่สวย ความรู้สึกเกลียดชังเบาบางลงทันตา ถูกผัวทิ้งมาหรอกหรือ ก็น่าสงสารอยู่นะ...
“ฉันรู้ว่าป้าต้องช่วยเรื่องนี้ได้จ้ะ...”
ฤทธิ์เอ่ยขึ้น มะยมก็พลอยพยักหน้าตาม เพราะความที่ตัวเองนั้นใช้ชีวิตมากับป้าลำเจียกตั้งแต่ตัวเด็ก มะยมจึงรู้ว่าตัวสมุนไพรของป้าตัวเองมีสรรพคุณราวกับยาวิเศษ แต่จะว่าไปถึงจะวิเศษสักแค่ไหนมะยมมานั่งคิดๆดู มันมียาสมุนไพรตัวไหนกันหวาปรุงแล้วจะทำให้ผัวกลับมาหา หรือป้าลำเจียกจะมีของดีที่เธอยังไม่รู้
“จะให้ช่วยรึ? เอ็งจะให้ข้าช่วยด้วยการไปลากตัวผัวของอีนังหนูคนนี้มาส่งคืนให้มันหรอกหรือไงวะไอ้ฤทธิ์ ข้าแก่แล้วคงทำให้เอ็งไม่ไหว...”
“โธ่!ป้า...มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ” ฤทธิ์หลุดเสียงหัวเราะ จนผิวแก้มมะยมกระตุกยิกๆ เสียงหัวเราะน่ารังเกียจเป็นบ้า ขวางหูขวางตาชะมัด
มะเฟืองยังนั่งตาลอย หูไม่รับรู้บทสนทนาทั้งหลาย เฝ้ารอคอยเพียงแค่ให้ถึงเวลาตายเท่านั้นพอ แล้วความทุกข์ในใจก็จะจบ
ฤทธิ์คลานเข่าเข้ามานั่งขนาบป้าลำเจียก
“ได้มาเพียงแต่ตัว แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร สู้ทำให้มันเสียดายเล่นๆไม่ดีกว่าหรอกหรือจ๊ะป้า...ฉันรู้ว่าป่ามีสมุนไพรดีๆอยู่หลายตัว ช่วยชุบชีวิต เปลี่ยนมะเฟืองมันเป็นคนละคนทีนะจ๊ะ ถือว่าฉันไหว้ละ...”
“ก็คงต้องใช้เวลานานสักหน่อย...ว่าแต่พ่อแม่นังหนูเขาจะไม่เป็นห่วงหรือไง?ลูกสาวเขาหายตัวมาทั้งคน”
“เรื่องนั้นฉันจัดการแก้ปัญหามาแล้วจ้ะ...ก่อนเดินทางมาที่นี่ ฉันได้แวะไปบอกลุงกับป้าแกไว้แล้ว ให้แกทำใจให้สบายไม่ต้องเป็นห่วง...”
ลำเจียกเลื่อนสายตามองไปยังหญิงสาวถูกผัวทิ้งมาหมาดๆ ให้รู้สึกสังเวชใจ อดย้อนกลับไปคิดถึงตัวเองสมัยเป็นสาวน้อย ในช่วงเวลานั้นความอ่อนเดียงสาทำให้เธอดันไปตกหลุมรักชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเข้า ความใจดีมาพร้อมกับความอ่อนโยนทำให้เธอหลงเข้าใจผิดคิดว่าเขาเองก็คงมีความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกัน ที่ไหนได้ชายหนุ่มคนนั้นกลับมาขอผูกแขนน้องสาวเธอแทน ลำเจียกเสียใจแต่ก็ไม่แปลกใจนักหรอก ให้เทียบความสวยระหว่างพี่น้อง หนุ่มบ้านไหนก็ต้องน้องสาวเธอที่ทั้งสวยแล้วก็อ่อนหวานกว่า
ทั้งคู่มีพยานรักด้วยกันสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อมนัสส่วนคนเล็กเป็นผู้หญิงชื่อว่ามะยม หลังจากนั้นหลายปีน้องสาวกับน้องเขยแล้วก็หลานชายคนโตดันมาจบชีวิตลง เหลือไว้เพียงหลานสาวตัวน้อย ลำเจียกจึงต้องพามาเลี้ยงในป่าเสียด้วยกัน
ลำเจียกเผลอครุ่นคิดถึงอดีตอยู่ชั่วอึดใจ นางก็หันไปสั่งความหลานสาวให้ไปจัดแจงที่หลับที่นอนให้มะเฟือง
“ให้พี่มะเฟืองไปนอนกับฉันก็ได้จ้ะ ห้องของฉันออกจะกว้าง...”
หลังจากรู้รายละเอียดชีวิตของสาวผู้มีอายุมากกว่า ทำให้ความคิดของมะยมเปลี่ยนไป เธอรู้สึกเห็นใจแล้วก็สงสาร อีกอย่างเธอจะได้มีเพื่อนคุยให้หายเหงา
ฤทธิ์กวาดสายตาผ่านไปยังเด็กสาว โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง...ถ้ามะเฟืองอยู่ในการดูแลของป้าลำเจียกโดยมีมะยมเป็นเพื่อนคุย เขาก็หมดเรื่องกังวลใจ
“ห้องเอ็งอยู่ไหน ข้าจะขนของใช้มะเฟืองไปเก็บไว้ให้” ชายหนุ่มอาสาจะเข้าไปช่วยมะยม ไม่อยากเป็นภาระให้กับสาวน้อยที่ฤทธิ์รู้ว่าเจ้าตัวเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ ในสายตาของฤทธิ์มะยมยังเด็กนัก เขาจึงไม่ถือสายามถูกอีกฝ่ายพูดจากระแหนะกระแหน่ ...
