มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย... ตายแน่ๆๆ คราวนี้ซวยจริงๆ แล้ว...
เด็กหนุ่มคิดในใจด้วยความร้อนรนขณะที่ลุกขึ้นจากเตียงในห้องนอนสุดหรู เขาค่อยๆ เหลือบไปมองคนข้างๆ ที่ยังนอนหลับอยู่เพื่อเช็คให้แน่ใจอีกครั้ง...
ใช่จริงๆ... เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างวะ จำอะไรไม่ได้เลย... ทำไมมาดามถึงมานอนตรงนี้!
เขาเริ่มตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเมื่อสาวสวยที่นอนอยู่บนเตียงกับเขาตอนนี้คือมาดามโรส... เมียคนสวยของท่านประธานจิน
.
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ต้นน้ำ ยังเป็นเด็กหนุ่มเรียนจบใหม่ที่กำลังหางานทำ แม้จะเป็นคนเรียนเก่งจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แต่การจะหางานดีๆ ในยุคนี้มันไม่ง่ายเอาซะเลย
หลายๆ ครั้งที่เกือบจะได้งานแต่ก็ไม่ผ่านการสัมภาษณ์ในด่านสุดท้ายเพราะบุคลิกใสซื่อและขี้อายจนเกินไปของเขา
"ดูไม่สู้งานบ้างล่ะ... ดูเด็กเกินไปบ้างล่ะ... เฮ้อออ พูดกันออกมาแต่ละอย่าง... แล้วแบบนี้จะหางานได้ยังไงฟระ!!!"
เขาขยับแว่นตาบนจมูกแล้วบ่นกับตัวเองขณะที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างทาง สักพักก็สะดุดตากับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่เพิ่งออกมาจากร้านอาหาร พวกเขากำลังยืนคุยกันอยู่ตรงรถตู้คันใหญ่ที่จอดรออยู่
พวกนั้นเป็นกลุ่มที่มีผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตขาวผูกเนกไทสีดำเป็นชุดฟอร์มแบบเดียวกันอยู่สามคน รายล้อมผู้ชายอีกคนที่แต่งตัวดีกว่าและดูมีบารมีกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด คนที่ดูท่าทางเหมือนจะเป็นหัวหน้านั้นตัวสูงใหญ่และหน้าตาดุแบบคนจีน
ต้นน้ำเห็นแว๊บเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ควรไปเกี่ยวข้องด้วย จากที่กำลังจะเดินผ่านหน้าร้านเลยต้องหยุดอยู่ข้างๆ เพราะตั้งใจจะรอให้คนกลุ่มนั้นขึ้นรถไปก่อน
ระหว่างที่ลูกน้องคนหนึ่งขึ้นไปสตาร์ทรถ อีกคนก็กำลังเปิดประตูรถอำนวยความสะดวกให้หัวหน้า ก็พอดีมีผู้ชายวัยกลางคนเดินผ่านหลังของต้นน้ำไปทางที่พวกนั้นอยู่ เขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ชายคนนั้นกำลังถือไว้ในถุงย่ามข้างตัว เด็กหนุ่มขยับแว่นเพื่อมองให้ชัดๆ อีกครั้งก็แน่ใจในสิ่งที่เห็น
มีด!!! เอาจริงดิ!! จะเอาไปทำอะไรวะนั่น...
เพียงแค่ช่วงเสี้ยววินาทีที่เขายังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ ชายคนนั้นฉวยโอกาสที่ลูกน้องคนอื่นเผลอจนตัวหัวหน้ายืนโล่ง เขาควักมีดออกมาแล้วกำลังจะวิ่งเข้าเสียบหัวหน้าจากด้านหลัง
ตายซะเถอะมึงงง!!!
ทุกคนสะดุ้งเสียงตะโกนหันมามองแต่ก็ตะลึงจนค้างทำอะไรไม่ทันแล้ว นอกเสียจากเด็กหนุ่มใส่แว่นที่เผลอวิ่งตามหลังชายคนนั้นมาแล้วตะโกนสุดเสียง
ลุงทำเชี่ยไรวะเนี่ยยยย!!!
