EP 2/3 ผู้หญิงของมาเฟีย

1109 Words
ณัชรินทร์ทิ้งกายลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า เธอถูกคุณนายวาเลนติน่าใช้งานจนล้าไปหมด จำไม่ได้ว่าตั้งแต่กลับมาจากข้างนอก เธอเปลี่ยนชุดไปกี่ชุดแล้ว เธอไม่ใช่ตุ๊กตานะ แต่ดูเหมือนว่าวาเลนติน่าจะไม่เชื่อแบบนั้น ประตูตู้เสื้อผ้าเปิดอยู่ มองเข้าไปยังเห็นเสื้อโคทที่พาขวัญยกให้ เธอมองมันราวกับมองลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ป่านนี้พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างนะ คงจะอยู่ดีมีสุขกระมัง เปลือกตาบางปิดลงเสีย ไม่อยากคิดถึงเรื่องใดให้เหนื่อยใจ เธอนอนนิ่งๆ ปล่อยสมองให้ว่างเปล่าสักพัก กระทั่งสาวใช้มาบอกว่าได้เวลาอาหารค่ำจึงได้ย้ายร่างลงจากเตียงนอน บนโต๊ะตัวยาวมีอาหารมากหน้าหลายตา วาเลนติน่านั่งยิ้มอยู่หัวโต๊ะ อันที่จริงนางก็ไม่ได้น่ากลัวนะ แรกๆ อาจจะดูอึดอัดสักหน่อย แต่อย่างน้อยภาษาไทยที่ได้ใช้คุยกันก็ทำให้ทุกอย่างราบรื่นมากขึ้น “ดีที่สุดที่ฉันมี สำหรับแขกของอเล็กเซย์” นางผายมือใส่อาหารที่อยู่ในถ้วยจานราคาแพง “มันยอดเยี่ยมมากค่ะ คุณให้เกียรติหนูเกินไปด้วยซ้ำ หนูเป็นตัวภาระเสียมากกว่า” บอกเจ้าบ้านอย่างเกรงใจ แต่กวาดตามองอาหารบนโต๊ะ มันมากมายเสียจนแม้เอื้อมสุดแขนก็ยังตักไม่ถึงก็มี “กินได้ไหม ฉันให้เชฟทำอย่างสุดฝีมือเลย แม้อากาศจะเลวร้ายไปหน่อย แต่อยู่ที่นี่ไม่อดตายแน่นอน” วาเลนติน่ากล่าวอย่างภาคภูมิ ณัชรินทร์ยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเริ่มจัดการอาหารในจาน มีอาหารหลายสิบอย่าง และแน่นอนว่าส่วนใหญ่เธอไม่รู้จักชื่อของมัน เธอกินไปเรื่อยๆ ในขณะที่วาเลนติน่า ช่วยขยับจานโน้นสลับจานนี้ให้เธอได้ลองชิม “คงจะ...เหงามากใช่ไหมคะ” “หืม?” “อาหารมากมายแต่ต้องนั่งกินแค่คนเดียว” เอ่ยออกไปอย่างนั้นแล้วก้มหน้างุด กลัวว่าจะถูกตำหนิ แต่วาเลนติน่ากลับยิ้มละไมให้เธอ “ฉันชินแล้ว ถ้าเหงาก็แค่...ไปใช้เงิน คงดีถ้าลูกชายมีหลานมาให้เลี้ยงบ้าง” ตอบพลางยิ้มขัน นางก็เหมือนแม่ทั่วๆ ไป ยามที่ลูกชายไม่สามารถมาอยู่ใกล้ นางก็แค่อยากได้ตัวแทนของเขาสักคน “อยากไปเที่ยวเมืองไทยไหมคะ” ถามแล้วเฝ้ารอคำตอบ วาเลนติน่าอึ้งไปนิด มือข้างหนึ่งที่ถือมีดเล่มบางแต่คมปลาบ วางมันลงราวกับว่ามันหนักจนมิสามารถถือต่อได้ “อยากสิ แต่ว่า...ไปไม่ได้หรอก การไปเที่ยวไกลๆ โดยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลังมันไม่สนุกหรอกชาช่า เชื่อฉันสิ” ณัชรินทร์ยิ้มอย่างขออภัย วาเลนติน่าดูเงียบขรึมลงไปหลังประโยคนั้นของเธอ ทว่าไม่กี่อึดใจถัดมา เจ้าตัวก็ปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ นางมีรอยยิ้มเป็นทัพหน้าและเริ่มต้นจ้อเจรจาไม่หยุด ดูเหมือนว่าหญิงสูงวัยจะพอใจที่เธออยู่ที่นี่ หรือว่าลึกๆ แล้ว