Want to be
:: 7 ::
เรื่องที่ไม่คาดฝัน
หลายวันมานี้ฉัน เคลียร์และฟินน์ต้องเขียนแบบทำโมเดลเพื่อส่งคมกริชกัน แทบจะสิงสถิตอยู่มหาลัยเป็นบ้านหลังที่สองเรียบร้อย เนื่องจากที่ผ่านมาฉันขี้เกียจมามากมักจะให้เพื่อนช่วยมาตลอด ถึงเวลาที่ฉันจะต้องขยันเพื่อทำให้เกรดตัวเองดีสำหรับหาที่ฝึกงานตอนเรียนปีห้า ใช่ สถาปัตย์เรียนถึงห้าปีเลยล่ะ คมกริชเห็นฉันขยันมาเรียนตรงเวลาเป๊ะ อึ้งไปสิ ไม่มีอะไรจะด่าฉันแล้วไง แต่มันก็ทำให้ฉันรู้จักมีความรับผิดชอบมากขึ้นนะ
“แกอยู่ได้นะเกี๊ยว”
“พวกแกเห็นฉันกี่ขวบกันแน่?” เงยหน้ามองเคลียร์กับฟินน์ที่เอาโมเดลไปเก็บไว้ที่ห้อง ส่วนฉันก็ยังนั่งตัดชิ้นส่วนประกอบหน้าคณะเวลานี้ก็ล่วงเลยมาเกือบจะสามทุ่มแล้ว “รีบไปหาผัวหาเมียกันเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะหรือถ้าค้างที่คณะก็บอก”
“ค่ะ คุณพ่อ” ฉันประชดประชันฟินน์ที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์เพื่อขับไปส่งเคลียร์ที่ร้านสักซึ่งพี่สองยังคงทำงานอยู่ ส่วนฟินน์ก็จะไปหาน้องน้ำหนึ่งแฟนเด็กที่บ้าน คนโสดอย่างฉันก็คือไม่มีผัวไงต้องทำโมเดลที่ได้ประมาณ 30% ให้ถึงสัก 50% มันจะดีสุดๆ อีกอย่างคืนนี้ต้องโต้รุ่งเขียนแบบส่งคมกริชอีก เห็นฉันขยันปุ๊บก็สั่งงานยับเลย
“ไปก่อนนะ ระวังผออีผี บรื้อ”
“ฉันไม่กลัวเรื่องแบบนี้นะ บอกไว้ก่อน”
“แข็งแรงดั่งหินผา” แน่นอน ฉันน่ะมันหญิงแกร่งสุดๆ บอกไว้เลยผีเหรอก็มาดิครับ กลัวที่ไหน “เจอกันเกี๊ยว”
“ไปเลยชิ้วๆ”
ฉันโบกมือไล่เพื่อนสองคน จากนั้นคณะสถาปัตย์ที่เคยน่ากลัวตอนนี้เหรอชิวมาก เพราะไม่ใช่แค่ฉันไงที่อยู่ก็ยังมีรุ่นน้องกับรุ่นพี่ยังนั่งทำงานกันอยู่ บางคนก็คือนั่งทำโมเดลหรือนั่งคุยกันก็มี ฉันก็หันกลับมานั่งตัดกระดาษต่อเนื่องจากโจทย์ที่ได้รับจากคมกริชคือสร้างคอนโดหรูในแบบของตัวเอง ฉันใช้พื้นที่โคตรจะเยอะแต่จะเหนื่อยสุดคือการทำชั้นโมเดลนี่ล่ะ ที่เขียนแบบส่งดันทำซะเวอร์วังจะเอาตามนั้นก็คือต้องเป๊ะๆ ปะ ไม่อยากจะโดนคมกริชบ่นสักเท่าไหร่
“อ้าว น้องเกี๊ยวยังไม่กลับอีกเหรอครับ?”