ต้นน้ำกระโดดคว้าตัวชายถือมีดจากด้านหลังจนพากันกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น ลูกน้องทั้งสองคนรีบเข้ามาล็อคตัวไว้ทันที หัวหน้ารีบเตะมีดออกจากมือแล้วก้มมองคนที่ถูกจับ เสร็จก็เงยหน้าเหลียวมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเหยี่ยวคมกริบจนสะดุดอะไรบางอย่าง
"นั่น... ตรงนั้นมีอีกคน มึงรีบไปจับมา" เขาชี้นิ้วสั่งลูกน้องอีกคนที่เพิ่งวิ่งออกมาจากรถ
"ครับนาย!"
สักพักลูกน้องก็กลับมาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่งที่จับมาได้ เธอร้องไห้ฟูมฟายแล้วลงนั่งกับพื้นกอดผู้ชายที่เพิ่งก่อเหตุ
"เอาขึ้นรถ... ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะคุยกัน..." หัวหน้าสั่งสั้นๆ
ลูกน้องลากสองชายหญิงจากพื้นขึ้นรถตู้ ต้นน้ำแอบเห็นภาพทั้งสองคนโดนลูกน้องจับใส่กุญแจมือแล้วนั่งร้องไห้อยู่ในรถทำให้เขายิ่งตัวสั่นด้วยความกลัว
"แล้วไอ้หนุ่มนี่ล่ะครับท่าน..." ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาพูดกับหัวหน้าทำให้ต้นน้ำรู้สึกใจคอไม่ดี
".........เอาขึ้นรถไปด้วย"
"หะ-ห๋า?! ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย.. ผมไม่ได้มากับพวกนั้นนะครับ!!"
ลูกน้องเข้ามาจับที่บ่าเด็กหนุ่มแล้วกระซิบเบาๆ
"ประธานสั่งอะไรก็ทำไปเถอะน่า... อย่าให้พี่ต้องขุดดินเพิ่มอีกหลุมเลยนะ... มันเหนื่อย"
นั่นทำให้เขากลืนน้ำลายลงคอแล้วยอมจำนนเดินตามขึ้นรถอย่างช่วยไม่ได้ ตลอดทางบนรถไม่มีใครคุยอะไรกันเลย เป็นความเงียบที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตที่ต้นน้ำเคยเจอ เขาที่นั่งอยู่ด้านหน้ากับคนขับได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุทั้งสองคนร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาเป็นพักๆ ก็ใจเสียมากขึ้น
เขายังคิดไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง รู้แต่ว่าที่ๆ พวกเขากำลังจะไปน่าจะไม่ใช่สถานที่ดีๆ สักเท่าไหร่... แต่ผิดคาด... รถเลี้ยวเข้าไปในย่านธุรกิจใจกลางเมืองที่มีห้างร้านและสำนักงานเต็มไปหมด สักพักรถก็จอดตรงหน้าตึก 3 ชั้นขนาดใหญ่ที่มีป้ายชัดเจน
"สำนักงานให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย... เหรอ?..." เขาทำหน้างงหันไปหาคนขับรถ
"ใช่... ที่นี่แหละ บริษัทของเรา... น้องลงไปเลย เดี๋ยวพี่ต้องเอารถไปจอดด้านใน"
ทั้งหมดพากันลงจากรถโดยที่ลูกน้องเอาเสื้อมาคลุมมือของสองผู้ก่อเหตุไม่ให้ใครเห็นกุญแจมือ ท่านประธานเดินนำหน้าเข้าบริษัทโดยมีพนักงานด้านในโค้งคำนับไปตลอดทาง
พวกเขาขึ้นลิฟท์ไปถึงชั้นบนสุดแล้วท่านประธานก็เดินนำไปถึงห้องทำงานด้านในสุด เขากดรหัสผ่านแล้วสแกนนิ้วมือเพื่อเปิดห้องเข้าไป ภายในห้องทำงานตกแต่งแบบจีนโบราณที่ดูหรูหรา มีโซฟาตัวใหญ่ล้อมรอบกลางห้องที่ปูพรมเต็มพื้นที่ หลังโต๊ะทำงานมีกรอบรูปขนาดใหญ่ที่ใส่ผืนผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีแดงสดและมีตัวอักษรจีนสีทองเขียนไว้
