เป็นเมียมันยาก(๒)(ต่อ)

1277 Words
“เพี้ยง! มัวโอ้เอ้ทำอะไรอยู่” เสียงพีรดาเกี้ยวกราดมาจากในครัว จนเพียงอออดค้อนใส่คนทำให้ถูกดุไม่ได้ “ตกลงจะกินไข่แบบไหนคะ” ถามเสียงกระเง้ากระงอด พีรวัสหัวเราะในท่าทีหล่อนทันทีก่อนตอบ “เอ้าก็บอกแล้วไงว่าแข็งๆ เหมือนเธอชอบนั่นแหละ” “มั่ว ฉันไม่ได้ชอบแบบนั้นเสียหน่อย” “เหรอ แล้วชอบแบบไหน ปากหรือนิ้ว”เขาแตะลิ้นที่หัวแม่มือตนเอง “ทะลึ่ง!” ค้อนส่งแล้วรีบเดินกลับไปห้องครัวทันทีแค่ก้าวแรกที่เข้าไปในครัวก็เจอกับสายตาตำหนิของพีรดา “เธอว่าน้องชายฉันหรือยายเพี้ยง กล้าดียังไงถึงว่าตาพีแบบนั้น ตัวเป็นแค่เด็กที่ป้าขอมาเลี้ยง กล้าว่านายพีคนเป็นเจ้าของทุกอย่างที่นี่ได้ยังไง หรือเพราะคิดว่าพี่พงศ์ให้ท้ายเลยไม่เห็นหัวใคร ต่อไปอย่าให้ได้ยินเธอว่าตาพีแม้แต่คำเดียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกให้เขาเลิกกับเธอแล้วแต่งงานกับคนที่เขารักแทน ว่าไงตาพีจะกินไข่แบบไหน” ว่าฉอดๆ จบด้วยการถามเรื่องไข่ “สุกค่ะ” เพียงอออยากค้อนอยากเถียงแต่ทำไม่ได้มันจุกกับคำที่พีรดาพูด ให้พีรวัสหย่ากับตนเพื่อไปแต่งงานกับคนที่รัก เขามีแฟนอยู่แล้วจริงๆ หรือนี่ ทำไมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีที่รับรู้เรื่องนี้ แสดงว่าเขาแต่งงานกับหล่อนเพื่อมรดกอย่างเดียวเท่านั้น มิน่าเล่าถึงไม่แตะต้องหล่อนสักนิด ปล่อยให้คืนเข้าหอผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ซ้ำร้ายเมื่อครู่ก็ดูออกว่าเขามีความต้องการแต่กลับหักห้ามใจไม่แตะต้องหล่อนได้ มันจะอะไรเสียเล่าถ้าไม่ใช่รักและซื่อสัตย์กับผู้หญิงคนนั้น เพียงออเดินยกชามบะหมี่ไปวางให้พีรวัสแล้วนั่งลงตามคำสั่ง ฟังพี่น้องสนทนากันแต่จับใจความไม่ได้เลยสักนิด เพราะใจหล่อนมัวแต่คิดว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นคือใคร จนเขากินเสร็จก็เรียกให้นำชามไปเก็บ “เอาไปเก็บ ขอกาแฟแก้ว” “ค่ะ” มาถึงตอนนี้จึงเห็นว่าพีรดาไม่ได้อยู่ในโต๊ะแล้ว อย่างนี้นี่เล่าพีรวัสจึงร้องขอกาแฟจากตน เพราะถ้าหากพีรดายังอยู่ก็คงอาสาหรือจะเรียกว่าแย่งงานตนทำอีกเช่นเคย งานที่เกี่ยวกับการปรนนิบัติพีรวัสนั้นพีรดาไม่ค่อยวางใจใครนัก ซึ่งเพียงออไม่รู้ว่าคนถูกปรนนิบัติอย่างพีรวัสจะยินดีหรือไม่ แต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธพี่สาวเช่นกัน ดูพี่น้องคู่นี้รักและเอาใจใส่กันและกันอย่างมาก มากจนคนนอกอย่างหล่อนอิจฉาอยากมีพี่น้องหรือคนให้คอยดูแลห่วงใยแบบนี้บ้าง “เป็นอะไรใจลอย อยากหรือไง” พีรวัสถามยิ้มๆ เมื่อยายหมาเน่านำถ้วยกาแฟมาวางตรงหน้า เพียงออตวัดสายตามองแต่ไม่พูดอะไร ก่อนจะหมุนตัวกลับเขาจึงดึงข้อศอกกระชากมานั่งบนตักแล้วถามเสียงรอดไรฟัน เพราะไม่ชอบการถูกเมินเฉยและเดินหนีเช่นนี้ “ถามทำไมไม่ตอบ” “อุ้ย!