บทนำ - ค่ำคืนก่อนความโกลาหล

2041 Words
ณ คฤหาสน์โฮแกน ตระกูลเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งดาวอามอส งานเลี้ยงสุดหรูหราถูกจัดขึ้นภายในห้องโถงอันโอ่อ่า แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นชนชั้นสูงในสังคม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งใหญ่โตในกองทัพ นักวิจัย นักธุรกิจ หรือแม้แต่สื่อใหญ่ก็ยังได้รับเชิญให้มาร่วมงานในคืนนี้ งานเลี้ยงฉลองการเข้าบรรจุเป็นสมาชิกเฮปตากอนของลูการ์ คาลเซอร์ ลูกเลี้ยงของมาคัส ลูเซียร์ หนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลบนดาวอามอส แต่ตระกูลโฮแกนกลับรับเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมาทั้งที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับลูการ์มาก่อน ทว่าทุกคนต่างเดาเจตนาของผู้นำตระกูลโฮแกนออก เดรก โฮแกน มีลูกสาวถึงสามคน แม้เดรกจะภาคภูมิใจกับทายาทของตนมาก แต่ในสายตาคนนอกกลับลอบเย้ยหยันและสงสารเดรกในใจที่ไร้ลูกชายไว้สืบสกุล ทำให้ไร้หนทางจนต้องแต่งเขยเข้าบ้านแทน เห็นชัดเจนเลยก็คือลูกสาวคนโตของเดรกที่แต่งงานออกเรือนกับนักวิจัยหนุ่มไฟแรง ซึ่งเดรกก็เป็นพ่อสื่อจัดหาคู่ให้ลูกสาวด้วยตนเอง และชายที่เดรกเลือกก็มักจะเป็นคนที่ไม่มีเบื้องหลังใหญ่โต ไม่ใช่ทายาทสายตรงหรือผู้สืบทอดหลักของตระกูลดัง เพราะตามธรรมเนียมถ้าถูกแต่งเข้ามาในตระกูลใดแล้วก็จะกลายเป็นคนของตระกูลนั้นโดยปริยาย ท่ามกลางงานเลี้ยงที่คึกคัก วงดนตรีระดับโลกยังถูกเชิญมาบรรเลงเพลงเต้นรำที่คฤหาสน์โฮแกน ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของตระกูลโฮแกนให้เป็นที่ประจักษ์ ลูกสาวทั้งสามคนของเดรกเดินเข้ามาในงานแทบจะพร้อมกัน เรียกความสนใจจากทุกคนในห้องโถงให้หันมามอง แอเรียส ลูกสาวคนโตแต่งงานแล้ว แม้ใบหน้าจะงดงาม กิริยามารยาทดี มีความสามารถแต่เพราะเธอมีเจ้าของจึงไม่ได้รับความนิยมจากบรรดาชายหนุ่มเท่ากับน้องสาวคนกลาง แอเวียร์ ลูกสาวคนกลางของเดรก เป็นคนที่มีเสน่ห์ทุกอย่างก้าว ใบหน้างดงามอ่อนหวาน มีความสามารถไม่แพ้พี่สาว และอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แอเวียร์ถูกขนานนามว่าเป็นเทพธิดาแห่งเบลานาร์ เป็นหญิงสาวในอุดมคติของชายหนุ่ม ไม่ว่าลูกชายบ้านไหนก็ใฝ่ฝันอยากได้เธอมาครอง แอลิน่า ลูกสาวคนสุดท้อง มีความน่ารักในแบบของตัวเอง เป็นเด็กสาวแก่นแก้วชอบเล่นอะไรแผลงๆ ไม่ใคร่ใส่ใจเรื่องกิริยามารยาทหรือความสวยความงามแบบผู้หญิง ชอบหนีคลาสเรียนพิเศษออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อยๆ จนผู้ใหญ่ในตระกูลต่างเอือมระอา ถ้าแอเวียร์คือเทพธิดาแห่งเบลานาร์ แอลิน่าก็คือนางมารน้อยแห่งเบลานาร์ที่ไม่มีชายใดใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง เมื่อสามสาวเดินเคียงข้างกันมาคนที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดก็คือคนกลาง แอเวียร์ “แหวะ ดูเจ้าเตี้ยนั่นมองพี่เวียร์สิ” แอลิน่ากระทุ้งศอกใส่พี่สาวพลางชำเลืองไปทางชายคนนั้น แอเวียร์ไม่แม้แต่จะมองตามน้องสาว ไม่สนว่าใครจะมองด้วยสายตายังไง เอ่ยปรามแอลิน่าเสียงเบา “ระวังคำพูดหน่อย เราอยู่ในงานแล้วนะ” “เหอะ!” แอลิน่ากลอกตา ก่อนชายตาตามถาดอาหารเลิศรสที่เหล่าบริกรเดินผ่านไปมา “โฮ่ๆ มากันแล้วเหรอ” เดรกกำลังคุยอยู่กับตระกูลลูเซียร์หัวเราะเสียงดังกว่าเดิมเมื่อเห็นสามใบเถาเดินเข้ามาในงาน “คุณพ่อ” สามสาวเดินเข้ามาย่อตัวลงเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้เป็นพ่อตามมารยาท ก่อนจะหันไปย่อตัวให้กับคนจากตระกูลลูเซียร์ ที่มีทั้งชายหญิงวัยกลางคน และชายหนุ่มอีกสองคน “นี่คือลูกสาวที่น่าภูมิใจทั้งสามคนของผม แอเรียส แอเวียร์ และแอลิน่า” เดรกแนะนำลูกสาวทั้งสามคนกับตระกูลลูเซียร์อย่างเป็นทางการ “เคยแต่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม วันนี้เพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆ ลูกสาวบ้านโฮแกนนี่สวยไม่น้อยหน้ากันเลยจริงๆ” มาคัส ลูเซียร์กล่าวชม “นั่นน่ะสิคะ มีความงามเป็นเลิศสมกับที่เป็นลูกสาวของตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในดาวอามอส” หญิงวัยกลางคนยิ้มชื่นชม ทั้งสามสาวชินกับคำเยินยอ แม้จะรู้สึกได้ว่าคำพูดของหญิงวัยกลางคนหาความจริงใจไม่ได้แต่ก็ไม่ตอบโต้ เพียงแค่ยิ้มและเอ่ย “ขอบคุณ” ตามมารยาทเท่านั้น หลังจากนั้นผู้นำตระกูลทั้งสองก็เริ่มแนะนำเด็กๆ ให้รู้จักกัน “ส่วนนี่ลูการ์ และก็มิคาเอลลูกชายทั้งสองคนของลุง” คนหนึ่งผมสั้นเตียนทำให้หน้าคมเข้มและดุดันยิ่งขึ้น ส่วนอีกคนผมดกดำเข้ากับใบหน้าที่ดูหล่อเหลาและขี้เล่น แอเรียส แอเวียร์ และแอลิน่า ย่อตัวให้กับชายหนุ่มทั้งคู่อีกครั้ง “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แอเรียส” “ยินดีที่รู้จักนะคะ ฉันแอเวียร์” “แอลิน่า” ทั้งสามสาวเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างสุภาพขณะที่แอลิน่าแค่บอกชื่อตนออกไปตรงๆ แอลิน่าออกจะแข็งกระด้างไปหน่อยแต่กลับทำให้มิคาเอลลูกชายคนเล็กของมาคัสยิ้มขำกับท่าทางนั่น “ตรงนี้ปล่อยให้เด็กๆ ทำความรู้จักกันเถอะ ส่วนพวกเราคนสูงวัยไปหาโต๊ะนั่งสบายๆ คุยกันดีกว่าไหม” เดรกเอ่ยขึ้น ซึ่งทั้งมาคัสและมีอาสองพี่น้องแห่งตระกูลลูเซียร์ก็พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสามเดินออกไปก็เหลือแค่สามสาวกับสองหนุ่ม “แอเรียส” ระหว่างนั้นก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามาหาพี่สาวคนโต เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีของเธอ แอเรียสถือโอกาสนี้แนะนำสามีให้ลูการ์กับมิคาเอลรู้จัก หลังจากนั้นก็แยกตัวออกไปกับสามี