"จิน... เหรอ?..." เด็กหนุ่มเผลออ่านออกเสียงเบาๆ
"อ่านออกด้วยเหรอ?... นั่นชื่อท่านประธาน อย่าไปเรียกชื่อเค้าง่ายๆ อย่างงั้นสิ"
"ขอโทษครับๆ"
ต้นน้ำโค้งขอโทษลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองดูประธานจินว่าจะทำอะไรต่อกับสองผัวเมียที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่ที่พื้น
"ผู้ชายเค้ามาเล่นที่บ่อนแล้วติดหนี้ไว้ครับท่าน... ครบกำหนดแล้วคงหาทางออกไม่ได้เลยคิดสั้น" ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอก
"......เท่าไหร่" ประธานยืนสองมือล้วงกระเป๋าถามออกมาสั้นๆ
"สองแสนครับ"
"เฮ้อ... เงินแค่นี้ถึงกับจะแทงกันเลยเหรอวะ"
ประธานเดินเข้าไปหาคนผัวที่ก้มหน้าไม่กล้าสบตา
"มึงรู้ใช่ไหม... เงินแค่นี้ถ้าหาทางออกไม่ได้จริงๆ ก็มาขอทำงานใช้หนี้ก็ยังได้... แต่ถึงขั้นคิดจะแทงกู... อันนี้รับไม่ได้ว่ะ... ว่ามา อยากไปนอนก้นทะเลหรือไปนอนในคุก"
"ผะ ผมขอโทษครับท่าน... ให้โอกาสผมเถอะนะ ให้ผมทำงานอะไรใช้หนี้ก็ได้ แต่อย่าฆ่าผมเลย! ฮือๆๆ" เขารีบก้มหัวโขกลงกับพื้น
"แล้วเมียมึงนี่ล่ะ... วางแผนด้วยรึเปล่า ทำไมถึงลากมาซวยด้วยกัน"
"ยัยนี่ก็เล่นด้วยกันครับท่าน... ติดหนี้เหมือนกันอีกก้อนนึง..." ลูกน้องพูดเสริม
"......รูปร่างหน้าตาพอไหวอยู่นะ เอาไงล่ะแม่หนู จะทำงาน หรือจะไปนอนก้นทะเลกับผัว"
"ฮือๆๆ หนูยังไม่อยากตาย... อะไรก็ยอมแล้วค่ะ"
"ดี... เฮ้ย มึงโทรไปบอกมาม่าไว้หน่อย ว่าพรุ่งนี้จะส่งเด็กใหม่ไปให้ดูแล"
"ครับท่าน"
สองผัวเมียยังคงสะอึกสะอื้นคุกเข่าที่พื้น ขณะที่ประธานเดินเข้าไปหาผู้หญิง เขาก้มลงจับปลายผมของเธอมาขยี้ในมือเล่นแล้วพูดเบาๆ
"ถ้าอยากให้ผัวเธอรอดละก็... มีอะไรต้องจ่ายพอรู้ใช่ไหม..."
หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ แบบรู้ความหมาย เธอปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มแล้วค่อยๆ ถอดเสื้อยืดทิ้งออกไป
"ท่านอย่าทำอะไรเมียผมเลย... ผมขอร้องล่ะครับ ให้ผมทำงานแทนเธอก็ได้ อะไรก็ได้ ฮือๆๆ"
"พวกมึงทั้งคู่วางแผนจะมาฆ่ากูนะ กูไม่ยิงทิ้งตอนนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว... เรื่องของมึงเดี๋ยวว่ากันทีหลัง ตอนนี้กูขอเช็คเมียมึงก่อน ว่าจะทำงานคุ้มค่าตัวสองแสนรึเปล่า"
ประธานจับแขนหญิงสาวดึงให้ลุกขึ้นลากไปที่โซฟาแล้วเหวี่ยงเธอลงไปนอน คนผัวกำลังจะลุกตามก็โดนลูกน้องจับตัวแล้วดึงไปนั่งที่เก้าอี้ให้ดูอยู่ห่างๆ
"ถอดออกให้หมด... ว่าง่ายๆ แล้วเรื่องนี้จะจบด้วยดี"
น้ำเสียงประธานแม้จะพูดออกมาเบาๆ แต่มันฟังดูทรงอำนาจเหลือเกิน หญิงสาวค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าชิ้นที่เหลือออกจนนอนเปลือยอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ส่วนประธานก็แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตถอดทิ้งลงพื้น
