ความเงียบงันเริ่มเกาะกินบรรยากาศ มีเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งสองที่ดังสอดประสาน ณัชรินทร์ดึงผ้านวมขึ้นชิดปลายคาง รอดูท่าทีของเลฟ กระทั่งมั่นใจว่าเขาเพียงแค่นอนอยู่ข้างกัน จึงได้เอ่ยวาจา
“แฟนของน้องสาวฉัน ตายแล้วแน่เหรอ”
“อือ...”
“ทำไมล่ะ เจ้าของเพชรได้เงินไปแล้วก็ควรจะจบสิ”
“ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทยนะ เรื่องมันไม่ได้จบง่ายขนาดนั้น แฟนของน้องสาวเธออาจจะมีศัตรูคนอื่นอยู่ก็ได้ คนที่พาผู้หญิงที่ตัวเองรักเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้กาสิโนน่ะ เธอคิดว่าเป็นคนดีเหรอชาช่า”
ณัชรินทร์หนักอกหนักใจนัก เธอยังไม่คุ้นเคยกับแฟนของน้องสาวนักหรอก ไม่มีความผูกพันใดๆ เต็มที่ก็แค่ใจหายตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายตายไปก็เท่านั้น แต่กับพาขวัญนี่สิ ผู้หญิงตัวคนเดียวที่หายไปพร้อมเพชรมูลค่าสูงนั่นน่ะ เธอไม่รู้เลยว่าเจ้าหล่อนจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดในตอนนี้
“ถ้าเจอพาขวัญแล้วเธอไม่มีเพชรล่ะ”
“ไม่มีทางหรอก ถ้าเพชรไม่อยู่กับเธอแล้วเธอจะหนีทำไมล่ะ”
“เธออาจกำลังหนีคนที่ทำร้ายแฟนของเธอก็ได้”
“ไม่รู้สิ นั่นไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันต้องการแค่เพชรเท่านั้น” เลฟยืนยัน
“ตามหาเธอ ช่วยเธอ เอ่อ...อย่างน้อยถ้าคุณได้เพชรคืนแล้ว ก็แค่ปล่อยเธอไป ส่งเธอกลับเมืองไทยจะได้ไหม”
“นั่นขึ้นอยู่กับเธอนะชาช่า ถ้าระหว่างนี้เธอทำตัวดีๆ ไม่ดื้อ ไม่โวยวาย ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้ตัวอุ่นๆ และถอดมันออกเมื่อฉันต้องการ นั่นแหละ บางทีฉันอาจพิจารณาข้อเสนอของเธอก็ได้”
เลฟตะแคงร่างมาทางนี้ และแม้แสงจากโคมไฟไม่ได้สว่างมากมาย แต่เธอกลับเห็นความหล่อเหลาของเขาอย่างชัดเจน โครงหน้าเหลี่ยมคมได้รูป จมูกโด่งจนน่าใจหาย ดวงตางดงามชวนมองนั่นอีก หากเขาเพียรยิ้มให้ได้สักครึ่งของอเล็กเซย์ละก็ รับรองว่าเธอไม่มีทางแยกพวกเขาได้แน่ว่าใครเป็นใคร
“ค่ะ” เธอตอบเพียงเท่านั้นแต่ในใจร่ำร้องว่า อย่าฝัน...อย่าฝัน และอย่าฝัน! เธอไม่มีทางเอาพรหมจรรย์อันหวานหอมใส่พานถวายเลฟอย่างเด็ดขาด ที่ต้องทำก็แค่ซื้อเวลาให้ได้พาสปอร์ตมาก่อน และเลฟตามตัวพาขวัญเจอเมื่อไหร่ เธอจะพาแม่ตัวแสบนั่นเผ่นกลับเมืองไทยให้ไวทีเดียว
พรืด!
ร่างบอบบางของแม่กระต่ายตัวน้อย ถูกดึงเข้าสู่วงแขนของเลฟแรงๆ
ณัชรินทร์ตื่นตระหนก ก็นึกว่าเขาหยุดแล้วนี่นา แล้วนี่อะไรอีก จะแกล้งเธอเหรอ
“หยุดดิ้น แค่กอด ไม่ได้จะทำอะไรหรอกน่า”
น้ำเสียงเขาติดรำคาญ แต่ณัชรินทร์ถลึงตาใส่
“ฉันจะเชื่อได้ยังไง”
“เพราะถ้าฉันจะทำละก็ ป่านนี้เธอเสร็จไปสามรอบแล้ว เอาละ...ฉันง่วง เราจะนอนกันได้หรือยัง”
“ยัง! กลับไปนอนบนเตียงสี่เสาของคุณสิ”
“กลับแน่ถ้าเธอกลับด้วย กลิ่นเธอติดอยู่บนหมอน ฉันนอนไม่ได้เลย”
ช่างเป็นคำแก้ต่างที่ชวนให้คนฟังแก้มร้อนผ่าว เธอไม่ใช่พวกกลิ่นตัวแรงเสียหน่อย
“ฉันจะย้ายไปนอนห้องอื่นถ้าคุณยืนยันว่าจะนอนห้องนี้”
“ทำไมต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยาก นอนๆ ไปเถอะ ขอร้อง...ตั้งแต่รู้จักเธอ ฉันพูดมากกว่าปกติเป็นสองเท่าเลย พูดจนเมื่อยปากไปหมดแล้ว”
“ก็ฉันไม่อยากนอนเตียงเดียวกับคุณนี่!”