ปล่อยให้น้องสาวทั้งสองเผชิญหน้ากับชายหนุ่มตามลำพัง “หิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะพี่เวียร์” เมื่อคนเหลือน้อยก็ไม่จำเป็นต้องสงวนท่าที แอลิน่าไม่คิดจะผูกสัมพันธ์หรือทำความรู้จักกับชายหนุ่มทั้งสองเป็นพิเศษอยู่แล้ว ในสายตาของเธอมองแค่พวกเขาเป็นผู้ชายไร้ยางอายที่คิดจะมาเกาะพี่สาวของเธอเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตเท่านั้น “อะอืม” แอเวียร์มองชายหนุ่มทั้งสอง ในใจรู้สึกลังเลเพราะถูกพ่อกำชับมาว่าให้สร้างความคุ้นเคยกับลูการ์ เพราะเขาคือชายที่ต้องหมั้นหมายกับเธอ แต่เพราะเห็นว่าลูการ์ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจในตัวเธอนัก เธอจึงพยักหน้ารับคำรบเร้าของน้องสาว แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะได้ขยับ มิคาเอลก็เคลื่อนไหวซะก่อน ชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามายืนตรงกลางระหว่างแอลิน่ากับแอเวียร์ ทำเอาสองสาวตกตะลึงไปตามๆ กัน “บังเอิญจัง ผมเองก็หิวแล้วเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณแอลิน่าจะให้เกียรตินำทางผมเดินชนรอบๆ งานได้หรือเปล่า” มิคาเอลยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านต่อท่าทางกระอักกระอ่วนของแอเวียร์และสายตาตำหนิด่าทอของแอลิน่า เมื่อเห็นว่าแอลิน่ายังคงยืนนิ่ง มิคาเอลก็ขยิบตาเป็นสัญญาณให้แอลิน่า แอลิน่าเข้าใจความหมายของมิคาเอล เพียงแต่เธอเป็นห่วงพี่สาว ไม่กล้าปล่อยให้เผชิญหน้ากับลูการ์ตามลำพัง แต่แอเวียร์กลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง “ลิน พาคุณมิคาเอลไปหาอะไรกินเถอะ ดูแลแขกให้ดีล่ะ” “แต่พี่เวียร์” แอลิน่าคิดจะแย้งแต่แอเวียร์ชิงส่ายหน้าห้ามไม่ให้น้องสาวพูดอะไรออกมาอีก แอลิน่าถอนหายใจ มองลูการ์จอมเคร่งขรึมที่ยังไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นครู่หนึ่งก่อนจะตวัดสายตากลับมาที่มิคาเอล “เชิญ” แอลิน่ากระแทกเสียงพูด “รบกวนด้วยครับ” มิคาเอลกดยิ้มมุมปาก ค้อมกายเล็กน้อย ผายมือให้แอลิน่านำทาง คล้อยหลังแอลิน่ากับมิคาเอลแล้ว แอเวียร์ก็หันมายิ้มให้ลูการ์ “ยินดีด้วยนะคะที่ผ่านการบรรจุเข้าเฮปตากอน” “ขอบคุณครับ” แม้ใบหน้าจะดุดันเคร่งขรึมแต่ลูการ์ก็ยิ้มตอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ให้เสียน้ำใจ “หวังว่าคุณคงไม่ถือสาที่คุณพ่อและตระกูลของเราล่วงเกินคุณ” แอเวียร์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนแรกเลย นั่นทำให้ลูการ์รู้สึกสนใจ ที่เธอไม่ได้กริ่งเกรงบุคลิกเย็นชาของเขา “ผมไม่ถือ” “คุณ... รู้ใช่ไหมคะว่าที่คุณพ่อออกตัวจัดงานเลี้ยงเพื่อคุณเพราะอะไร” “รู้สิ พ่อคุณบอกว่าคุณสนใจผม” “....” แอเวียร์ตะลึงไปครู่หนึ่ง แม้เธอจะเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าอาจจะโดนคนตรงหน้าดูแคลนบ้างแต่ไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกอายแบบนี้ ลูการ์มองท่าทางที่ราวกับถูกใส่ร้ายของแอเวียร์แล้วก็รู้ทันทีว่าเขากำลังเข้าใจเธอผิด “งั้นเหรอ คุณไม่ได้สนใจผม” เป็นครั้งแรกที่แอเวียร์รู้สึกว่าถูกต้อนจนมุม จะตอบรับก็ละอายใจ จะปฏิเสธก็ลำบากใจ หญิงสาวใช้สมองเค้นคำตอบนานเป็นพิเศษ “ฉันไม่รู้ว่าคุณพ่อคุยอะไรกับคุณ แต่ฉันรู้จักคุณนะคะ คุณเป็นนักรบกองทัพอวกาศที่โดดเด่นมาก ใครๆ ก็พูดถึง ถ้าจะบอกฉันสนใจคุณ คนอื่นก็คงสนใจคุณเหมือนกัน” “หึ” ลูการ์ยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำอธิบายของแอเวียร์ เธอไม่ยอมรับตรงๆ ว่าสนใจเขา แต่เอาคนอื่นมาอ้างเพื่อทำให้ความคิดของเธอเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ “แล้วที่คุณยอมให้คุณพ่อจัดแจงเรื่องงานเลี้ยง แปลว่าคุณเห็นด้วยกับความคิดของท่านงั้นเหรอคะ” “ผมแค่รับน้ำใจที่พ่อคุณหยิบยื่นให้” “คุณตกลงงั้นเหรอ?” แอเวียร์มองใบหน้าหล่อเหลาของลูการ์หัวใจสั่นโดยไม่รู้สาเหตุ เดิมทีเธอไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเรื่องหมั้นหมายในครั้งนี้แถมยังออกจะอึดอัดซะด้วยซ้ำที่พ่อของเธอยัดเยียดคู่ชีวิตมาให้โดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ แต่พอได้พบหน้ากัน ได้แลกเปลี่ยนคำพูด ก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้แย่นัก บางทีพ่อเธออาจจะคิดถูกก็ได้ “ผม...” “ขอโทษครับ คุณลูการ์มีคนต้องการพบคุณครับ รออยู่ที่สวนด้านหลัง” บริกรเดินเข้ามาก่อนที่ลูการ์จะได้ตอบคำถามของแอเวียร์ ทำให้ความสนใจของเขาเบนไปยังบริกรคนนั้น ดวงตาเฉี่ยวคมหรี่ลง “ใคร ได้บอกไหม” อยู่ในงานเลี้ยงตระกูลโฮแกน จะมีใครอยากพบลูการ์เป็นการส่วนตัว แม้จะรู้สึกไม่ชอบมาพากลแต่ลูการ์ก็ไม่อาจไม่สนใจ “เห็นบอกว่าเป็นคนรู้จักกับพ่อคุณ” นัยน์ตาคมกริบของลูการ์ไหววูบ ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง “คนรู้จักของคุณมาคัส?” บริกรส่ายหน้า ทุกคนในเบลานาร์ต่างรู้ดีว่ามาคัสคือพ่อเลี้ยงของลูการ์ ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ลูการ์สีหน้าเปลี่ยนทันที เขาพยักหน้าให้บริกร “เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก” “ให้ฉันนำทางไหมคะ” แอเวียร์ยืนฟังอยู่ข้างๆ เสนอตัวช่วยเหลือ เธอมองบริกรที่เพิ่งเดินออกไปด้วยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “คุณอยู่ในงานเถอะ ถ้าหายไปด้วยกันมันจะดูไม่เหมาะ” ลูการ์ยิ้ม ปฏิเสธเสียงเรียบ แต่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี “เข้าใจแล้วค่ะ” แอเวียร์ไม่รบเร้า และเห็นด้วยว่าเธอไม่ควรหายตัวไปไหนมาไหนกับลูการ์ตามลำพัง เพราะยังไงเธอกับเขาก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD