EP3/2จูบของเลฟและกลิ่นซิก้า

2575 Words
“อา...รสชาติแบบนี้ ทำไม...ไม่เคยเจอนะ” เขาพร่ำพูดอยู่ข้างหูของณัชรินทร์ เมื่อบดจูบจนหนำใจก็เลื่อนปากลงมาที่ข้างลำคอ ซุกซบอยู่ตรงนั้น สูดดมและดูดดึงผิวเนื้ออ่อนอย่างตะกละตะกราม หญิงสาวใจเต้นถี่ อยากขัดขืนให้เต็มที่ แต่กำลังที่มีกลับถูกลิดรอนให้ลดลง จมูกเขา ปากเขา ลมหายใจเขา อานุภาพช่างรุนแรงนัก เธอเหมือนคนที่อดอยากจนไร้เรี่ยวแรง ต้องรอรับสัมผัสอุ่นๆ จากเขาเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย ช่างโง่เง่านัก ทำไมถึงได้พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มล่ะณัชรินทร์ ทำไมกัน! “อย่า...เลฟ อย่าเพิ่ง ไม่ใช่...ตอนนี้ ไม่ใช่...ที่นี่...” “ชู่ว์...ที่ไหนก็เหมือนกัน ตอนไหนก็ไม่แตกต่าง ไม่ต้องรอแล้ว ฉันไม่อยากรอ อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัวเลยชาช่า” มิใช่แค่ลมปาก แต่การกระทำนั้นบอกว่าปรารถนาหญิงสาวเพียงใด เขาอุ้มหล่อนไปวางบนโต๊ะ ไม่สนมือเล็กที่คอยแต่จะปัดป้องมิให้จับให้กอด ดูเอาเถอะ หล่อนตอบสนองเขา รับรสจูบเขา แต่ก็ยังขัดขืน มันน่าฟาดก้นนัก “ไม่...ขอร้อง เลฟ...ไม่!” ก๊อกๆๆ ประตูถูกเคาะด้วยมือของผู้ช่วยมากวัย เลฟเงยหน้าจากซอกคออุ่นของณัชรินทร์ เพื่อจ้องมองฟีโอดอร์ด้วยดวงตาที่คมกริบยิ่งกว่าใบมีด “โอ...ขอโทษครับครับเจ้านาย” “ออกไป!” น้ำเสียงของเลฟดุกร้าว ดวงตาขุ่นขวาง แต่ฟีโอดอร์ก็ไม่ได้ทำอย่างที่เจ้านายต้องการ “เกรงว่าจะไม่ได้ครับ ญาติผู้แสนดีของเรารออยู่สักห้านาทีได้แล้ว” ณัชรินทร์ได้ยินอย่างนั้นก็ผลักเลฟออก เสื้อผ้าของเธอไม่ได้ยับย่นเท่าไหร่นัก ดีที่มันเป็นเดรสแนบเนื้อ เลยไม่ต้องกังวลกับมัน แต่เส้นผมยุ่งๆ นี่สิ เพราะนิ้วแข็งแรงของเลฟแท้ๆ เชียวที่ทำให้เธอต้องมายืนสางผมอย่างขัดเขิน “พวกเขามาทำไมตอนนี้ เรายังไม่ได้เชิญ” “อาจเพราะใครบางคนที่กำลังเนื้อหอม และคงไม่ใช่แค่พ่อลูกคอลลินหรอกครับ ที่อยากรู้ว่ามิสชาช่าเป็นใคร” ฟีโอดอร์มิวายเอ่ยถึงข่าวซุบซิบที่กำลังเป็นกระแส ที่นี่เป็นเหมือนอาณาจักรเล็กๆ และครอบครัวมาติเนซก็เป็นเหมือนเจ้าของอาณาจักร ไม่แปลกเลยหากจะมีข่าวเรื่องคนในตระกูลปรากฏในสื่อต่างๆ อยู่เสมอ เสียงพ่นลมหายใจอย่างรำคาญดังออกจากปากของเลฟ เขายังไม่อยากเจอใคร ยิ่งในตอนที่กำลังจะทำอย่างอื่นกับณัชรินทร์อย่างนี้ มันน่าหงุดหงิด! “ฉันไปได้หรือยัง” ณัชรินทร์ใคร่รู้ “ยัง เธอต้องลงไปข้างล่างกับฉัน ข่าวออกไปแล้ว ฉันคงซ่อนเธอไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วง อย่างน้อยๆ ก็มั่นใจได้ว่าพวกเขาไม่มีทางคิดร้ายกับเธอแน่ พวกเขาเป็นญาติที่สนิทที่สุดของฉันแล้ว” ณัชรินทร์ทำหน้าเหม็นเบื่อเหลือกำลัง เธอไม่ได้อยากเจอญาติเขานี่ แล้วเขาเป็นมาเฟียไง ญาติเขาก็คงมีแต่พวกมาเฟียหน้าโหดๆ นั่นแหละ ไม่อยากเจอ! จู่ๆ เอวบางก็ถูกจับด้วยสองมือเขา ณัชรินทร์ทำหน้ายุ่ง “อะไร?” “ชุดนี้...ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่” เอ่ยตามที่คิดแล้วกวาดตามองชุดหล่อนอีกรอบหนึ่ง ชุดสวยแบรนด์ดัง เนื้อผ้าแนบไปกับผิวเนื้อ มันดูดีเพราะคนสวมรูปร่างเล็กบางอย่างคนเอเชีย แต่เขา...ไม่ชอบ! “อย่ามายุ่งกับเรื่องขี้ปะติ๋วนี่ได้ปะ?” เลฟขมวดคิ้วรุนแรง “ขี้ปะติ๋ว? คำนี้มันคืออะไร?” ถามเพราะไม่เข้าใจความหมาย คุณนายวาเลนติน่าเคยพูดคำนี้หรือเปล่านะ “โอ๊ย! เลฟ! อย่ากวนประสาทได้ไหม” เขายกมือยอมแพ้ “โอเคๆ ชุดนี้ก็ได้ เพลย์บอยตัวร้ายอย่างวาดิมคงไม่สนผู้หญิงตัวเตี้ยเท่ามดอย่างเธอหรอก” ประชดแบบนั้นแต่ไม่วายเหลือบมองหน้าอกหน้าใจของณัชรินทร์ มันดู...โดดเด่นเกินไปเมื่อซ่อนอยู่ใต้ชุดที่รัดรึงผิวกายเช่นนี้ “ฉันหุ่นมาตรฐานหญิงไทยย่ะ คุณต่างหากที่สูงเป็นเสาไฟฟ้า” ประชดคืนแล้วหันหลังจะก้าวจากไป แต่เลฟไวกว่า คว้าแขนเธอไว้ “อะไรอีกล่ะ” “แสดงความเป็นเจ้าของ” “เจ้าของอะไร” “เธอไง” แล้วณัชรินทร์ก็เริ่มเข้าใจ เมื่อตลอดเวลาที่เดินสู่ห้องรับรองอันใหญ่โตโอ่อ่า เลฟดึงเธอไว้ข้างกายเสมอ แม้แต่ตอนที่แนะนำให้เธอรู้จักกับสองพ่อลูกตระกูลคอลลิน เทรเวอร์และวาดิม เทรเวอร์เป็นชาวอังกฤษ และวาดิมลูกชายของเขาเป็นลูกครึ่ง วาดิมมีเชื้อสายของคนบนเกาะนี้ เหมือนเลฟและอเล็กเซย์ สองพ่อลูกหน้าตาเป็นมิตรพอสมควร เทรเวอร์ยิ้มให้เธออย่างผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ในขณะที่วาดิมซึ่งเป็นลูกชายนั้น มองเธอตาไม่กะพริบ “นึกว่าข่าวผิดพลาด ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงสินะ ว้าว...น่าตื่นเต้นที่รู้ว่าหลานมีคนข้างกายเสียที” เทรเวอร์ เอ่ยขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว ใบหน้าขาวผ่องที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งวัย เห็นรอยย่นที่หางตาชัดเจนมากขึ้นเมื่อเจ้าตัวพูดพลางยิ้ม “ข่าวก็เขียนเกินจริงไป ก็เหมือนทุกที ผมอาจจะควงเธอไม่ถึงพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะรู้” เลฟตอบอย่างที่ควรจะตอบ ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าณัชรินทร์มีอิทธิพลต่อเขา มันเสี่ยงเกินไปอย่างที่คุณนายวาเลนติน่าว่าเอาไว้ ณัชรินทร์พยายามสงบปากสงบคำ ถึงพวกเขาจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่เธอเข้าใจนะ และการตกเป็นหัวข้อสนทนา เธอก็ไม่ชอบเลย เลฟพาแขกนั่งลง ชาร้อนๆ ถูกเสิร์ฟพร้อมขนมพื้นเมือง แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่าบทสนทนาของผู้มาเยือน “มาเจอเลฟได้ยังไงล่ะ ชาช่า” เทรเวอร์ถามแม่สาวจากเอเชีย ดวงตาหล่อนสีน้ำตาลวับวาว เหมือนตากระต่ายเลย “คะ? เอ่อ...” “ที่คลับน่ะ ทำไมเหรอ” เลฟย้อนถาม “เปล่า ก็แค่ถามไง” เทรเวอร์ปฏิเสธทันใด มองหลานชายแล้วยิ้มกริ่ม ท่าทางหลานจะห่วงของเล่นชิ้นใหม่น่าดู “นายไม่คิดจะทักทายฉันบ้างเหรอ” เลฟหันไปทางลูกพี่ลูกน้อง นึกอยากควักลูกตาของวาดิมทิ้งเสีย มันเอาแต่จ้องแม่กระต่ายน้อยไม่กะพริบตา “อย่าเพิ่งขัดสิ ทำไมฉันต้องมองพี่ด้วยล่ะ ไม่เห็นน่ามองสักนิด” วาดิม หนุ่มนักรักเลือดผสม โต้วาจากับคนที่เป็นเหมือนพี่ชาย จะเป็นไรไปล่ะ ในเมื่ออีกหน่อยเลฟก็คงเบื่อเจ้าหล่อนแล้วโยนทิ้ง บางทีเขาอาจจะขอสนุกกับหล่อนบ้างเป็นครั้งคราว ตอนที่เลฟเบื่อแล้ว ถ้าเป็นแม่สาวผิวเหลืองนวลอย่างหล่อนแล้วละก็ เขาเต็มใจอ้าแขนรับเต็มที่เลย “ฟีโอดอร์!” เลฟเรียกหาตัวช่วย ฟีโอดอร์ปรากฏกายในเสี้ยวนาที เขาปรายหางตาใส่ร่างเล็กของณัชรินทร์โดยไม่ต้องเอ่ยคำสั่งใดๆ ฟิโดออร์จากที่อยู่ด้วยกันมานานก็รับรู้สิ่งที่เจ้านายสั่งด้วยหางตา นาทีต่อมาเสื้อคลุมขนมิงค์ตัวสวยก็ได้พาดบนบ่าของณัชรินทร์ ปิดกั้นส่วนเว้าส่วนโค้งของแม่สาวร่างเล็กไม่ให้วาดิมจ้องมอง “ฉันอุ่นจนร้อนแล้วเลฟ” เธอบอกให้เขารู้ เตาผิงแบบโบราณในห้องนี้ ยังทำหน้าที่ของมันอย่างขันแข็ง ห้องนี้เลยอุ่นยิ่งกว่าติดฮีตเตอร์ยี่ห้อแพงๆ เสียอีก “อ้อ...นึกว่าชินแล้ว มาจากเมืองร้อนไม่ใช่เหรอ” คนถูกถามจนใจจะเถียง ก็ได้เจ้าค่ะ เธอจะยอมซ่อนร่างอยู่ใต้เสื้อคลุมตัวหนานี่ก็แล้วกัน “โอ...หวงชะมัด” วาดิมเผลอครางออกมา “ของเล่นใหม่ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา” เลฟเอ่ยอย่างไม่คิดปิดบัง ณัชรินทร์ทำตาขวางใส่เลฟ คำก็ของเล่น สองคำก็ของเล่น เธอหน้าตาไม่เหมือนคนหรือไง “ถ้าเบื่อเลฟละก็ แวะไปที่กาสิโนสิ ผมขลุกอยู่ที่บาร์ของไนท์คลับ ให้ผมได้เลี้ยงเครื่องดื่มคุณสักหน่อยนะครับ คุณผู้หญิง” ณัชรินทร์ได้แต่ยิ้มให้น้ำใจไมตรีของคนที่มองตาเดียวก็รู้ว่าเจ้าชู้ตัวพ่อ เธอคิดว่าเพื่อความปลอดภัย ควรประหยัดคำพูดจะดีกว่า “ฉันเลี้ยงผู้หญิงของฉันได้ นายไม่ต้องมาเลี้ยงหรอก” “โอ...สงสัยจะหวงจริงแฮะ ปกติพี่ไม่เป็นแบบนี้” เลฟยักไหล่ แสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะดึงกล่องเก็บบุหรี่สีเงินเงาวับออกมาเปิดแล้วดึงบุหรี่มาคีบไว้ ปลายนิ้วเรียวของพ่อมาเฟีย คีบมวนบุหรี่อย่างมีมาด ราวกับว่ากระทำมันอยู่เป็นนิจ เทรเวอร์เห็นหลานสูบบุหรี่ก็ดึงซิก้ามวนเก่งออกมาจุดสูบเช่นกัน ณัชรินทร์เอ่ยขอตัวกับทุกคนเพราะเธอไม่นิยมสูดควันพิษ แต่เลฟไม่ให้ไปไหน และบังคับให้นั่งลงที่เดิม “ฉันเหม็นกลิ่นบุหรี่” เธอกระซิบบอกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน กลิ่นบุหรี่ของเลฟนั้น เธอพอจะเคยได้กลิ่นมาบ้างตอนที่เขามอบจุมพิตให้เธออย่างดูดดื่ม แต่อย่างไรก็ไม่ยินดีหากเขาจะมาจุดสูบอยู่ใกล้ๆ เธอเหม็น เธอปวดหัว และ... จู่ๆ กลิ่นบุหรี่แปลกๆ ก็ลอยเข้ามาในจมูก ณัชรินทร์ทั่วแข็งทื่อ จ้องซิก้าในมือเทรเวอร์เขม็ง เส้นขนบนร่างลุกเกรียวถ้วนทั่ว หายใจไม่ทั่วท้อง และนึกอยากอาเจียนขึ้นมาดื้อๆ “เธอหน้าซีด” วาดิมท้วงขึ้นเมื่อเห็นณัชรินทร์หน้าซีดลงเรื่อยๆ เลฟหันมองคนข้างๆ จับบ่าบางให้หันมาหา “เป็นอะไร” “ฉะ...ฉัน ฉันเหม็นกลิ่นบุหรี่ ฉะ...ฉัน หายใจ...ไม่ออก” “โอ...ขอโทษจริงๆ” เทรเวอร์รีบดับซิก้าของตัวเอง ในขณะที่เลฟบดมวนบุหรี่ในมือเข้ากับที่เขี่ยจนมันหักงอไร้รูปทรง ณัชรินทร์เอ่ยขอตัวแล้วลุกออกมาจากตรงนั้น หากอยู่ต่อเธอคงได้ขาดใจตาย เธอหายใจเข้าลึกๆ พยายามสูบลมเข้าปอดให้มากที่สุด เส้นขนบนร่างยังลุกเกรียวไม่หยุด สมองคิดถึงแต่กลุ่มควันที่ถูกพ่นออกมาจากปากของเทรเวอร์ “มันไม่ใช่กลิ่นบุหรี่ ไม่ใช่...บุหรี่...ธรรมดา” ณัชรินทร์พร่ำพูด มือข้างหนึ่งค้ำยันผนังไว้ มืออันสั่นระริกเพราะกริ่งเกรงบางสิ่ง เสียงคนเดินมาทางนี้ เลฟนั่นเอง เขามองเธอแล้วมุ่นคิ้ว “คุณเป็นอะไรกันแน่ หน้าซีดมาก ดูไม่ค่อยดีเลย” เลฟตามเจ้าหล่อนออกมา ณัชรินทร์เป็นอะไร เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย “มันเป็นกลิ่นซิก้า” “หือ?” “ไม่ใช่บุหรี่ธรรมดา แต่เป็นกลิ่นซิก้า” ณัชรินทร์พร่ำพูด แต่เลฟไม่เข้าใจ “ใจเย็นๆ ชาช่า ใช่เย็นๆ” เธอเอนร่างพิงผนัง กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ มือสั่นระริกกอดตัวเองไว้อย่างเกรงกลัว “ชาช่า?” เลฟดึงร่างหล่อนมากอด มือข้างหนึ่งโอบหลังหล่อนไว้ มืออีกข้างแตะลูบแก้มซีดเซียว ใบหน้าหล่อนแทบจะไร้สีสัน เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายที่ไรผมเหนือหน้าผาก แต่ร่างกายกลับสั่นระริกราวกับคนที่กำลังเหน็บหนาว “กลิ่นซิก้า...เลฟ กลิ่น...ซิก้า...” เธอบอกเขาแม้เขาไม่เข้าใจ กระบอกตาเริ่มร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาอุ่นๆ จะไหลอกมา ก่อนที่ใบหน้าของเลฟ...