สวยๆ อย่างยัยนี่โดนเทผมไม่อยากจะเชื่อ ถึงต้องถามว่าเกี๊ยวไปทำอะไรประหลาดๆ ใส่ผู้ชายพวกนั้นหรือเปล่านี่สิ ยัยนี่ชอบปากจัด ด่าเก่งยิ่งกว่าเครื่องจักรอีก
“ไม่ได้ทำ”
“ไปปากไม่ดีใส่พวกนั้นหรือเปล่า?”
“จะบ้าหรือไง ฉันไม่ได้ปากหมาไปทั่วนะ” ใช่ แต่กัดผมน่ะเก่งฉิบหายกับผู้ชายคนอื่นคงจะแอ๊บแบ๋วน่าดู “พวกนั้นคงหวังฟันฉันมั้ง พอไม่ได้ก็เลยไป”
“...”
“เหมือนนาย” มองค้อนผมผ่านกระจกขณะที่เกี๊ยวกำลังเอารองพื้นทาทั่วใบหน้า กรีดตาและสุดท้ายก็ทาลิปสติกสีชมพูฉ่ำวาวเป็นอันเสร็จ จากศพเมื่อกี้กลายเป็นสาวสวยในพริบตาเลยแหะ ผมส่ายหน้าไปมาขณะมองข้อมือซ้ายของเกี๊ยวที่ดูเหมือนจะไม่ได้แกะพลาสเตอร์ยาออกตั้งแต่เมื่อวาน จึงคว้าข้อมือเธอมาแกะพลาสเตอร์ออกเห็นรอยแดงบนผิวเนื้อผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด “อะไร?”
“เธอลืมทายาที่ฉันให้ไปใช่ไหม”
“เอ่อ ลืมอะ พอดีเมื่อคืนฉันเขียนแบบทั้งคืนเลย”
“ให้ตายสิวะ อยากจะสักก็หัดดูแลตัวเองด้วย ติดเชื้อขึ้นมาร้านฉันไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน”
“บ่นเก่งจริง” เกี๊ยวเดินตามผมเข้ามาในห้องสักพลางยืนพิงขอบโต๊ะกระจกภายในห้อง ผมหยิบครีมทารอยสักออกมา พลางล้างมือตรงอ่างล้างให้สะอาด
“ไม่ได้โดนน้ำนะ”
“อือ ครบ 24 ชม. พอดี” ผมบีบครีมขนาดเท่าเมล็ดถั่วและทาบริเวณรอยสักบางๆ บนข้อมือเกี๊ยวที่เล็กมากผมกำมิดเลยแหะ
“ห้ามโดนแดด ไม่ต้องปิดพลาสเตอร์ยาแล้ว”
“โอเค” เมื่อทายาสำหรับรอยสักเรียบร้อย ผมก็เงยหน้าสบตากับเกี๊ยวที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว “ไม่อยากจะเชื่อว่านายก็มีมุมแบบนี้ด้วย”
“ฉันไม่อยากให้ร้านฉันโดนเธอฟ้องเพราะไม่ดูแลตัวเองหลังสักต่างหาก”
“ชิ” เกี๊ยวเบ้ปากใส่ผมก่อนจะดึงข้อมือตัวเองกลับไปดูรอยสักที่ดูเหมือนจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเพราะเป็นการสักเส้นสีดำไม่ได้ลงสีเหมือนแป้งร่ำเพื่อนสนิทของไอ้สอง รายนั้นชอบสักลายมินิมอลแบบลงสีซะส่วนใหญ่ “เมื่อคืนนายส่องไอจีฉันใช่ปะ”
“รู้ได้ไง?” ผมถึงกับตกใจถามเธอเสียงดังลั่น
“ลามกมากเลยนะ นายกดไลค์รูปที่ฉันสวมบิกินี่” ฉิบหาย... ผมดันเผลอไปกดจริงเหรอวะ?
“มือลั่น”
“เหรอ เชื่อตายล่ะ นายมันโรคจิตคงไม่ได้มองรูปฉันแล้วชักไปด้วยนะ” อะไรจะทายแม่นฉิบหายขนาดนั้น
“บ้าหรือไง ฉันไม่ใช่ไอ้หื่นขนาดมองรูปเธอแล้วช่วยตัวเองนะเว้ย!”