ถามอะไรคะ” หล่อนรีบปลดมือเขาออกจากเอวแล้วพยายามลุกขึ้น แต่พีรวัสรัดเอาไว้แน่นเป็นอันรู้ว่าเขาไม่ยินยอมเพียงออจึงหยุดดิ้นให้เหนื่อยแรงเปล่า “ก็ถามว่าใจลอยคิดถึงของแข็งๆ ของฉันใช่มั้ย” “นี่นะคำถามของคุณ” ทะลึ่งจริงๆ “เออนี่แหละคำถาม ก็ตอบมาสิว่าอยากหรือเปล่า” “ไม่ค่ะ โอ๊ย!” สิ้นคำตอบเขาก็ผลักหล่อนออกจากตัก หยิบแก้วกาแฟมากระดกดื่ม เพียงออรีบห้ามแต่ไม่ทันการเสียแล้ว “ร้อนนะคะ” “โอ๊ย! บ้าจริง ใครให้ชงร้อนๆ ห๊ะ ยายหมาเน่า” “พาลเป็นหมาบ้าเลยคุณพี” เพียงออว่าพลางหัวเราะ แต่ต้องรีบปิดปากเพราะพีรดาโผล่หน้ามาตรงประตู “เธอว่าอะไรนายพี ลามปามใหญ่แล้วนะยายเพี้ยง ระวังจะถูกเฉดหัวออกจากบ้าน” พีรดาชี้นิ้วคาดโทษ ก่อนเดินจากไป “ไปไหนพี่รดา”พีรวัสรีบถาม พีรดาหยุดเดินถอยมาสองก้าวแล้วบอก “ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์หน่อย มาม่าของนายหมดพอดี เผื่อหิวดึกๆ จะได้มีกิน” ฉันสาบานได้ว่าเห็นอยู่เต็มตู้ เพียงออพูดในใจ “ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ครับ ค่ำแล้วผมเป็นห่วง” พีรดาเดินยิ้มหวานเข้ามาหาน้องชาย เพียงออจึงสังเกตเห็นว่าพีรดาอยู่ในชุดสวยเกินกว่าไปซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ยามเดินผ่านก็ได้กลิ่นน้ำหอมโชยเตะจมูก หล่อนคิดว่าพีรดามีนัดมากกว่าจะออกไปซื้อของธรรมดา และเหมือนว่าสาวโสดวัยสามสิบห้าอย่างพีรดาจะชอบออกจากบ้านเวลานี้เป็นประจำ จึงมีเสียงซุบซิบนินทาว่าพีรดามีความสัมพันธ์กับคนงานของตัวเองต่างพุ่งเป้าไปที่วินัยคนงานผิวเข้มนิสัยดีแต่ขี้เล่น เพียงแต่คนในบ้านโดยเฉพาะสุภากับพีรวัสทำหูทวนลม ไม่ได้ยินไม่เก็บเอามาใส่ใจ เรียกว่าให้อิสระในการใช้ชีวิตของพีรดาเต็มที่ จนหล่อนอดคิดไม่ได้ว่าสุภาปล่อยปละละเลยหลานสาวแต่กลับเข้มงวดกับหลายชาย เป็นเรื่องแปลกแต่จริง “ขอบใจจ้ะ น้องรัก อยากกินอะไรพิเศษไหมพี่ซื้อมาฝาก” พีรดาจับไหล่แล้วจูบแก้มน้องชาย เสมือนน้องยังเป็นเด็กชายเล็กๆ “อย่าดีกว่าครับ ของที่ผมอยากได้พี่รดาคงไม่กล้าซื้อให้ ไว้ให้ยายหมาเน่าไปซื้อดีกว่า ของต้องใช้กับเพี้ยงอยู่แล้ว” “ทะลึ่งนะเรา แต่พี่ซื้อให้ได้นะพี่ไม่ถือ” พีรดาว่าแล้วหัวเราะคิกพร้อมตีไหล่ไปหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ทว่าเพียงออยังคิดไม่ทันจึงยืนทำหน้างง “ไม่ละครับ ไว้ให้เจ้าตัวไปซื้อเอง” เขายืนยันคำเดิม “งั้นพี่ไปล่ะ ไม่ต้องรอนะพี่เอากุญแจไปแล้ว” พีรดาจูบแก้มน้องชายอีกทีก่อนเดินออกจากห้องรับประทานอาหาร ผ่านหน้าเพียงออไปโดยไม่พูดอะไรนอกจากทิ้งสายตาสมเพชเวทนาไว้ จนเพียงอออยากถามว่ามาเวทนาฉันทำไมกัน “หมาเน่า!” “เอ๊ย! อะไรคะ” หล่อนสะดุ้งกับเสียงเรียกดังๆ ใกล้หู แล้วโวยวายกลับทันที “ตกใจหมด” “คิดอะไรอยู่ละ บอกให้ตามไปปิดประตูแต่ไม่ต้องลงกลอนนะ พี่รดาเอากุญแจไปแล้ว” “ค่ะ” หล่อนอยากค้อนให้กับการวางอำนาจและชอบใช้สอยตนเสียหมดทุกอย่างตั้งแต่ครัวยันเตียง แต่หล่อนก็เต็มใจทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ แค่มีเถียงบ้างปริปากบ่นบ้างตามประสา เพียงออเดินไปปิดประตูด้านข้างหางตาเห็นว่าพีรวัสเดินผ่านไป ใจหล่อนคิดว่าเขาคงขึ้นไปนอน เมื่อปิดประตูเรียบร้อยจึงเดินกลับเข้าไปในห้องเพราะต้องเก็บแก้วกาแฟไปล้างกับชามบะหมี่ที่ยังวางทิ้งไว้ในอ่างล้างจาน แต่กลับไม่เห็นแก้วกาแฟกับแก้วน้ำบนโต๊ะ หล่อนจึงรีบเดินไปดูในครัว ภาพที่เห็นทำให้เพียงออต้องตบแก้มตนเองเบาๆ ว่าไม่ได้ฝันไป พีรวัสกำลังล้างชามและถ้วยกาแฟ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD