(ชู้ของผัว)
วันนี้ดงกะจะไปหาปลายังบึงบัว ไม่อยากขลุกตัวอยู่ในกระท่อมให้ส้มแป้นมันเร่งเร้าเรื่องผูกข้อมือ ไหนจะพ่อกับแม่ของมันอีก เขาละเบื่อเสียจริง ถ้าเรื่องมันทำง่ายเขาคงทำไปตั้งแต่ผูกข้อมือกับมะเฟืองใหม่ๆ คงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือน กะจะหาอะไรทำแก้เซ็งพอทำให้ตัวเองไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน พอเขาสะพายข้องไว้บนบ่า เตรียมจะเดิน มะเฟืองก็เดินเร็วเข้ามาหา
“ขอฉันไปด้วยคนนะจ๊ะ...”
ดงชักสีหน้ารำคาญแต่ไม่พูดขับไล่ ต่อให้ไม่รักหากดงก็ยังนึกสงสาร เห็นว่าผัวไม่ไล่มะเฟืองจึงฉีกปากยิ้มแป้น เดินตามหลังผัวต้อยๆ มาถึงที่หมายดงจัดการวางอุปกรณ์จับปลา ถอดเสื้อออกจากร่างกำยำ จัดแจงเตรียมจะลงไปหาปลาในบึงบัว
มะเฟืองตาโตกับกล้ามแน่นเปรี๊ยะของผัว หรือจะหาเรื่องสานสัมพันธ์สวาทกับผัวในน้ำดี บรรยากาศดีๆเขาคงไม่ปฏิเสธเธอ
“พี่ดงจ๋า ให้ฉันลงไปจับปลาด้วยคนนะจ๊ะ...”
มะเฟืองขันอาสาด้วยท่าทางกระตือรือร้น รีบถอดเสื้อพร้อมกับดึงผ้านุ่งขึ้นมามัดกระโจมไว้ตรงหน้าอกอวบอิ่ม ผิวเธอไม่ขาวนวลน่ามอง มีดีเพียงสองเต้าขนาดใหญ่ที่ใหญ่จนล้นมือชาย ดงนิ่วหน้าเลื่อนสายตามองไกลไปยังบึงบัว ไม่ได้นึกสนใจเรือนร่างอวบอิ่มซึ่งดูเผินๆเหมือนตั้งใจมายั่วราคะเขามากกว่าจะมาช่วยจับปลา ยิ่งตอนนี้ดงกำลังหาวิธีส่งคืนมะเฟืองให้กลับไปอยู่เรือนของพ่อกับแม่มัน ดงยิ่งไม่คิดจะแตะต้องสาวเจ้าให้ต้องมาผูกพันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
“มาจ๊ะ...จับปลาแล้ว ฉันจะเก็บสายบัวเอาไปต้มกะทิ” มะเฟืองแสร้งเบียดร่างอวบแนบท่อนแขนกำยำมีมัดกล้าม ยิ่งโดนยั่วดงยิ่งหงุดหงิด
‘”ถ้าเอ็งอยากจับปลามากนัก ก็ลงไปจับคนเดียวเลยไป ข้าจะกลับเรือน ไม่ชอบให้เขามาเซ้าซี้...” ดงโยนข้องใส่เมียกลบเกลื่อนอารมณ์ร้อนเร่าในทรวงอก
ถูกมะเฟืองมันยั่วดงย่อมเกิดอารมณ์เป็นธรรมดา ว่าจะไม่ไปหาส้มแป้น มันก็อดไม่ได้ละทีนี้ หรือจะไปกระท่อมให้ส้มแป้นมันช่วยผ่อนคลาย
“อุ๊ย! พี่ดง…” มะเฟืองยกมือขึ้นรับข้อง ดีที่ไม่โดนหน้า มีความสุขเพียงเดี๋ยวเดียวมะเฟืองก็กลับมาจิตใจห่อเหี่ยว น้ำตาพานจะกลบตาอีกจนได้
“พี่ดงหงุดหงิดเรื่องอะไร? บอกฉันมาสิจ๊ะ” ถามเสียงสั่นพยายามกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“เอ็งก็ไม่น่าถาม...จะทำอะไรก็ทำ แล้วไม่ต้องเสือกตามข้ามาอีกนะ มันน่ารำคาญ” ตะคอกเสร็จดงก็เปิดตูดแน่บ ไม่หันกลับมามองให้จิตใจโลเล
“พี่ดงจ๋า อย่าเพิ่งไป รอฉันด้วยสิจ๊ะ...” มะเฟืองตะโกนเรียกเสียงสั่น หันรีหันขวางตัดสินใจจะเอาอย่างไรดี จู่ๆน้ำตามันก็ไหลอาบสองข้างแก้ม หัวใจทั้งดวงปวดหนึบ
ดงไม่ได้เดินหายไปไหนไกล บังเอิญเหลือเกินว่าระหว่างทางเขาเจอส้มแป้น รายนั้นฉีกยิ้มหน้าบาน ส้มแป้นเพิ่งรู้ว่าแท้จริงดงคนหื่นมันร่ำรวยเงินทองมากมายขนาดไหน เป้าหมายส้มแป้นจึงเปลี่ยนจากนายบ้านทัพทองเป็นชายหนุ่มตรงหน้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ของเคยค้าม้าเคยขี่กันประจำทั้งคู่จึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
อีกทั้งความกระหายในรสกามปิดกั้นสติของดงจนมืดบอด ชายกลัดมันลากส้มแป้นมาหลังโคนต้นยางป่า จัดการละเลงบทกามโดยไม่รีรอ
เสียงซี๊ดซ๊าดเผ็ดมันตรึงสองขาของคนเดินตามหาผัว มะเฟืองเงี่ยหูฟังน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทางยาว
“พี่ดงตรงนั้นจ้ะ ขยี้เข้ามาอีกแรงๆ ส้มแป้นชอบ”
เนินนมอวบอิ่มผลุบหายอยู่ในโพรงปากร้อน เม็ดจะงอยถูกดูดดึงรุนแรงราวกับจะขาดติดปากร้อนออกมา ปลายนิ้วแข็งกระด้างเขี่ยเล่นอยู่ตรงปุ่มกระสัน โดยไม่ห่างมีลำดุ้นยาวใหญ่อาบไปด้วยลาวาแห่งรักสอดทะยาน
ไอ้ดงเกร็งสะโพกเสยเข้าออกในร่องเล็กอย่างเมามัน นี่สิที่เขาปรารถนาอยากได้ ส้มแป้นมันทั้งขาวทั้งอวบอัด ลูบไล้ไปตรงไหนก็ทำให้ไฟในตัวเขาลุกฮือ เอากี่ครั้งก็ทำให้เลือดลมเขาพลุ่งพล่าน ถึงจะเบื่อหากก็ยังทำให้รู้สึกดีกว่าตอนเอากับนังมะเฟือง
ส้มแป้นแอ่นสะโพกรับแรงกระเด้าระรัว ส่งเสียงครวญครางสั่นระริก เผยอกลีบปากรับแรงจูบเร่าร้อน เธอชอบลีลาเด็ดดวงของดงเป็นทุนเดิม ยิ่งพอมารู้ความจริงเรื่องฐานะ ส้มแป้นก็ยิ่งเพิ่มความทะเยอทะยานอยากได้ผัวของเพื่อนรักมาเป็นของตน เรื่องนี้ก็ไม่น่ายาก ด้วยเพราะว่าส้มแป้นพอจะรู้จุดอ่อนของดง
“มาเสร็จพร้อมกันนะส้มแป้น...”
“อ๊า...จ้ะ...พี่ดงกระแทกเข้ามาแรงๆเลยจ้ะ ส้มแป้นอยากน้ำแตกแล้วจ้ะ...เสร็จแล้วจะได้ไปต่อกันในกระท่อม” ดงไม่รีรอส่งความอวบใหญ่ผ่านเข้ารูเล็กทะลุทะลวง ดันแผ่นหลังขาวให้แอ่นหยัดรับแรงส่งรุนแรงจากทางด้านหลัง
มะเฟืองยืนเอามืออุดปากกลัวเสียงสะอื้นจะทำให้ชายโฉดหญิงชั่วได้ยินเข้าซะก่อน สองเท้าอ่อนแรงค่อยๆก้าวถอยหลัง ห่างออกมาทีละน้อย
คนหนึ่งก็ผัวรัก ส่วนอีกคนก็เกลอรัก มะเฟืองจะไม่ช้ำใจหนักเลยถ้าผู้หญิงตรงหน้าจะไม่ใช่ส้มแป้น เพื่อนที่เล่นกันมันตั้งแต่เล็กแต่น้อย...