“ไม่เชื่อ นายน่ะมันโรคจิตทำมิดีมิร้ายกับแบล็กกี้ด้วย” ยังไม่ลืมเรื่องตุ๊กหมาหน้าเวรนั่นอีกเหรอวะ ผมก็แค่หมั่นไส้ยัยเกี๊ยวเฉยๆ ก็เลยจุ๊บตุ๊กตาไปแค่นั้นเอง ยัยนี่ก็คือตีโพยตีพายหาว่าผมทำไม่ดีกับตุ๊กตาเธอ ถ้าจะบ้าใหญ่ แต่ถ้าเรื่องมองรูปเธอแล้วเผลอชี้โด่มันเป็นเหตุสุดวิสัยนี่นา ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมองรูปยัยนี่แล้วต้องชูชันพร้อมรบก็ไม่รู้
“แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเป็นไอจีฉัน”
“รู้สิ ชื่อไอจีนายโคตรอ่านง่ายขนาดนั้นแถมรูปโปรไฟล์หนังหน้าก็เด่นหรา” ผมใช้ชื่อไอจีว่า night188 เออ ง่ายจริง
“เด่นหราตรงไหน ฉันตั้งรูปตัวเองกำลังนั่งสักสวมแมสปิดปากด้วยซ้ำ”
“...” เกี๊ยวเงียบจนผมขมวดคิ้วพลางยกยิ้มมุมปาก
“หรือว่าเธอแอบเข้ามาส่องไอจีฉันเหมือนกัน หืม”
“ไม่ได้ส่อง แค่เผลอกดไปดู”
“เหรอ?” ผมเดินต้อนร่างเล็กที่ไม่มีทางหนีเนื่องจากสะโพกติดกับขอบกระจก สองมือของผมกักกันเกี๊ยวไม่ให้ขยับพลางโน้มใบหน้าลงไปใกล้จนเกี๊ยวเอนตัวหนีเอามือยันแผงอกผมไม่ให้ขยับเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้ “คงไม่ได้นั่งส่องฉันทั้งคืนหรอกนะ”
“ใครจะไปทำแบบนั้น ฉันไม่ใช่ไอ้โรคจิตแบบนายนะ” เกี๊ยวเถียงผมคอเป็นเอ็น ยัยนี่มองออกง่ายชะมัดเวลาโกหกจะชอบขึ้นเสียงตลอด เอาเป็นว่าผมจะเชื่อก็แล้วกันว่าเกี๊ยวไม่ได้ดูรูปของผมทั้งคืน ผมยิ้มกรุ่มกริ่มขณะเอื้อมมือขวาไปจับเส้นผมของเกี๊ยวที่ปล่อยข้างๆ เพื่อปิดตรงสันกรามทำให้ใบหน้าดูเรียว แต่ต่อให้ยัยนี่เปิดหน้าก็สวยอยู่ดีนั่นแหละ
“ฉันไม่ว่าหรอกนะถ้าเธอจะมองรูปฉันแล้วก็... ช่วยตัวเองไปด้วย”
“นะ ไนท์! ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย”
“แค่บอกเผื่อๆ ไว้” ใบหน้าสวยจ้องผมตาเขม็ง ริมฝีปากยกสูงขึ้นราวกับโกรธผมเสียเต็มประดา เวลาได้แกล้งยัยนี่ทีไรรู้สึกเหมือนร่างกายได้หลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาเลย เป็นสารแห่งความสุขใจแปลกๆ ส่วนยัยนี่น่ะเหรอคงจะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาเสียมากกว่า โกรธจนหน้าดำหน้าแดงหมดแล้วตอนนี้ “สีแดงไม่เหมาะกับเธอ”
“...”
“ย้อมสีน้ำตาลอมส้มดีกว่า” เพราะผมคิดว่าสีแดงมันไม่เข้ากับหน้าของเกี๊ยวแล้วดิ สีที่ผมบอกน่ะน่าจะเหมาะกับเธอที่สุดแล้วอย่างน้อยก็ช่วยทำให้ใบหน้าของยัยนี่ดูสว่างสดใสมากขึ้นกว่าสีแดง โทนสีนี้ช่วยปรับลุคให้เหมาะกับเธอด้วยทั้งเปรี้ยวเซ็กซี่หรือเท่ “มันเหมาะกับเธอ”
“ฉันต้องเชื่อนายด้วย?”
“แค่แนะนำเฉยๆ แล้วแต่เธอจะเชื่อหรือไม่” แต่ผมอยากให้ยัยนี่เชื่อผมนะ ก็รู้ว่าสุดท้ายเกี๊ยวไม่มีวันเชื่อผมก็อยากแนะนำอยู่ดีนั่นแหละ เกี๊ยวได้ฟังก็ทำหน้านึกคิดตามพลางจับเส้นผมของตัวเองดู จังหวะที่เธอหลุบสายตามองเส้นผมของตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างก็วิ่งแล่นเข้ามา ผมตามยัยนี่มานานแทบจะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวด้วยซ้ำ พอใกล้กันแบบนี้กลิ่นหอมจากน้ำหอมที่เธอฉีดดันเข้ามาทำให้ร่างกายของผมสูบฉีดถึงขนาดที่ว่าโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ตำแหน่งซอกคอเธอ อีกแค่นิดเดียวปลายจมูกกำลังจะจมอยู่ตรงตำแหน่งที่หอมหวานราวกับดอกไม้
พลั่ก
“จะทำอะไรของนาย?!” เกี๊ยวรู้สึกถึงออกแรงผลักผมจนเซไปชนกับเก้าอี้ที่ให้ลูกค้านั่งสัก “ฉันไม่ได้ง่ายนะ”
“ก็ไม่ได้บอกว่าเธอง่าย”
“แล้วเมื่อกี้จะไซ้คอฉันทำไม”
“คอเธอหอม”
“นายมันโรคจิตอะ ไอ้เวรเอ๋ย!” ร่างบอบบางเดินออกจากห้องสักไป จนผมยืนขำอยู่แปบหนึ่งก็เดินตามเกี๊ยวออกไปปรากฎว่ายัยนั่นเดินออกจากร้านไปเรียบร้อย ไม่วายหันมามองผมพลางชูนิ้วกลางให้อีกต่างหาก ผมได้แต่ยืนส่ายหน้าไปมากับความคิดของตัวเองว่า ‘มึงทำไปเพื่ออะไรวะไอ้ไนท์’
อยากจะกินใครก็กินได้ง่ายๆ ทำไมต้องมาวุ่นวายกับยัยนี่ด้วยก็ไม่รู้ เฮ้อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ทำไมต้องมาตามตื๊อยัยเด็กพยศเก่งคนนี้ ทั้งที่สุดท้ายพอได้กินจนเบื่อก็ทิ้งอยู่ดี...
:: NIGHT TALK END ::
*---------------------------------------*