ต้นน้ำที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงมาก่อนนอกจากจะได้เห็นร่างเปลือยของหญิงสาวแล้ว ตอนนี้เขากำลังตะลึงกับแผ่นหลังประธานจินที่ไหล่กว้างมีกล้ามเป็นมัดๆ และมีรอยสักเสือขาวเต็มแผ่นหลัง
"เฮ้ย... ไอ้หนู... ไปรออยู่หน้าห้องก่อน... แล้วอย่าหนีไปไหนล่ะ เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน"
คำสั่งทรงพลังของประธานทำให้ต้นน้ำขัดขืนอะไรไม่ได้ เขาเดินออกประตูแล้วยืนหันหลังอยู่หน้าห้อง สักพักก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางดังมาจากด้านใน
โอ้ยๆๆๆ ซี้ดดดดด หยุดก่อนค่ะท่าน... หนูเจ็บ... ฮือๆๆ คุณอย่าดูนะคะ
แม้ต้นน้ำจะไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน แต่พอได้ยินเสียงครางดังขนาดนี้เขาก็จินตนาการออกว่าด้านในมันดุเดือดขนาดไหน
และแม้ว่าทั้งเสียงครางกับเสียงเนื้อฟาดกันที่ดังมาจากข้างในจะชวนเสียวขนาดนั้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกิดอารมณ์อยากจะสนุกเลย เพราะได้แต่คิดว่าหลังจากจบงานกับสองผัวเมียนั่นแล้ว ท่านประธานจินจะออกมาจัดการเขายังไง
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ประธานจินก็เปิดประตูเดินออกมา เขาจัดการติดกระดุมเสื้อไปด้วยพร้อมกับเริ่มพูดกับเด็กหนุ่ม
"เราชื่ออะไรนะ"
"ต้นน้ำครับ..." หนุ่มน้อยยังคงก้มหัวเพราะไม่กล้าสบตา
"ต้นน้ำเหรอ... เป็นชื่อที่ดี... จุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตสินะ"
ต้นน้ำแอบเหลือบมองประธานที่มองเขาเหมือนทำท่าครุ่นคิดอะไรอยู่จนมีเสียงครางดังออกมาจากในห้องอีกครั้ง เขาเลยหันไปมองที่ประตูแล้วหันกลับมามองประธานจินที่กำลังยิ้มเยาะชอบใจ
"ฮ่าๆๆ ไม่ต้องตกใจ... คนอย่างกู ไม่เคยปล่อยให้ลูกน้องต้องหิวหรอก... ปล่อยพวกมันจัดการต่อกันเองเถอะ... เราเดินไปคุยไปดีกว่า"
ประธานจับบ่าต้นน้ำแล้วชวนเดินไปด้วยกัน เขาพาลงไปชั้นล่างที่เป็นส่วนของสำนักงานซึ่งมีอีกหลายห้องที่มีคนนั่งทำงานกันที่โต๊ะ จนไปถึงห้องทำงานขนาดใหญ่ก็เปิดประตูกระจกเข้าไปซึ่งพอทุกคนเห็นประธานจินก็ลุกยืนทั้งห้องแล้วโค้งคำนับให้
"เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี... น้องฝ่ายบุคคลอยู่โต๊ะไหนนะ... มาทางนี่หน่อย"
"ค่ะๆ มาแล้วค่ะท่าน"
"รู้จักเจ้าหนุ่มนี่ไว้สิ ชื่อต้นน้ำ... พาเค้าไปจัดการเรื่องเอกสารซะ ให้เริ่มทำงานพรุ่งนี้เลย"
"หะ ห๋า!! ทำงานอะไรครับ!"
"ค่ะท่าน... น้องเชิญทางนี้เลยค่ะ"
"เดี๋ยวสิ... เอ่อ... ท่านประธาน ให้ผมทำงานอะไรครับ"
"จากนี้ มึงมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวกู... หรือมีงานทำอยู่แล้ว?"
"อะ เอ่อ...... ยังไม่มีครับ"
"งั้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ... เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา กูจะดูแลมึงอย่างดี"
พี่ฝ่ายบุคคลรีบคว้าแขนดึงตัวต้นน้ำออกไป เขาคิดคำพูดหรือเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ออกพลางเหลียวไปมองท่านประธานที่ยืนยิ้มกว้างแล้วโบกมือให้เขาอย่างอารมณ์ดี