"อ้วนเป่าเจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ"
จื่อรั่วอิงกอดอกกล่าวคำชมเชยบ่าวตัวอ้วนที่มุมแห่งมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา
"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวยอมตัดผมโกนหัวเนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"
จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ
"อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนนไม่รู้บิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าที่เปรียบเสมือนบิดามารดาที่รับเด็กข้างถนนเช่นเจ้ามาดูแลเลี้ยงดูจนตัวอ้วนเช่นนี้ ดังนั้นอย่าลืมว่าเจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก"
เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ ๆ พยายามคิดตามคำของคุณหนูแล้วพยักหน้า
"บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนูบ่าวคงตายด้วยความหิวไปแล้ว คุณหนูเช่นนั้นบ่าวขอเรียกคุณหนูว่า ท่านแม่ สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"
จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองก็กลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อแต่ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ความดีของเขามีอยู่มาก เมื่อคิดถึงข้อนี้นางจึงพยักหน้า เอาล่ะนางจะให้อภัยในความคิดเหมือนเด็กน้อยของเขาสักครั้งก็แล้วกัน
"อ้วนเป่า ข้าจะเป็นแม่เจ้าได้อย่างไร ข้าสาวเพียงนี้ งามเพียงนี้ ทั้งยังโสดซิง ไม่ต้องคิดจะเรียกข้าว่าท่านแม่อีก"
อ้วนเป่าแสดงสีหน้าคล้ายจะร้องไห้
"คุณหนู ท่านรังเกียจบ่าวหรือขอรับ"
"อ้วนเป่า..."
จื่อรั่วอิงถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คนโง่ฟังให้เข้าใจได้อย่างไร
"เอาเป็นว่านี่คือคำสั่ง ห้ามเรียกข้าว่าท่านแม่ จบนะอย่าถามมากอีก"
ในเมื่อคุณหนูสั่ง อ้วนเป่าจึงยอมรับแต่โดยดี แม้ว่าในใจคิดอยากเรียกคุณหนูด้วยความกตัญญูว่าท่านแม่สักครั้งก็ตาม
"คุณหนูซ่อนตัวอยู่ในนี้ก่อนนะขอรับ อีกไม่นานท่านอ๋องคงจะเสด็จถึงแล้ว บ่าวจะไปเตรียมตัวต้อนรับท่านอ๋องอยู่ด้านนอก ปกติจะมีองครักษ์เข้ามาสำรวจบริเวณนี้แต่ตรงจุดนี้บ่าวได้ทำที่ซ่อนเอาไว้เป็นพิเศษ รับรองว่าต้องลอดพ้นสายตาองครักษ์ได้แน่นอน"
ถึงเจ้าอ้วนเป่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างซื่อ และออกจะโง่ในบางเรื่อง ทว่าเขากลับมีสมองอันปราดเปรื่องในเรื่องการวางกับดักและการทำที่ซ่อนคงเป็นเพราะเขาเคยอาศัยอยู่ในป่ามาก่อน
สมัยเด็ก ๆ ในตอนเล่นซ่อนหากันจื่อรั่วอิงไม่เคยหาอ้วนเป่าเจอสักครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาทำที่ซ่อนและเผลอนอนหลับไป นางให้คนช่วยค้นหาทั่วจวนก็ไม่พบกระทั่งวันต่อมาเขาจึงออกจากที่ซ่อนด้วยท่าทางหิวโซ นางยังคิดว่าเขาถูกใครจับตัวไปเสียอีก
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงไว้ใจเขาได้
จื่อรั่วอิงพยักหน้าเอ่ยว่า
"เจ้าออกไปเตรียมตัวเถิด ทำตามแผนให้ดี"
"ขอรับ"
ที่วัดเชิงเขาแห่งนี้เป็นอารามหลวงที่มีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ลี่หมิงอ๋องเป็นบุรุษที่นางหมายตาคิดจับเป็นสามี จึงได้ให้อ้วนเป่าไปสืบข่าวของเขาโดยละเอียด จนกระทั่งได้รู้ว่าเพราะศึกครั้งสุดท้ายทำให้เขาถูกวางยาพิษ เพื่อรักษาตัวเขาจึงต้องมาแช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นประจำ