“พี่ซัน” ร่างสูงใหญ่ที่เดินมานั่งโต๊ะหินอ่อนเอ่ยทักพลางหรี่สายตามองโมเดลของฉัน “พี่ซันล่ะคะ”
“พี่เพิ่งเรียนเสร็จครับ ปีสี่อะนะเรียนภาคปฏิบัติค่อนข้างหนักเตรียมตัวฝึกงานอีก เฮ้อ” พี่ซันหยิบกระดาษที่ฉันตัดไปดูพลางหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาและกดเล่น จากนั้นก็โน้มใบหน้ามองโมเดลคอนโดของฉัน “ตัดกระดาษตรงนี้ไม่ค่อยเนี้ยบเท่าไหร่”
“จริงเหรอคะ เกี๊ยวน่าจะเบลอน่ะค่ะทำทั้งวัน”
“หนูต้องพักผ่อนบ้างนะคะ” เอิ่ม ฉันถึงกับไปไม่เป็นที่พี่ซันพูดจาคะขาด้วยโทนเสียงที่โคตรจะเย้ายวน เพิ่งจะเข้าใจก็ตอนนี้ว่าทำไมตอนนั้นเคลียร์ถึงได้เคลิ้มไปกับพี่ซันแปบหนึ่ง ก็ดูเขาดิ ดูคำพูดคำจาเขาและสีหน้าหล่อๆ ของเขาสิทุกคน!
“พะ พี่ซันพูดแบบนี้...”
“ทำไมคะ? พี่พูดอะไรผิด” อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดมาก ฉันต้านทานพี่ซันไม่ได้เลยอะ อะไรจะมีเสน่ห์ขนาดนี้แค่คำพูดคะขาเนี่ยนะ ฉันจะต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ไปเพราะอะไร “ดูสิ หน้าหนูโทรมมาก”
“เอ่อ พะ พี่ซันหยุดก่อน” ยกมือห้ามเขาขณะมือหนาที่มีรอยสักรูปงูพันไปถึงข้อศอกจะแตะมาที่แก้ม “พี่ซันคงไม่ได้จะจีบเกี๊ยวใช่ไหมคะ”
“เปล่านี่คะ” ตอแหลสุดๆ สีหน้าดูก็รู้ว่าต้องการอะไร พี่ซันไอ้พี่หื่นกาม! “พี่เอ็นดูหนูนะเกี๊ยว”
“พี่ซันต้องการอะไรก่อนดีกว่า”
“แหม ทำไมรู้ทันพี่ขนาดนี้”
“เกี๊ยวไม่ใช่สเปกพี่ซัน”
“ใครบอก” ฉิบหาย... ฉันคิดมาตลอดว่าพี่ซันหว่านเสน่ห์เก่งนะ อาจจะเก่งกว่าไนท์ด้วยซ้ำรายนั้นชอบเล่นหูเล่นตา แต่พี่ซันใช้เสน่ห์จากคำพูดของตัวเองให้ผู้หญิงเคลิบเคลิ้มได้คือโคตรสุดยอด ขนาดฉันที่แข็งดั่งหินผายังอ่อนระทวยเลย “หนูเนี่ยสเปกพี่เลย แต่ติดตรงที่ว่าเฮียไนท์เล่นกับหนูก่อนพี่”
“เกี๊ยวไม่ได้เล่นกับไนท์นะคะ”
“งั้นแสดงว่าหนูจะให้พี่เล่นสินะ”
“ก็ไม่อยู่ดี”
“พี่ยังโสดนะ หนูไม่ลองหน่อยเหรอ พี่...”
Rrr
ก่อนพี่ซันจะทำให้ฉันช็อกตายกับคำพูดหวานอาบไปด้วยยาพิษชนิดร้ายแรง มือถือของเขาก็มีสายโทรเข้ามา จากสีหน้าที่ยิ้มให้ฉันแบบเชิญชวนกลับกลายเป็นถอนหายใจออกมาพลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“อะไรอีกแป้ง โทรหาฉันเพื่อ?” พี่แป้งร่ำเหรอ “ห๊า ตอนนี้เนี่ยนะ ฉันอยู่มหาลัย แม่งเอ๋ย วุ่นวายกับกูฉิบหาย เออรอก่อนเดี๋ยวไปรับ... แม่ง มีเพื่อนหรือมีแม่กันแน่วะ สั่งกูยังกับสั่งลูก เวรของกู!”
“พี่ซันรีบไปหาพี่แป้งเถอะค่ะ” บ่นเก่งมาก บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยแต่ต้องขอบคุณพี่แป้งร่ำที่โทรมาขัดจังหวะไม่งั้นฉันหลงเคลิ้มไปกับพี่ซัน อาจจะถึงขั้นป้าบๆ กันก็ได้นะ พี่ซันคือเสน่ห์เหลือล้นจนฉันต้องดึงสติตัวเองกลับมา ถ้าไม่กลับมามีหวังเสร็จพี่ซันแน่นอน “พี่แป้งคงรออยู่”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ เจอกับครับ”
ไม่ต้องเจอคงไม่ได้ปะ ก็พี่ซันเป็นรุ่นพี่ฉันนี่นา ทันทีที่พี่ซันเดินจากไปฉันก็ยกมือทาบทับตำแหน่งหัวใจที่เต้นถี่รัวราวกับจะระเบิดออกมาจากอก ให้ตายสิพี่ซันโคตรจะอันตราย อันตรายแบบอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ ผู้ชายบ้าอะไร แค่พูดไม่กี่คำก็แทบจะทำให้ผู้หญิงที่ได้ฟังแก้ผ้าเปลือยต่อหน้าเขาแล้ว ดีนะที่ฉันไม่ได้หลงไปถึงจะมีเคลิ้มก็เถอะ
พวกผู้ชายเจ้าชู้นี่น่ากลัวชะมัด ไนท์ก็เป็นพวกใช้สายตาเก่งมาก ส่วนพี่ซันก็ใช้คำพูดได้ดีเวอร์... ผู้ชายที่เข้ามาพัวพันในชีวิตฉันแต่ละคน มีแต่ดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ (ประชด) แค่หล่ออย่างเดียวก็ไม่ไหวนะ นิสัยเจ้าชู้แบบนี้ฉันขอไม่ยุ่งด้วยคน
“เกี๊ยว” ผละใบหน้าจากการเล็งต่อเติมส่วนโมเดลคอนโดชั้นล่าง เงยมองใบหน้าหล่อเหลาของนักศึกษาคนหนึ่งที่เอ่ยทักทายด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
“อืม” ฉันตอบเขาที่ไม่รอให้ฉันพูดอะไรเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามฉัน “นายคือใครก่อน”
“เราเป๊ก เด็กนิติฯ”
“แล้วมาทำอะไรที่คณะสถาปัตย์”
“อ๋อเราแวะมาหาเพื่อนน่ะ”
“รู้จักฉัน?”
“ใครบ้างไม่รู้จักเธอ” เออจริง ฉันน่ะดังมากในมหาลัยนะเรื่องมีผู้ชายมาหลงชอบอะ แต่สำหรับเป๊กคนนี้ฉันไม่เคยเจอหน้ามาก่อนอาจจะเพราะเด็กนิติฯ ค่อนข้างเงียบๆ ล่ะมั้ง “ขอเบอร์หน่อยได้ไหม”
“เอางี้เลย”
“เราอยากรู้จักเกี๊ยวนี่นา” ผู้ชายที่เข้าหาฉันมักจะขอเบอร์ทันทีและนัดเดต และใช่ฉันมักจะให้เบอร์ทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่รู้ว่าผู้ชายพวกนั้นนิสัยเป็นยังไงแค่ใครมาสนใจก็พร้อมจะออกเดตด้วยทันที “เราช่วยนะ”
“ขอบใจ”
เราสองคนนั่งคุยและเป๊กก็ช่วยฉันตัดชิ้นโมเดลจนสภาพของมันเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ฉันมีเวลาทำโมเดลที่กำหนดส่งอาทิตย์หน้า แน่นอนว่าใช้เวลาอยู่กับมันไม่นานก็เสร็จนะฉันเชื่อแบบนั้น ตอนนี้ฉันกลับมาขยันมากกว่าเดิมดังนั้นผลงานชิ้นนี้จะต้องสมบูรณ์เพราะฉันทำมันคนเดียวโดยไม่ให้เคลียร์กับฟินน์ช่วยเลยไง ด้วยเพราะวันนี้มันดึกมากแล้วฉันก็เลยเอาโมเดลเข้ามาเก็บในห้องวางข้างๆ กับของเคลียร์ถัดไปก็เป็นของฟินน์
