ทางด้านนัทดนัย เมื่อมาถึงห้องพักก็เดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียงด้วยท่าทางเศร้าซึมเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่มีเรี่ยวมีแรงแม้กระทั่งจะหายใจ
เขากับภาวินเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถม เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน อยู่ห้องเดียวกัน จนถึงมหาลัยก็ยังเรียนที่เดียวกัน จะว่าไม่มีช่วงไหนในชีวิตที่แยกจากกันเลยก็ว่าได้ ยกเว้นก็แต่ช่วงที่ภาวินต้องเข้ามาบริหารกิจการของครอบครัวและถูกส่งมาอยู่ที่ภูเก็ตเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ
ชายหนุ่มนอนนิ่งอยู่บนเตียงแล้วหลับตาลงเพื่อระลึกถึงความหลัง เขาแอบชอบเพื่อนสนิทอย่างภาวินมานาน แต่ก็พูดออกมาไม่ได้เนื่องจากไม่กล้าพอ ทั้งยังกลัวว่าจะถูกภาวินตัดความสัมพันธ์ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้ชอบผู้ชายอย่างตัวเองที่ไม่ได้ชอบผู้หญิงแต่ไม่มีใครรู้
เขาไม่คิดเลยว่าผู้ชายเจ้าชู้อย่างภาวินจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ แถมผู้หญิงที่ถูกแนะนำว่าเป็นเมียก็ไม่ได้มีอะไรตรงสเปคภาวินเลยสักอย่าง แล้วทั้งสองคนไปแต่งงานกันตั้งแต่ตอนไหน ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เมื่อคิดไปคิดมา เขาก็เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทและภรรยา จึงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความนัดเจอกับภาวินที่ห้องพักของตนในช่วงเย็นของวันนี้ ผ่านไปไม่นาน ข้อความตอบรับจากเพื่อนชายก็ถูกส่งกลับมา ทำให้นัทดนัยยิ้มอย่างมีความสุขที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับภาวินสองต่อสอง
ส่วนภาวิน หลังจากกินข้าวกับครอบครัวเสร็จก็พาเมียสาวขึ้นมาบนห้องพักเพื่อมอบบทลงโทษให้เธอที่กล้าถีบเขาตกเตียง แต่พอมาถึงห้องจริง ๆ กลับไม่สามารถทำตามที่ตั้งใจไว้ได้เพราะต้องช่วยเมียจัดข้าวของที่ขนมาจากห้องของเธอให้เข้าที่เข้าทางเสียก่อน ซึ่งมีจำนวนเยอะมาก ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ตามประสาผู้หญิง
“คุณวินพับผ้าดี ๆ หน่อยสิ ทำแบบที่ส้มโอเคยสอนไง”
“ครับ ๆ ผมพยายามอยู่ คนไม่เคยทำ ให้เวลากันหน่อยสิ”
“บอกว่าไม่ต้องช่วยก็ยังจะช่วยเองนี่นา”
“ก็คนมันไม่อยากให้เมียเหนื่อย แค่นอนครางตอนผัว... โอ๊ย เจ็บ ตีผัวทำไม”
“อยากพูดจาลามกนัก สมควรโดน”
“ลามกตรงไหน เรื่องปกติของผัวเมีย ใคร ๆ เขาก็พูดกัน”
“พอ ๆ ไม่คุยเรื่องนี้ละ แล้วนี่คุณวินไม่ไปหาเพื่อนเหรอ ไหนบอกว่านัดกับเขาไง”
“ไป แต่ไปช่วงเย็น ๆ ทำไมเหรอ”
“เปล่า แค่ถามดู ว่าแต่ คุณวินสนิทกับเพื่อนคนนี้มากไหมคะ”
“มากกกกก เป็นเพื่อนตั้งแต่ประถามเลย”
“แล้วเพื่อนของคุณวินนี่เขาชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอ คือส้มโอรู้สึกแปลก ๆ ตอนที่เขาบอกว่าคิดถึงคุณวินน่ะค่ะ”
“เขาชอบผู้หญิง ผมว่าไม่แปลกนะ ปกติดี มีอะไรน่าสงสัยเหรอ หรือว่าหึงผมกับไอ้นัทมัน”
“ไม่ได้หึง ใครเขาจะไปหึงกัน ปกติก็ดีแล้ว ส้มโอจะได้เลิกสงสัย”
“หืม สงสัยอะไร ไหนพูดมาสิครับคุณเมีย”
“จะให้พูดจริงอะ”
“อืม บอกมาได้เลย”
“ก็สงสัยว่า คุณนัทอาจจะ...”
