กัวเจียงเยว่ถูกคนข้างหน้าบังจนมิดนางจึงต้องขึ้นไปบนเก้าอี้ มองดูการโยนลูกเต๋าแข่งขันระหว่างคุณชายเหมากับคนชายหวัง โดยมีหลงจู๊ผู้ดูแลบ่อนเป็นกรรมการตัดสิน จบการแข่งขันเหมาฮ่าวชนะไป ได้รับเสียงปรบมือแสดงความยินดีท่วมท้น
“คุณหนู ดูท่าคุณชายเหมาจะเป็นเซียนพนันอย่างที่เขาร่ำลือกันจริงๆ”
“ไปกันเถอะ พวกเขาจะไปต่อที่หออิงราตรีแล้ว ข้าจะได้วางยาทำให้เขากลายเป็นคนพิการไปเสีย นับว่าเป็นการล้างแค้นที่สาสมยิ่งนัก”
ซูหลีพยักหน้ารับ นางรู้ว่าคุณหนูไม่อยากจะฆ่าคนตาย ทว่าแค้นระหว่างบิดาของคุณหนูกับบิดาของคุณชายจานยังไม่ได้รับการชดใช้ ซ้ำคุณหนูยังมาถูกคุณชายจานย่ำยีอีก ความแค้นนี้อย่างไรก็ต้องจัดการให้เหมาะสม
“ครั้งนี้เราไม่ต้องปลอมตัวเข้าไปใช่ไหมเจ้าคะ?”
“ไม่! ข้าจะใช้เสี่ยวเอ้อทำการแทน” กัวเจียงเยว่ได้ยินคำว่าปลอมตัวก็ขนลุก ครั้งก่อนนางต้องร่วมเตียงกับจานเจิ้งผู้นั้นก็เป็นเพราะคิดจะเข้าไปวางยาเอง ครั้งนี้นางต้องทำการโดยไม่ให้ตนเองต้องเสี่ยง
กัวเจียงเยว่กับซูหลีแฝงกายเป็นเสี่ยวเอ้อโดยติดสินบนผู้ที่ดูแลในบริเวณที่มีแม่นางงดงามค่าตัวแพงลิบลิ่วพักอยู่เพราะสามคุณชายจอมโฉดมักจะมาดื่มสุราในส่วนนี้
“คุณชายเถียนน่ะชมชอบสตรีที่งดงามมากๆ ราคาไม่เคยเกี่ยง แต่คุณชายจานจะเลือกที่คุยแล้วถูกคอ คุณชายเหมาส่วนใหญ่นิยมไม่ค่อยจะเรียกหญิงสาวเข้าห้อง”
ได้ยินเรื่องของจานเจิ้ง กัวเจียงเยว่ยิ่งอยากจะวางยาเขา นางไม่อาจยอมรับว่าในคืนนั้นตนเองก็มีส่วนทำให้เขาเข้าใจว่านางให้ท่าเพราะนางแพ้สุรา
จานเจิ้งมาถึงหออิงราตรีพร้อมสหายสนิททั้งสอง พวกเขาไปนั่งที่ห้อง ประจำชั้นบนที่สามารถมองเห็นผู้คนเดินไปมาควักไขว่อยู่เต็มถนน
“เจ้าว่างานนี้หวังฉางกับสือเชาจะโกรธแค้นพวกเรามากหรือไม่?”