“งั้นมีเซ็กซ์กันเถอะ ถ้าได้ทำให้มันจบๆ ฉันคงไม่อยากแตะเธออีก”
“ไม่มีทาง!” ยืนยันเสียงแข็งแล้วกัดฟันกรอดๆ เลฟยังกอดเธอไว้ ดันศีรษะเธอเข้าหาอกอุ่นของเขา ไม่รู้สิ ถึงการกระทำจะเอาแต่ใจไปสักนิด ปากร้ายไปสักหน่อย แต่อกเขานี่อุ่นดีจัง แทนที่จะรังเกียจอ้อมกอดของเลฟ ลึกๆ แล้วเธอกลับพอใจ หรือเพราะเขามีหน้าตาเหมือนอเล็กเซย์ก็ไม่รู้
“จะนอนท่านี้เหรอ ไม่อึดอัดหรือไง” เธอท้วง
“นอนเถอะน่า เผื่อเธอนอนละเมอกลิ้งตกเตียงเพราะฝันร้าย จะมากล่าวหาว่าฉันเป็นต้นเหตุอีก”
“นั่นคือเหตุผลเหรอ”
“อือ...”
เขาครางอืออาแทนคำตอบ ณัชรินทร์ไม่อยากเห็นด้วยเลย แต่พอเขากอดไว้อย่างนี้ ความเป็นกุลสตรีก็ถูกพับเก็บชั่วคราว ตอนที่เลฟไม่ตะคอกเสียงดัง ไม่มีปืนเข้ามาข้องเกี่ยว เขา...ก็ดูคล้ายๆ อเล็กเซย์ที่แสนดีละนะ เอาเถอะ ไหนๆ ก็เป็นฝาแฝดนี่ เธอจะคิดว่าคนที่กอดอยู่คืออเล็กเซย์ก็แล้วกัน
“ฉันไม่ใช่นายนั่น”
ณัชรินทร์ตาเบิกโต นี่เขาอ่านใจเธอได้เหรอ ทำไมถึงได้...
“ดูจากที่ยอมนอนนิ่งๆ ไม่อ้าปากเถียงฉอดๆ เดาได้เลยว่าเธอกำลังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ ถึงฉันจะดูคล้ายอเล็กเซย์ตอนนอนนิ่งๆ อย่างนี้ แต่เชื่อเถอะว่าฉันไม่ใช่นายนั่นหรอก”
“รู้น่า ต่างกันอย่างฟ้ากับเหว ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน ฉันก็แยกออกหรอก อเล็กเซย์น่ะเทพบุตรดีๆ นี่เอง ส่วนคุณนี่...ซาตานชัดๆ”
เขายิ้มมุมปาก ณัชรินทร์เห็นแล้วอยากเอามือไปฉีกให้ปากแหกถึงรูหู หมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์
“อยากมีเซ็กซ์กับซาตานดูไหมล่ะ เผื่อจะได้เจอโลกอีกใบที่น่าตื่นตะลึง”
“บังเอิญช่วงนี้ฉันเจอเรื่องชวนให้ตื่นตะลึงมาจนเอียนแล้ว ยังไม่สะดวกจริงๆ ค่ะ ขอบคุณ” รีบเลย รีบตอบเขาแล้วหุบปากฉับ
“ก็ดี เชื่อสิ ถ้าเธอทำตัวดีๆ ฟังคำสั่งและทำตามอย่างเคร่งครัด ฉันก็จะไม่ทำอะไรเธอ แต่ถ้าเธอดื้อละก็ รับรองว่าได้ย้ายไปนอนบนเตียงสี่เสา และได้ครางกระเส่าทั้งคืนแน่”
“โอเค...ฉะ...ฉันง่วงแล้ว คุณก็ง่วงไม่ใช่เหรอ นอนสินอน...นอนได้แล้ว”
แก้ต่างแล้วหลับตาหลงเสีย พยายามนอนนิ่งๆ นอนให้หลับ จะได้ไม่ถูกรุกรานจากเจ้าของอ้อมกอด ทว่ายามที่ใกล้จะผล็อยหลับ กลับรับรู้ได้ถึงริมฝีปากที่แตะลงยังหน้าผาก ไม่แน่ใจว่าฝันหรือไม่ แต่ว่า...มันอุ่นดีนะ จูบเบาๆ ของเขา ถ้าเป็นฝันก็นับว่าสมจริงมากๆ เลย