“อาจจะอะไร พูดมาให้หมดสิ”
“อาจจะชอบคุณวินค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่น หลังจากที่เธอพูดจบ ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องนอนจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน แต่เพียงครู่เดียวภาวินก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น หัวเราะจนท้องแข็ง น้ำตาเล็ด ตลกเรื่องที่ภรรยาสงสัย
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไง ขนลุกมาก เป็นไปไม่ได้หรอก นัทมันก็มีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่เคยคบผู้ชาย แล้วมันก็ไม่ใช่เกย์ด้วย มันจะมาชอบผมได้ยังไง”
“คุณวินไม่เห็นต้องหัวเราะขนาดนี้เลยก็ได้นี่นา ส้มโอแค่สงสัย ก็เลยถาม ไม่เห็นจะมีอะไรน่าตลกสักนิด เดี๋ยวนี้คนเป็นเกย์ เป็นทอม เป็นตุ๊ด ดูออกกันง่าย ๆ ซะที่ไหน ผู้ชายที่เอากับผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ดีมีเยอะแยะไป”
“แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะผมเป็นพวกเอาผู้หญิงเท่านั้น และผู้หญิงคนนั้นก็ต้องเป็นคุณคนเดียวด้วย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน ตั้งใจพับผ้าไปเลย เดี๋ยวส้มโอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“หึ ๆ น่ารักจริง ๆ เมียเรา”
คนขี้แกล้งพูดไล่หลังภรรยาสาวที่วิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพราะทนต่อสายตาหวานเชื่อมของสามีไม่ไหว
เมื่อประตูห้องน้ำปิดลง ส้มโอก็เดินมาอยู่ตรงหน้ากระจก เห็นใบหน้าของตนแดงซ่านก็บิดตัวเป็นเกลียวด้วยความขวยเขิน อมยิ้มจนแก้มจะแตก ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากยิ้มแต่ก็หุบยิ้มไม่ได้ พักหลัง ๆ มานี้ภาวินชอบพูด ชอบทำให้เธอเขินอายอยู่เรื่อย
ภายในห้องพักของนัทดนัยมีเทียนหอมวางอยู่หลายอันเพื่อสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกต้อนรับการมาของภาวินในช่วงค่ำแทนที่จะเป็นช่วงเย็น เพราะอีกฝ่ายส่งข้อความมาเลื่อนนัดขอเปลี่ยนเป็นช่วงค่ำ ๆ ของวันแทนเนื่องจากติดธุระกับภรรยา แต่นัทดนัยเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีเสียด้วยซ้ำไป มืด ๆ จะได้ทำอะไรสะดวก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาเลย”
“จุดเทียนหอมด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเดินตามเพื่อนของตัวเองเข้ามาในห้อง เห็นเทียนหอมถูกจุดไว้ทั่วทุกมุมก็เอ่ยถามขึ้น
“อืม อยากให้ห้องมันหอม นายก็รู้นี่เราไม่ชอบห้องเหม็น”
“เอ่อ นั่นน่ะสิ ว่าแต่ รอบนี้มาภูเก็ตกี่วันเนี่ย”
“กินไปคุยไปดีกว่า เตรียมอาหารไว้ที่ริมระเบียงแล้ว”
“เออ ได้ ๆ แต่อยู่นานไม่ได้นะ เมียรออยู่ ต้องกล่อมนอน หึ ๆ”
“อืม” นัทดนัยตอบรับในลำคอเบา ๆ ด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็ยิ้มตรงมุมปากอย่างชั่วร้าย มองตามแผ่นหลังของเพื่อนชายที่กำลังเดินไปทางระเบียงราวกับเป็นคนมีอาการทางจิต แล้วคิดในใจว่าคืนนี้จะไม่ยอมปล่อยให้ภาวินกลับไปหานังชะนีหน้าจืดนั่นแน่ หล่อนต้องนอนร้องไห้ช้ำใจทั้งคืนเพราะผัวไม่กลับไปหา
“นัท นัท คิดอะไรอยู่ มานั่งสิ”