“เจ้าเอาเงินเขามาห้าพันตำลึงเชียวนะ เหมาฮ่าว คิดหรือว่าเขาจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ ในเมื่อเจ้ารับเงินเยอะขนาดนี้ก็เลี้ยงพวกเราให้เปรมปรีดิ์กันก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
คนทั้งสามยังไม่รู้ตัวว่ามีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งได้รับคำสั่งให้ตามมาจัดการพวกเขา กัวเจียงเยว่ในชุดเสี่ยวเอ้อมองเห็นความผิดปกติรอบๆ ก็ชี้ให้ซูหลีดู
“คุณหนู คนพวกนี้เหมือนจะตามมาจากบ่อนนะเจ้าคะ ข้าจำคนผู้นั้นได้” ซูหลีชี้มือไปยังผู้ชายที่มีหนวดซึ่งนั่งอยู่โต๊ะริมห้อง
“อืม...ข้าก็จำคนผู้นั้นได้เช่นกัน หรือว่าพวกเขาคิดจะมาตามเอาเงินคืน”
คุณหนูกัวรอกระทั่งกลุ่มบุรุษสิ้นดีดื่มไปได้มากจึงคิดจะลงมือ ทว่าต้องพลันชะงักเมื่อหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ผู้นั้นที่นั่งอยู่ห้องคนละฟากหยิบเอามีดสั้นออกมา ตำแหน่งของห้องที่ตรงกันข้ามกันสามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้เพราะแต่ละห้องมิได้ปิดประตู ในหออิงราตรีที่ชั้นสองมีระเบียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบห้องโถงด้านล่าง
“คุณหนูพวกนั้นเตรียมอาวุธมาด้วยเจ้าค่ะ”
สายตาของชายฉกรรจ์ร่างใหญ่คอยเหลือบมองมายังห้องของคุณชายทั้งสาม เมื่อเห็นว่าจานเจิ้งกับเถียนฮุยเริ่มส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นจนแทบจะเท่ากับเสียงบรรเลงดนตรีของแม่นางที่เวทีข้างล่างคนทั้งกลุ่มในห้องตรงข้ามก็ลุกพรึ่บขึ้นพร้อมกันแล้วกระโจนจากระเบียงฝั่งหนึ่งไปถึงอีกฝั่งหนึ่งในพริบตา
“มีคนจะกำจัดศัตรูแทนคุณหนูแล้วเจ้าค่ะ” ซูหลีร้องด้วยความตื่นเต้น นางกับเจ้านายซุ่มดูอยู่ที่มุมด้านหนึ่งใกล้บันได
“เรารอดูกันไปก่อน”
ภาพการต่อสู้ระหว่างบุรุษกลุ่มใหญ่กับเถียนฮุยและเหมาฮ่าวเป็นไปอย่างดุดัน
“ว้าย! กรี๊ด!”
ร่างของหญิงคณิกาที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณชายทั้งสามถูกผลักให้หลบออกจากห้อง พวกนางร้องหวีดด้วยความหวาดกลัว เถียนฮุยใช้พัดต่อสู้อย่างคล่องแคล่ว ในบรรดาคุณชายทั้งสามเขานับว่าเป็นวรยุทธ์สูงสุด เหมาฮ่าวพลิกตัวไปคว้าเอาเชิงเทียนขึ้นมาป้องกันตัวจากมีดสั้นที่พุ่งเข้ามาพร้อมกันหลายทิศทาง จานเจิ้งผู้ไม่มีวรยุทธ์ หมุนตัวหลบอย่างคล่องแคล่ว นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เขาเคยเผชิญ
“ต้านไม่ไหว! แยกย้ายกันหนีนะ!” เถียนฮุยร้องสั่งสหาย ตัวเขาหลอกล่อให้ชายฉกรรจ์ส่วนหนึ่งกระโจนตามออกไปต่อสู้หน้าหออิงราตรี
เหมาฮ่าวเองก็กระโจนออกระเบียงด้านหน้าไปอีกทาง ส่วนจานเจิ้งวิ่งลงทางบันไดหลบหนีนักเลงสามคนที่ตามเสียบร่างเขา คุณชายจานมองเห็น เสี่ยวเอ้อหน้าแฉล้มก็รีบคว้าแขนมาเพื่อหวังให้บังมีดสั้น
เคร้ง!
กัวเจียงเยว่แทบจะตั้งตัวไม่ทัน นางตกใจที่จานเจิ้งวิ่งออกมาได้ก็คว้าแขนแล้วพลิกตัวนางให้รับมีดแทน หญิงสาวชักมีดสั้นที่เตรียมไว้ออกมารับ แขกในห้องต่างๆ ล้วนกรีดร้องด้วยความตกใจ
“มีคนฆ่ากัน! ช่วยด้วย!”
เท่านั้นเองความโกลาหลก็เกิดขึ้นในทันที จานเจิ้งหันมาเห็นว่าเสี่ยวเอ้อมีมีดและสามารถรับกระบวนท่าหมายชีวิตแทนเขาเอาไว้ได้ก็รีบคว้าข้อมือเสี่ยวเอ้อให้วิ่งตามเขามา
“เจ้าคุ้มกันข้าได้นี่! ตามข้ามาเร็ว! ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม”
หญิงสาวที่วางแผนมาทำร้ายเขากลับต้องวิ่งตามอย่างฉุกละหุก กลายเป็นคนที่ต้องคุ้มกันศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจ
“นี่เจ้าคิดจะหนีไปไหน?”
“ไปในที่ที่มีมือปราบน่ะสิ! ข้าไม่มีวรยุทธ์ขืนอวดเก่งก็สิ้นชื่อกันพอดี” ชายหนุ่มเริ่มพานางวิ่ง กัวเจียงเยว่ถูกลากไปด้วยจนออกมาถึงถนนใหญ่
**********************