-----------------------------------
สาวน้อยมะยมวางข้าวของไว้บนโขดหิน ลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนกายเปลือยเปล่าขาวโพลน ไปพร้อมกับการส่งเสียงร้องเพลงเจื้อยแจ้ว เสื้อผ้าค่อยๆถูกดึงออกจากกายงามทีละชิ้น จนกระทั่ง เจ้าตัวเปิดเผยผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใยรับต้านกระแสลมหนาวเย็นยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ด้วยเพราะตัวเองเข้าใจว่าคงอยู่ตามลำพังเหมือนเคย ไม่คิดว่าจะมีใครมานอนแช่สายน้ำใสขยับห่างไปเพียงเล็กน้อย
ดังนั้นมะยมจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งร่างกายอวบอิ่มเปิด กำลังเผยนมต้มทั้งสองเต้ามีส่วนเว้าส่วนโค้งมาบรรจบตรงเนินอวบอูมไร้ขนปกปิด ทุกตารางนิ้วบนร่างกายกำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคน
พอปลดสิ่งกีดขวางบนร่างกายจนครบทุกชิ้น สาวน้อยจึงพาตัวเองจุ่มตัวลงในสายน้ำเย็นสบาย ความใสของน้ำทำให้แลเห็นตัวปลา เบื้องหน้าคือน้ำตกไหลลงมาจากภูเขาสูง กระทบลงบนผิวน้ำจนเกิดเป็นละอองฝอย
เธอชอบมาว่ายน้ำเล่นตรงบริเวณนี้ทุกครั้งหลังจากผ่านการอบสมุนไพรมาทั้งตัว ตอนนี้พี่สาวคนใหม่กำลังถูกป้าลำเจียกขัดสีฉวีวรรณด้วยพืชสมุนไพรนานับชนิด มะยมรับรองเลยว่าไม่เกินครึ่งปีนี้หรอกพี่มะเฟืองจะกลายเป็นสาวงามอย่างไร้ที่ติ
มะยมโผนตัวแหวกว่ายฝ่ากระแสน้ำใสแจ๋วมายังม่านน้ำตก...ก่อนจะโหนตัวขึ้นด้านบนก้อนหิน...ไปยืนยังด้านหลังกระแสน้ำนั่น
คราวนี้ฤทธิ์ถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“มะยมมันโตเป็นสาวเต็มตัวตั้งแต่เมื่อไร?วะเนี่ย...นี่ถ้าไอ้มนัสมันยังอยู่ คงได้ห่วงน้องสาวจนหนวดกระตุกเป็นแน่แท้...”
ภาพที่ฤทธิ์เห็นตรงหน้าทำเอาเขาไม่กล้าแม้นแต่คิดจะขยับตัว กระทั่งการหายใจเข้าออกแรงๆ เขาก็ยังไม่กล้าทำ ชายหนุ่มแช่ตัวนิ่งอยู่ในกระแสน้ำเย็นมีเพียงสายตาพร่ามัวกวาดมองไปยังเรือนร่างอวบอิ่มเต่งตึงไปด้วยเนื้อนมแห่งวัยสาวน้อยสะพรั่ง อย่างห้ามใจไว้ไม่ไหว
ต่อให้ร่างกายไม่ขยับทว่ามีบางส่วนของร่างกายกลับขยับขยายจนมันตั้งชี้โด่เด่ ดุ้นเนื้ออวบราวกับสากกะเบือโผล่พ้นอยู่เหนือน้ำ รูเล็กแดงก่ำปวดหนึบราวกับถูกปลาตอด
ต่อให้ฤทธิ์ไม่ได้มีนิสัยหมกมุ่นในกามอารมณ์...บังเอิญได้มาเห็นภาพยวนตาตรงหน้า เป็นใครจะสะกดความรู้สึกวาบหวามได้บ้าง แล้วทีนี้ฤทธิ์จะหาทางระบายออกอย่างไรดี?
พอเห็นว่าร่างน้อยหายลับไปอยู่หลังม่านน้ำตก ฤทธิ์จึงสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พาตัวเองจมดิ่งลงใต้กระแสน้ำ ดันร่างตัวเองให้ว่ายไปให้ไกลจากตรงนั้น เขามีอารมณ์อยากระบายออกใจแทบขาด แต่ก็ไม่สามารถทำต่ำช้ากับสาวน้อยมะยม ฤทธิ์จึงดำน้ำมาโผล่ยังจุดไกลสายตา มือข้างหนึ่งกำไว้รอบดุ้นเนื้อเร่งจังหวะรูดขึ้นรูดลงจนแลเห็นกระแสน้ำใสแจ๋ว เจือจางด้วยน้ำขาวขุ่นพุ่งปรี๊ดออกมาจากรูเล็กของหัวเห็ดใหญ่...
----------------------------------------------------