“พอดีคิดอะไรเพลิน ๆ นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ว่าแต่มึงนัดกูมาที่ห้องมีเรื่องอะไรจะคุยเหรอวะ”
“ดื่มไปคุยไปดีกว่า เราสั่งไวน์มาด้วย”
“อย่าดีกว่าว่ะ เดี๋ยวเมากลับห้องแล้วเมียด่า ยิ่งปากจัดอยู่ด้วย”
“นายเปลี่ยนไปมากจริง ๆ นะวิน”
“ทำไมเหรอ”
“ก็ปกตินายไม่เคยปฏิเสธของมึนเมา ไม่เมาไม่เลิก แต่วันนี้กลับไม่ยอมดื่ม”
“คนมันมีเมียแล้วก็ต้องปรับปรุงตัว เดี๋ยวเมียทิ้งจะทำยังไง”
“แล้วนี่นายกับคุณส้มโอไปแต่งงานกันตอนไหนเหรอ ทำไมไม่เห็นบอกกันเลย”
“ยังไม่ได้แต่งหรอก รอฤกษ์งามยามดีอยู่ แต่จดทะเบียนกันแล้ว วันนี้เอง”
“ระ... เหรอ ดีใจด้วยนะ ว่าแต่ นายกับคุณส้มโอคบกันมานานแล้วเหรอ ทำไมเราไม่รู้”
“เรากับเมียมี...”
ตึ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงข้อความไลน์เด้งดังขึ้นจากโทรศัพท์ของภาวินรัว ๆ ทำให้เขาต้องหยุดการสนทนาลง จากนั้นก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครส่งอะไรมา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเมียสาวของเขานั่นแหละที่ส่งรูปภาพของตัวเองที่อยู่ในชุดนอนวาบหวิว เนื้อผ้าบางเบาจนเห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมดมาให้
“โอ๊ย ยั่วมาก กลับไปโดนดีแน่”
ภาวินเอ่ยเสียงเครียด พลางคาดโทษภรรยาสาวเบา ๆ ทำให้นัทดนัยสงสัยขึ้นมา ก่อนจะพยายามมองโทรศัพท์ในมือของเพื่อนชายว่าใครส่งอะไรมา ทำไมเขาถึงได้ทำตาโตเหมือนเจออะไรถูกใจแบบนี้
“มีอะไรเหรอ ใครส่งอะไรมา ทำไมนายถึงดูดีใจแบบนี้ล่ะ”
“ไม่มีอะไร”
คนโดนเมียยั่วรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงเพราะกลัวเพื่อนจะขอดู ซึ่งเขาให้ดูไม่ได้เป็นอันขาด ภาพเซ็กซี่ขยี้ใจของส้มโอมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ดูได้ คนอื่นห้ามดู!
“ไม่มีก็ไม่มี งั้นดื่มสักหน่อยนะวิน เราอุตส่าห์สั่งไวน์มาแล้ว ดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อย”
“อืม ก็ได้ แก้วเดียวพอนะ”
ตึ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงข้อความจากไลน์เด้งเข้าโทรศัพท์ของภาวินอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงเอาขึ้นมาดูและทนอยู่ไม่ได้อีกต่อไป จึงเอ่ยขอโทษนัทดนัยแล้วขอตัวกลับก่อน เพราะต้องรีบไปจัดการแม่เมียจอมยั่วที่กินอะไรเข้าไปก็ไม่รู้ถึงได้ส่งภาพแบบนั้นมาไม่หยุด ทำให้เจ้าของห้องอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้นอกจากคาดโทษคนส่งข้อความไว้ในใจอย่างเคียดแค้นที่บังอาจมาพังแผนการของเขา อีกนิดเดียวภาวินก็จะดื่มไวน์ผสมยากล่อมประสาทแล้วเชียว
“อีส้มโอ นังมารหัวใจ” นัทดนัยเค้นเสียงลอดไรฟัน เอ่ยพลางมองทางที่ภาวินเดินออกไปด้วยความเจ็บปวด สายตาของเขาเหลือบไปเห็นชื่อของคนส่งข้อความมาพอดีตอนที่ภาวินเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู
เขาจึงได้รู้ว่าเป็นส้มโอ เห็นทีเขากับหล่อนคงอยู่ในโลกใบเดียวกันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว คิดได้อย่างนั้น นัทดนัยก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครบางคนให้เดินทางลงมาที่ภูเก็ตโดยด่วน!