วาเลนติน่าก็แค่อยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆ คอยฟังนางพร่ำบ่นบ้างเท่านั้น สองสาวต่างวัยใช้เวลาที่โต๊ะอาหารราวครึ่งชั่วโมง ก่อนจะมานั่งในห้องรับรองที่มีชากุหลาบส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ณัชรินทร์เพิ่งเห็นว่าห้องนี้อุ่นได้โดยไม่ต้องใช้ฮีตเตอร์ อย่างน้อยท่อนฟืนที่กำลังถูกเผาในเตาผิงก็ช่วยยืนยันได้ “กลิ่นไม้ถูกเผามันหอมดี” วาเลนติน่าเอ่ยขึ้นก่อน ในชุดเดรสแขนยาวดีไซน์นำสมัย ประดับด้วยขนสัตว์ราคาแพงที่คอเสื้อ ข้อมือทั้งสองและชายกระโปรง ทำให้นางดูเหมือนภาพวาดชิ้นโบว์แดงของจิตรกรเอกสักคน วาเลนติน่านั่งอยู่หน้าเตาผิงด้วยมาดนางพญา โดยที่ณัชรินทร์นั่งอยู่ข้างๆ เหมือนแมวหลงที่ไร้เจ้าของ “ค่ะ” เธอตอบอย่างนั้นเพราะไม่เข้าใจความสุนทรีย์ที่นางเอ่ย อยู่เมืองไทยเธอไม่เคยได้แตะไฟแช็กด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่าความสุขตอนนั่งมองเตาผิงแล้วดมกลิ่นไม้ถูกเผานี่มันหอมอย่างไร “น้องสาวเธอขโมยเงินไปเหรอ” “ค่ะ แฟนของเธอเป็นคนที่นี่ หลังจากมื้อค่ำแสนอร่อย พวกเขาก็เอาเงินไปและทิ้งหนูไว้ที่คลับ ไม่เหลือไว้ให้แม้แต่ค่าห้องและอาหารที่จำเป็นต้องจ่าย และนั่นทำให้หนูต้องหนีออกมาจากคลับของพวกคุณ จนอเล็กเซย์ช่วยหนูไว้” “เขาเป็นคนขี้สงสาร อเล็กเซย์น่ะ ไม่เหมือนเลฟ” “พวกเขาแตกต่างกันมากค่ะ แม้ว่าจะหน้าตาเหมือนกันก็ตาม” ณัชรินทร์รีบเอ่ย แลเห็นรอยยิ้มบางอย่างบนใบหน้าของวาเลนติน่าที่เธอไม่อาจคาดเดาว่ารอยยิ้มนั้นหมายถึงอะไรกันแน่ “ใช่...สำหรับฉัน อเล็กเซย์คือดวงตะวันที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ในขณะที่เลฟ เหมือนก้อนหิมะเย็นๆ ที่มือฉันคงได้แข็งชาถ้าจับมันไว้นานเกินไป บางครั้งเขาก็บกพร่องเรื่องการเข้าหาผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เขาเรียกว่าแม่” “เหมือนคุณ...รักลูกไม่เท่ากันเลย” “ฉันรักลูกฉัน เฉพาะคนที่เชื่อฟังฉันเท่านั้นแหละ” วาเลนติน่าเฉลย ณัชรินทร์ไม่อยากเข้าใจในข้อนี้เลย “ไปนอนเถอะ ถ้าโชคดี ตื่นมาคงได้เจอพาสปอร์ตบนหมอนของเธอ” เธอยิ้มกว้างให้เจ้าบ้าน มองนิ้วเรียวที่เริ่มเหี่ยวย่นของนางตอนถือถ้วยชา ไฟในห้องที่เปิดเพียงไม่กี่ดวงทำให้แสงไฟในเตาผิงส่องกระทบมือของนาง เธอมองแล้วรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะคะ ในตอนที่หนูไร้ที่พึ่งพิงบนเกาะนี้ พวกคุณเหมือนเทวดาสำหรับหนูเลย ยกเว้นเลฟนะคะ” วาเลนติน่ายิ้มขบขันถ้อยวาจาของแม่สาวน้อย นางไล่เจ้าหล่อนกลับห้องเสีย เพื่อจะได้นั่งมองเปลวไฟในเตาผิงเงียบๆ ราวกับว่ามันจะช่วยกล่อมให้หลับลงได้ หลังจากที่หลับได้ยากเหลือเกินตั้งแต่คู่ชีวิตจากไป สามีของนางเสียไปตั้งแต่ลูกชายยังเล็ก เหมือนดั่งวังวนของพวกมาเฟีย เฉพาะคนที่แกร่งที่สุดถึงจะอยู่รอด และนั่นทำให้เขาถูกลอบยิง...ที่เมืองไทย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD