พีรดากลับบ้านหลังเลิกงานซึ่งไม่ค่อยเป็นเวลานักเรียกว่าตามอารมณ์อยากทำงานของตนนั่นเอง เนื่องจากวันนี้อารมณ์เสียแต่เช้าเพราะเรื่องพีรพงศ์ มิหนำซ้ำยังเห็นเพียงออขึ้นรถของชู้รักตัวเองอีกทำให้อารมณ์เสียทั้งวันจนไม่อยากทำงานทำการใดๆ และไม่อยากกลับบ้านเพราะรู้ว่าสุภาไปส่งพีรพงศ์กับสามีที่สนามบินต้องกลับดึกไม่รับประทานอาหารเย็นที่บ้านแน่นอน
“เช้าก็ลากันแล้ว เย็นจะไปส่งอีกทำไม ชิ” พีรดาพำพึมแบบนี้ทั้งวันจนถึงเวลาเลิกงาน หล่อนขับรถกลับบ้านเพื่อผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วออกไปใหม่อีกครั้ง คราแรกจะโทรศัพท์ไปชวนวินัยออกไปหาความสุขเหมือนทุกคืนแต่ภาพที่เห็นเพียงออนั่งอยู่ในรถเขาเมื่อเช้านั้นบาดตาและกรีดหัวใจนัก
ฉันเกลียดแกนังเพี้ยง ถึงแกเป็นน้องสะใภ้แต่ฉันไม่ยอมรับทั้งตัวแกและโคตรแก แกมันลูกผู้หญิงสำส่อนกับผู้ชายมักง่าย ฉันเกลียดพวกแก
“ช่วยถือมั้ยครับ” ถ้อยคำหวังดีที่ดังขึ้นข้างๆ ทำให้พีรดาหันไปมองรวดเร็วแล้วผงะถอยหลังสองสามก้าว ก็คนถามเล่นมายืนเสียชิดหันไปเกือบจะโดนปลายจมูกเขาเลยทีเดียว
“ไม่เป็นไร ฉันซื้อของไม่เยอะ” หล่อนมองของสองสามชิ้นในตะกร้าแล้วยิ้มให้ในความหวังดีของเขาแม้ไม่ชอบใจในการกระทำของคนที่อยากเรียกว่าชายแปลกหน้านัก
“คุณรดาจำผมไม่ได้หรือครับ ผมเดชดวง ทรงอินทร์ ลูกกำนันทรงยศไงครับ” เมื่อเห็นพีรดามองแปลกๆ ชายหนุ่มจึงรีบแนะนำตัว คนได้ยินชื่อย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนรีบคลายออกแล้วยิ้มกว้างขึ้น
“อ๋อ ขอโทษทีค่ะ รดาว่าแล้วหน้าคุ้นๆ คุณเดชดวงนี่เอง ไม่เจอกันหลายปีนะคะ”
“ผมไปทำธุรกิจต่างประเทศแค่ไม่กี่เดือนเองครับ ไม่ใช่หลายปี แต่ตลอดเวลาคุณรดาไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตาต่างหากถึงจำไม่ได้ เลยคิดว่าไม่เจอกันนาน” เดชดวงพูดตรงๆ ทำเอาพีรดาสะเทิ้นอายทีเดียว
“ขอโทษค่ะ พอดีว่ารดาไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้สมาคมกับใครนอกจากคู่ค้าของที่บ้านแล้วก็ญาติตัวเองเท่านั้น”
“ครับผมรู้ ครอบครัวคุณรดาคบค้าสมาคมกับคนรวยๆ ด้วยกัน คนที่ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน ครอบครัวข้าราชการท้องถิ่นอย่างผมเลยเข้าไม่ถึงเสียที”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือรดาจะพูดยังไงดี”
“เอาไว้เราไปคุยกันที่ร้านอาหารได้ไหมครับ ให้เกียรติไปทานข้าวกับผมสักมื้อจะได้คุยกันต่อ”
พีรดามองของในตะกร้าที่เลือกซื้อ หล่อนตั้งใจซื้อไปทำกับแกล้มให้วินัยซึ่งมักตั้งวงกับพีรวัสและคนงานอื่นๆ อีกสองสามคนเป็นประจำ แม้ไม่เมาหัวราน้ำแต่ก็ตั้งวงสนทนาเคล้าสุรากันทุกเย็นจนทุกคนชาชิน แม้แต่ป้าสุภาที่ทีแรกๆ ก็พร่ำบ่นแต่พีรวัสทำหูทวนลมปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาจนป้าสุภาเบื่อที่จะบ่นไปเอง
แต่วันนี้หล่อนรู้แล้วว่าน้องชายไม่ได้ร่วมวงเหล้ากับวินัยเพราะขับรถให้ป้าสุภา ส่วนวินัยกับพวกคงตั้งวงเหมือนเดิมหากทำกับแกล้มไปให้ก็มีคนกินอยู่ดีแต่เพราะยังเคืองวินัยที่รับเพียงออขึ้นรถไปเมื่อเช้า จึงรับคำชวนจากเดชดวงอย่างง่ายดาย
“ก็ได้ค่ะ” หล่อนว่าพร้อมหยิบของวางคืนบนชั้นโชว์สินค้า
“อ้าว! ไม่ซื้อแล้วหรือครับ”
“ไม่ค่ะ ค่อยซื้อวันหลัง ซื้อแล้วทำสดๆ ใหม่ๆ อร่อยกว่า”
“คุณรดาคงทำอาหารเก่ง นี่ออกแนวกับแกล้มหรือเปล่าครับ” เดชดวงถามเพราะเห็นหล่อนเพิ่งหยิบหอยนางรมกับแหนมวางคืนไว้ในตู้แช่เย็น พีรดายิ้มน้อยๆ แล้วตอบ
“น้องชายรดาชอบตั้งวงกับคนงาน รดาเลยทำกับแกล้มให้น้องบ้างในบางวันค่ะ”
“คุณรดาเป็นพี่สาวที่ใจดีจัง”
“ก็เรามีกันสองคนพี่น้องนี่คะ”
“แต่ผมจำได้ว่าพวกคุณมีกันสี่คนนี่นา มีคุณรดากับน้องชายแล้วพี่ชายคนโตที่ชื่อพงศ์กับเด็กผู้หญิงอีกคนชื่ออะไรนะผมจำไม่ได้แต่ได้ข่าวว่าแต่งงานกับน้องชายคุณรดาแล้ว” เดชดวงพูดเพื่อเน้นให้รู้ว่าตนเองใส่ใจครอบครัวนี้เพียงใด แต่เหมือนพีรดาไม่ได้ยินดีไปกับสิ่งที่เขาเอ่ยเลยจึงหน้างอและไม่พูดอะไรหยิบของวางคืนชั้นไปเรื่อยๆ
“ไปกันเถอะครับ” เดชดวงรีบชวนเมื่อหล่อนหยิบของชิ้นสุดท้ายคืนแล้ว พีรดายิ้มรับแล้วเดินไปกับเขาทันที