-------------------------------------------
น้ำตามากมายไหลอาบแก้มกลมดิก หัวใจดวงน้อยราวกับถูกกระชากทิ้งออกจากทรวงอก มะเฟืองนั่งชันเข่าซุกหน้าลงมาา เธอนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นมะเฟืองราวกับชีวิตสูญสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยให้ราตรีกาลโอบกอดร่างสั่นเทาจากแรงสะอื้น...ดงเดินตามมาดูแต่ไม่คิดเข้ามาปลอบใจ
เขาถอยหลังกลับมานั่งตรงแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นมะขาม จุดมวนยาสูบ
ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ทีนี้ก็รอเวลาให้มะเฟืองมันทำใจได้สักหน่อย ค่อยเก็บข้าวของแล้วส่งมันกลับเรือนพ่อกับแม่
‘ข้าเลือกนังส้มแป้น แล้วก็อยากจะส่งเอ็งให้กลับไปอยู่เรือนพ่อกับแม่ของเอ็งซะที...’
สำหรับหมู่บ้านสามโคก ถ้าผัวสั่งให้เมียกลับไปอยู่เรือนพ่อกับแม่นั่นหมายความว่าเขาจะขอเลิกรา แล้วกลับไปเป็นชายโสด ส่วนฝ่ายหญิงจะกลายเป็นสาวเทื้อ หรือเข้าใจง่ายๆคือสาวที่ผัวหน่ายแหนงจนไม่อยากร่วมใช้ชีวิตด้วยได้อีก ตอนได้ยินมะเฟืองตกใจถึงกับพูดไม่ออก หัวใจตกลงตาตุ่ม ส่งสายตาตัดพ้อมองผัว รู้ว่าเขาไม่รัก แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำร้ายหักหลังเธอด้วยการมีชู้ได้ลงคอ
สุดท้ายเมียผูกข้อมือกลับถูกเขี่ยทิ้ง
มะเฟืองนั่งร้องไห้อยู่จนหลับ ดงชะเง้อคอมองเป็นพักๆ พอเห็นร่างอวบเอนหลังพิงลงกับต้นมะเฟืองเขาจึงลุกขึ้นเดินมาอุ้มร่างหลับใหลกลับขึ้นไปบนเรือน ในขณะที่เดินสายตาเขาเหลือบมองใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา...นานเพียงใดแล้วนะที่ชีวิตเขาต้องมาผูกพันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยปรารถนา
ความรู้สึกวูบโหวงผุดแทรกซึมเข้าจู่โจม
จะให้เขาใช้ชีวิตกับมะเฟืองไปจนแก่ตาย เขาเองก็คงไม่มีความสุข
ดงเข้าใจความสุขของบุรุษ คือการได้มีหญิงสาวสวยไว้คอยเชยชม อยู่เคียงกายไม่เว้นวันดังนั้นระหว่างส้มแป้นกับมะเฟือง ทำให้เขาเลือกได้ไม่ยาก
เช้าแล้วอากาศเย็นสบายดงยังคงนอนหลับ ส่วนมะเฟืองสะดุ้งตื่นด้วยความเคยชิน เธอพลิกตัวมองหน้าผัวรัก แววตาปวดร้าวช้ำใจเพราะถูกผัวนอกทั้งกายและใจ
ตอนเขานอนหลับช่างเป็นสิ่งที่สวยงาม ดูเขาอ่อนโยนไม่แข็งกร้าวใส่เธอ แล้วเธอทำผิดอะไรนักหนา เขาถึงได้รังเกียจกันถึงเพียงนี้...
ละอองน้ำกลบแววตาจนมองหน้าผัวรักไม่ชัด มะเฟืองต้องรีบกะพริบตาถี่ๆ ขับไล่ไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากภาพตรงหน้าไปได้...
เธอจะยอมจากไปง่ายๆเลยหรือ เกิดคำถามพร้อมกับคำตอบว่า
มันยังเหลือหนทางอื่นให้เธอเลือกเดินด้วยหรือ?
----------------------------------
ต่อให้หัวใจมะเฟืองบอบช้ำหนักสักแค่ไหน นอนร้องไห้จนตาบวมตุ่ยเธอก็ยังต้องลุกขึ้นมาหุงหาอาหารเตรียมไว้ให้ผัวกินแต่เช้า...ทำราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องทำให้ชอกช้ำเสียใจ ปัดกวาดเช็ดถูเรือนจนสะอาดตา สายหน่อยมะเฟืองเดินลงเรือนมารดน้ำยังแปลงผักสวนครัว ใช้เวลาหมดไปกับเรื่องงานบ้านจนกระทั่งตะวันตรงหัว
พยายามทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องปกติ...ทั้งที่ภายในใจขาดแคลนความสุขเหลือเกิน ก็ยังไม่รู้เธอจะยื้อเวลาได้สักกี่วัน ดูเขากระเหี้ยนกระหือรือจะส่งเธอกลับไปอยู่เรือนพ่อกับแม่ คงอยากให้นังส้มแป้นขึ้นมาอยู่เรือนนี้แทน น้ำตามันพานจะปริ่มไหลอีกจนได้ มะเฟืองยกมือปาดทิ้ง พาตัวเองมานั่งทอดอารมณ์จมดิ่งใต้ต้นมะเฟือง...นึกถึงความผูกพันอันยาวนาน ตั้งแต่เล็กจนโตระหว่างตัวเองกับส้มแป้น มะเฟืองยิ่งเจ็บยิ่งแค้นในหัวใจ...
กว่าดงจะตื่นตะวันก็สายโด่ง เขาลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา เดินมาเปิดดูสำรับกับข้าว คนทำไม่อยู่บนเรือน ในห้องครัวก็เงียบกริบ มะเฟืองคงอยู่ที่แปลงผักกระมัง ท้องไส้ดงชักรู้สึกหิวเขาจึงนั่งลงกินข้าวจนเกลี้ยงหม้อ กวาดสายตาสำรวจเรือนหลังใหญ่ มองเห็นถึงความเป็นระเบียงเรียบร้อยทำให้เขารู้สึกสบายตาสบายใจ พอท้องอิ่มสมองก็เริ่มทำงาน ดงย้ายมานั่งหน้าระเบียง ดึงยามวนขึ้นมาจุดสูบ มองเหม่อไปยังท้องฟ้ากว้างไกล...
“พี่ดงจ๋า ส้มแป้นมาหาจ้ะ”
ม้วนยาสูบในปากดงแทบร่วง ร่างอ้อนแอ้นชดช้อยก็โผล่พรวดขึ้นบันไดเรือนมาถึงขั้นสุดท้ายพอดี
“เอ็งมาทำไมที่เรือนนี้ ข้าเคยบอกเอ็งแล้วไม่ใช่หรือว่า...ห้ามมาวุ่นวายก่อนข้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
ก็ถ้ายังไม่รู้เรื่องฐานะมั่งคั่งร่ำรวยของเขาจ้างให้เธอก็ไม่โผล่หน้ามาแสดงตัวให้ใครรู้หลอก ลักกินขโมยกินมันก็ให้รสชาติตื่นเต้นเร้าใจ ไม่จำเป็นต้องครอบครองด้วยการผูกข้อมือ
ก่อนหน้าเป้าหมายเธอชัดเจน ยังไงซะเธอจะต้องคว้าเอานายบ้านกลับมาครอบครอง ดงก็แค่เครื่องระบายความกำหนัดชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าเธอสมหวังก็คงต้องเฉดหัวเขาทิ้ง ปล่อยให้ดงดักดานอยู่กับนังเพื่อนหน้าตาขี้เหร่ไปจนแก่ตาย
ตอนนี้ความคิดเธอเปลี่ยน ผู้ชายที่เธอต้องการก็เปลี่ยน ขนาดพ่อกับแม่เธอยังสนับสนุน สั่งให้เธอแย่งพี่ดงมาจากมะเฟืองให้ได้ ใช้ความสาวความสวยกว่าเป็นเครื่องต่อรอง ส้มแป้นเลยยิ่งได้ใจ โดยไม่สนใจความรู้สึกของเพื่อนเล่นกันมาแต่เล็กแต่น้อย จะคิดเห็นเจ็บช้ำน้ำใจอย่างไร ความสุขสบายในชีวิตเท่านั้นที่ส้มแป้นสนใจ
“จัดการเรื่องอะไรหรือจ๊ะ พี่ดง...” เจ้าของคำถามก้าวเดินขึ้นบันไดเรือนด้วยแววตาเอาเรื่อง ตวัดขึ้นมองเขม็งไปยังหญิงหน้าหนาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกลอรัก
หน็อย...มันยังหน้าด้านกล้าบุกมาถึงเรือน กล้ามาเหยียบย่ำหัวใจเมียผูกข้อมืออย่างกู คิดหรือว่ากูจะยอมมึงง่ายๆ อีนังเพื่อนชั่ว
“เอ็งมาหาข้าหรือส้มแป้น...”
มะเฟืองก้าวพรวดขึ้นมาประจันหน้ากับหนามยอกอกตัวจริง
-------------------------------------