“ดึกแล้ว เราไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้เลิกเรียน เกี๊ยวไม่ว่าอะไรเราไปกินข้าวกันไหม?” เป๊กเอ่ยชวนฉันที่ยกยิ้มมุมปาก
“อืม” อยากจะรู้ว่าหมอนี่จะหายไปอีกหรือเปล่า เพราะถ้าหายไปอีกคราวนี้ฉันจะไม่ทนอีกแล้วนะเว้ย! ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกันที่จะต้องตามหาความรักดีๆ และคิดว่าพอเจอปุ๊บก็ดันมีเรื่องให้ผู้ชายพวกนี้หายไปทุกที
“เราจะรอนะ” เขาพูดจบก็โบกมือให้ฉัน จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในคณะของฉันเพื่อไปหาเพื่อน ส่วนฉันก็เดินยิ้มออกจากมหาลัยเอ่ยทักทายลุงยามที่สนิทกันเพราะพ่อฉันเป็นอีกหนึ่งหุ้นส่วนของมหาลัยที่เรียนอยู่ เดินมานั่งรอรถเมล์ที่ป้ายก็นั่งมองมือถือที่เห็นข้อความจากเป๊กส่งสติ๊กเกอร์หัวใจมา
“ฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าสาวสวยที่แซ่บเพื่อนของเคลียร์ จะหน้าด้านแย่งผัวชาวบ้าน”
“!” ผละใบหน้าจากมือถือมองนักศึกษาสาวสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า คนตรงกลางกอดอกมีใบหน้าสละสวยและสวมชุดนักศึกษาเซ็กซี่ มีผมสีคาราเมลและผิวขาวเนียน “หมายถึงใคร ฉันไปแย่งผัวใคร”
“ผัวฉันไง”
“ห๊า” ใครวะ ตอนนี้ฉันไม่ได้เดตกับหนุ่มที่ไหนเลยนะ “บ้าปะเนี่ย”
“เป๊กไง” ทันทีที่ชื่อของผู้ชายคนนี้เอ่ยขึ้นมา ก็ถึงบางอ้อ ไอ้เวรตะไล! มีเมียอยู่แล้วยังจะมาจีบฉันอีกเหรอวะ “นี่ไม่รู้จริงหรือแกล้งโง่”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง หมอนั่นไม่ได้บอกว่ามีเมียนี่หวา”
“ตอนแรกฉันได้ยินชื่อเสียงของเธอ ไม่อยากจะคิดว่าจะมั่วให้เบอร์ผู้ชายไปเรื่อยโดยไม่มองหน้ามองหลังก่อนว่าเขามีเมียแล้วหรือยัง” หล่อนได้ทีต่อว่าฉันที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางชูมือถือให้หล่อนดู
“แหกตาดูนะว่าใครกันแน่ที่มั่วไปเรื่อย”
“...”
“ผัวเธอส่งข้อความหาฉันขนาดนี้ ฉันก็ว่าฉันอยู่เฉยๆ นะ ไม่ได้หว่านเสน่ห์ใส่ใครสักหน่อย” กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อหล่อนเอาแต่จ้องมือถือฉันที่ข้อความจากผัวตัวเองส่งมาให้ฉันรัวแบบไม่หยุดพัก “ดูแลผัวตัวเองไม่ดี แล้วยังมาโทษคนอื่นอีกนะ โทษทีที่ฉันมันสวยและแซ่บเกินจนผัวเธอหลงอะ”
“เกี๊ยว!”
“ลองไปถามมันดูดิว่ามันมาจีบฉัน มันไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่ามีเธอเป็นเมีย” เอาจริงฉันชินชากับเรื่องพวกนี้แบบสุดๆ แต่ก็เพิ่งจะเคยเจอครั้งแรกเนี่ยล่ะ “ให้ตายสิ สงสัยมันคงจะเบื่อเธอแล้วล่ะมั้ง ถึงได้มองหาคนใหม่”
“หน้าด้าน”
[50%]
*---------------------------------------------------*