แผนชั่วของจื่อรั่วอิงคือส่งคนมาบวชเพื่อหาทางให้นางได้ใกล้ชิดท่านอ๋อง ด้วยเจ้าอ้วนเป่าเป็นบุรุษตัวขาวอ้วน ยังไร้วรยุทธ์ ท่าทางซื่อ ๆ ยังเป็นคนยิ้มเก่งจึงทำให้ทางวัดยอมให้เขาบวช
อ้วนเป่าอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยความอดทนเพราะต้องกินอาหารเจจนร่างกายผอมลงไปมากนานถึงสามเดือน กระทั่งพระรูปเดิมที่คอยดูแลน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ได้ล้มป่วย อ้วนเป่าของนางจึงมีโอกาสเข้ามาดูแลน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และเริ่มทำที่ซ่อนตัวให้นางในที่สุด
จื่อรั่วอิงคิดถึงชะตาชีวิตตัวเอง ชาติก่อนนางเป็นสาวงามแห่งคณะกายกรรมอันมีชื่อเสียงโด่งดัง ตระเวนออกแสดงไปทั่วโลก คาดไม่ถึงว่าจะต้องมาตายเพราะถูกวิ่งราวโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดที่นางลงทุนต่อแถวไม่กินไม่นอนข้ามคืนเพื่อซื้อมันมาอย่างยากลำบาก
แต่นางใช้งานมันได้เพียงวันเดียวก็ถูกโจรร้ายวิ่งราวเสียแล้ว นางติดตามโจรกระทั่งถึงตัวมันคาดไม่ถึงว่ามันจะมีมีดด้ามยาวแทงกะซวกนางครั้งเดียวตัดขั้วหัวใจตายทันใด
เมื่อวิญญาณออกจากร่างนางยังมองไอโฟนในมือไอ้โจรชั่วนั่นอย่างเจ็บแค้น และต้องหลั่งน้ำตาแทบเป็นสายเลือดด้วยความเสียดาย นั่นมันเงินเก็บของนางตลอดหลายเดือนและการอดหลับอดนอนเพื่อต่อแถวซื้อมันเชียวนะ
แต่แล้วความดีของนางยังคงพอมีบ้างเนื่องจากนางเคยบวชเป็นแม่ชีถึงเจ็ดภพเจ็ดชาติ ท่านเทพสวรรค์จึงให้โอกาสนางได้ใช้ชีวิตที่ดีมีความสุขสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยการส่งมาอยู่ในร่างของคุณหนูจื่อรั่วอิงและยังบอกกับนางว่า จะมอบผู้ชายหล่อบ้านรวยสายเปย์ใจดีให้เป็นคู่ชีวิต นางถูกส่งให้เข้ามาอยู่ในร่างของจื่อรั่วอิงเมื่อเด็กน้อยอายุหกขวบและตายเพราะพิษไข้ ยามนั้นวิญญาณของนางจึงเข้ามาสวมแทนที่
ทว่าอยู่ในร่างนี้มาจนอายุสิบเจ็ดปีแทนที่จะได้เจอผู้ชายหล่อ บ้านรวยสายเปย์ตามคำของท่านเทพ นางกลับไปถูกตาต้องใจซื่อจื่อจอมเสเพลเมียยั้วเยี้ยคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นหลานของฝ่าบาทพระองค์จึงอนุญาตให้แต่งงานได้ แม้ว่าจะไม่ประทานสมรสเป็นเรื่องเป็นราวแต่คำอนุญาตนั้นก็กำลังมัดตัวนางให้แต่งงานเป็นเมียน้อยคนอื่น
หรือว่าท่านเทพจะลืมสัญญาที่ให้นางเอาไว้ แต่นางก็ไม่อยากจะหนีโดยการไปบวชเป็นชีในชาติที่แปดเช่นกัน นางยังอยากมีชีวิตที่สนุกสนานไปอีกสักหน่อย
เมื่อคิดดังนั้นจื่อรั่วอิงย่อมไม่ยินยอม ถึงคราวที่นางต้องกำหนดชีวิตตัวเองแล้ว
จื่อรั่วอิงกลุ้มอยู่หลายวันกระทั่งนางบังเอิญได้ยินเรื่องเล่าของอ๋องตาบอดคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้ไม่มีเมียกวนตัว ไม่มีลูกกวนใจ ไม่มีพี่น้องแย่งสมบัติ เป็นบุรุษพิการตาบอดที่ไม่มีใครเอา คนในยุคนี้คิดว่าการแต่งกับคนพิการก็เท่ากับแต่งกับตัวกาลกิณีจึงทำให้เขายังโสดมาจนทุกวันนี้
แม้จะมีข่าวลือว่าเขาป่าเถื่อน วิปริต จิตใจบิดเบี้ยวเพราะออกรบมานาน แต่จื่อรั่วอิงกลับไม่กลัวตอนนี้เขาก็เป็นแค่คนตาบอดมองไม่เห็นอะไรไม่ใช่หรือ จะเอาอะไรมาน่ากลัวกันเล่า
การเป็นคนพิการไม่ว่าในโลกไหนล้วนไม่มีใครต้องการการแพทย์สมัยนี้ก็ล้าหลังไม่มีทางที่เขาจะหายดี จึงตัดปัญหาเมียน้อยในอนาคตไปได้ นางก็แค่ปรนนิบัติเล็กน้อย ที่เหลือก็ปล่อยพวกบ่าวทำไป หากนางได้แต่งงานกับเขาล่ะก็คิดดูสิว่าชีวิตของนางจะไม่เปรียบประดุจขึ้นสวรรค์เลยหรือ
เพียงแค่คิดก็เกิดความสุขจนแทบจะโบยบินเป็นผีเสื้อไปแล้ว แผนการลับจับผู้ชายของนางจึงเริ่มขึ้น