จะเลือนหายไปจากสายตา วูบ!!! “ชาช่า!?” เสียงร้องอันตื่นตระหนกของเลฟ พลอยทำให้สองพ่อลูกที่นั่งอยู่ในห้องพากันลุกออกมาดู ทั้งสองประหลาดใจเมื่อเห็นเลฟอุ้มแม่สาวร่างเล็กขึ้นชั้นบน ปกติเลฟไม่ใช่คนที่จะปฏิบัติต่อสตรีเช่นนี้ ผู้หญิงสำหรับเขาก็เป็นเพียงสินค้าชิ้นหนึ่งที่สามารถใช้งานให้สมกับราคาที่ต้องจ่าย และพอใช้เสร็จก็โยนทิ้งเท่านั้น “ผู้หญิงคนนั้น คงไม่ใช่แค่ของเล่นแล้วละมั้ง” วาดิมเอ่ยออกมา สองตายังจ้องอยู่ที่ร่างของเลฟบนขั้นบันได แผ่นหลังกว้างและท่อนแขนแข็งแรงนั้น โอบอุ้มแม่สาวร่างเล็กอย่างทะนุถนอม “นั่นสิ” เทรเวอร์รับคำลูกชายเสียงแผ่ว มองตามร่างหลานชายแล้วครุ่นคิด จุดอ่อนของผู้ชายมักเป็นเรื่องผู้หญิง และเขาเริ่มจะเห็นจุดอ่อนของเลฟรำไรแล้ว “เรากลับกันดีกว่า เลฟลงไม่ลงมาแล้วล่ะ” “พ่อกลับไปก่อนเลย ผมจะไปผับสักหน่อย มีงานค้างอยู่” “ไปทำงานหรือไปทำอะไร ผู้หญิงเป็นแค่สินค้า อย่าไปยุ่งให้มันมากนัก” “โธ่...ก็แค่เรื่องสนุกของพวกผู้ชายน่า อย่าวุ่นวายกับผมนักเลย” แล้ววาดิมก็เดินจากไป ไม่สนสิ่งที่บิดาสั่งสอน เทรเวอร์ได้แต่ส่ายหัวให้ความไม่เอาไหนของลูกชาย หากวาดิมเอางานเอาการมากกว่านี้สักนิด อาจได้คุมเกาะนี้สักครึ่งก็เป็นได้ ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน น่าเสียดายจริงๆ ภายในโรงแรมเล็กๆ ราคาประหยัดที่ พาขวัญ พาตัวเองมาซ่อนตัว เธอถูกคนของพวกมาเฟียไล่ล่าจนชายคนรักพลาดท่าถูกยิงเสียชีวิต เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างของแฟนหนุ่มอยู่ที่ไหน ก็อยากคร่ำครวญต่อการสูญเสีย แต่ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือหาทางเอาตัวรอด เธอกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว และกำลังขบคิดสิ่งที่จะทำต่อไป โทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้กำลังรายงานข่าวเป็นภาษาถิ่นที่เธอพอจะฟังรู้เรื่องบ้าง มันชวนให้ตกตะลึงจนต้องเข้าไปจ้องเขม็งชนิดที่ลูกตาแทบจะติดกับจอ ตระกูลมาติเนซไม่ต่างจากราชาแห่งเกาะนี้ เธอหนีหัวซุกหัวซุนมาจากกาสิโนของตระกูลนั้นก็จริง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วสินะ ณัชรินทร์ไปอยู่ข้างกายเลฟ ผู้กุมบังเ**ยนของเกาะนี้ได้อย่างไร ไม่น่าเป็นไปได้เลย สิ่งที่คิดไว้เลยยากมากขึ้นไปอีก แต่ช่างปะไร เพราะทางเดียวที่เธอจะรอดไปจากเกาะนี้ได้ คงต้องพึ่งพาพี่สาวจอมเซ่ออยู่ดี “รอฉันหน่อยนะ ฉันกำลังจะไปหาพี่แล้ว รอฉันหน่อยนะพี่” พาขวัญเปรยขึ้นกับหน้าจอโทรทัศน์ที่ยังฉายภาพของเลฟกับณัชรินทร์ที่หน้าร้านเพชรแห่งหนึ่ง เธอรีบเก็บข้าวของที่มีเพียงน้อยนิด ยัดทุกอย่างลงกระเป๋าแล้วก้าวออกจากโรงแรมแสนซอมซ่อ กะว่าจะหารถสักคันนั่งไปที่คฤหาสน์ของมาติเนซ ทว่าเธอคิดเรื่องยุ่งยากเกินไป เพราะเพียงแค่ก้าวขาออกจากห้องมาโผล่ที่ล็อบบี้เล็กๆ ของโรงแรม ชายชุดดำมากกว่าหนึ่งก็กรูเข้ามาหาเธอ จับแขนเธอแน่นแล้วหิ้วร่างเธอไปขึ้นรถ ไม่แยแสแม้ว่าเธอจะส่งเสียงกรีดร้องอย่างตื่นตกใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD