ตอนที่ 10

1225 Words
บทที่ 10 งามระยับเดินเรอเอิ้กอ้ากออกมาจากห้องทำงานของไทเรลล์ ในมือก็หอบถังทำความสะอาดเอาไว้ด้วย หล่อนเดินผ่านแคทเธอรีนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานหน้าห้องของไทเรลล์ก็อดที่จะเอ่ยทักทายไม่ได้ “คุณแคทเธอรีนออกไปรับประทานอาหารข้างนอกอร่อยไหมคะ” แคทเธอรีนตวัดตามองหล่อนด้วยความไม่พอใจ “ฉันกินข้าวที่โรงอาหาร ไม่ได้ออกไปไหนย่ะ” “อ้าว แต่ว่า...” หล่อนยังจำคำพูดของไทเรลล์ได้ดี ก็เขาบอกว่าแคทเธอรีนออกไปกินข้าวกับแฟนนี่นา หล่อนยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความแคลงใจ “ว่าแต่หล่อนเถอะย่ะ เข้าไปทำอะไรในห้องคุณหมอนานนัก แค่มาทำความสะอาดไม่ใช่เหรอ” “ใช่ค่ะ แต่ผู้อำนวยการกินอาหารไม่หมด ก็เลย...ให้งามช่วยกินน่ะค่ะ” “ฮะ? ว่าไงนะ?!” ดวงตาของแคทเธอรีนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า “นี่เธอกินข้าวกับผู้อำนวยการเหรอ” “คืองามก็แค่ไม่อยากให้อาหารเหลือน่ะค่ะ” แคทเธอรีนมองหน้าหล่อน ก่อนจะไล่สายตาลงไปยังปลายเท้าและตวัดสายตาขึ้นมาจ้องหน้าใหม่ “เป็นแค่พนักงานทำความสะอาด อาจเอื้อมนักเชียว” “คืองาม...” “อยู่ให้ห่างคุณหมอเลยนะ ไม่อย่างนั้นเธอได้ตกงานแน่ งามระยับ!” งามระยับหน้าซีดเผือด อยากจะตบปากตัวเองสักพันสักหมื่นรอบที่หลุดปากเรื่องกินข้าวกับไทเรลล์ออกไป “ค่ะ งามจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วค่ะ” “มันน่านักเชียว ไสหัวไปได้แล้ว” “ค่ะ” หล่อนรีบเดินแกมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ ถ้าตกงาน หล่อนแย่แน่ๆ เลย “งาม” เท้าที่กำลังก้าวเดินชะงักกึก ก่อนจะหันไปด้านหลัง และก็ระบายยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นวศิน “งามกำลังจะไปหาพี่วศินอยู่พอดีเลยจ้ะ” วศินเดินหน้าบึ้งเข้ามาหา “วันนี้งามไปกินข้าวที่ไหนมาครับ ทำไมไม่เห็นไปกินที่ประจำของเราเลย” “คืองาม...” “หรือว่างามหลบหน้าพี่กันครับ” หล่อนรีบส่ายหน้าดิก “งามจะหลบหน้าพี่วศินทำไมล่ะคะ ไม่มีอะไรสักหน่อย” “ก็งามไม่ยอมไปกินข้าวที่เดิม พี่รองามจนหมดเวลาพักกลางวันเลยนะครับ” งามระยับรู้สึกผิดไม่น้อย “งามขอโทษนะคะ พอดีวันนี้งามไม่หิวน่ะค่ะ ก็เลย...ไม่ได้ออกไปกิน” หล่อนเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่กินข้าวกับไทเรลล์ให้วศินฟัง เพราะไม่ต้องการให้ข่าวนี้กระจายออกไป “โธ่ แล้วงามก็ไม่บอกพี่เลย ว่าแต่ไม่กินข้าวกลางวันจะไม่หิวแย่เหรองาม นี่พี่มีขนมปัง เก็บไว้กินนะ” งามระยับรับขนมปังในมือของวศินมาถือเอาไว้ และก็กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ “ขอบคุณพี่วศินมากค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ เย็นนี้กลับบ้านกับพี่นะ พี่เอารถมอเตอร์ไซค์ของแม่มา” “คืองาม...” หล่อนเกรงใจไม่อยากรบกวน “ถ้างามกลับบ้านกับพี่ งามก็ไม่ต้องเสียค่ารถเมล์นะครับ ประหยัดเงินได้อีกตั้งสิบกว่าบาท” เมื่อมันช่วยประหยัดได้ หล่อนจึงไม่คิดจะปฏิเสธอีก “ก็ได้ค่ะพี่วศิน งั้นเย็นนี้เจอกันค่ะ” “โอเคครับ งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ” วศินยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกไปถึงใบหู สีหน้าแจ่มใสผิดกับตอนแรกที่เผชิญหน้ากับหล่อนลิบลับ “ค่ะ” หล่อนยืนมองจนวศินเดินหายไปจากสายตาก็หยิบขนมปังมาใส่กระเป๋าเสื้อ และเดินหิ้วถังมุ่งหน้าตรงไปยังห้องสำหรับพนักงานทำความสะอาดทันที “คุยกับแม่ก่อนสิ ไทเรลล์” คนที่กำลังจะเดินผ่านห้องรับแขกชะงักเท้า และเมื่อหันมาแล้วพบว่ามารดาเป็นเจ้าของเสียง เขาก็ก้าวเข้ามาหาทันที “ผมคิดว่าคุณแม่ออกไปงานเลี้ยงแล้วเสียอีก” ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับมารดา “ตอนแรกแม่ก็ว่าจะไป แต่เปลี่ยนใจแล้ว” “ทำไมล่ะครับ” ลินดาหรี่ตาแคบมองหน้าลูกชาย “ก็มีเรื่องอื่นที่ทำให้แม่ร้อนใจน่ะสิ” คิ้วหนาดกของไทเรลล์เลิกสูงอย่างสงสัย “เรื่องอะไรหรือครับคุณแม่” “ก็เรื่องลูกนั่นแหละ” “เรื่องผม?” ไทเรลล์ทำหน้ามึนงง “ใช่” ลินดาตอบเสียงห้วนๆ ก่อนจะพูดต่อ “วันนี้ลูกไปกินข้าวกับใครมา” เมื่อได้ยินคำถามของมารดา เขาก็เข้าใจทันทีว่าท่านร้อนอกร้อนใจเรื่องอะไร “แคทเธอรีนโทรมารายงานคุณแม่อีกแล้วใช่ไหมครับ” “อย่าไปว่าแคทเธอรีนเลย แม่สั่งเอาไว้เอง” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย “ผมกินข้าวกับพนักงานทำความสะอาดครับ” “ตายแล้ว นี่ลูกลดตัวลงไปกินข้าวกับคนต่ำๆ แบบนั้นได้ยังไงกัน แม่จะเป็นลม” ลินดายกมือขึ้นทาบอก “ผมไม่เคยมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเองหรอกครับ ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันหมด เวลาในชีวิตก็มีเท่าๆ กัน” “แต่เงินในกระเป๋าไม่เท่ากันไงลูก” “เงินไม่ได้ทำให้มีความสุขได้เสมอไปหรอกนะครับคุณแม่ ผมคิดว่าค่าของคนอยู่ที่ความดีต่างหาก” ลินดาส่ายหน้าพรืดอย่างไม่เห็นด้วย “แต่สำหรับแม่ ค่าของคนอยู่ที่ชาติตระกูลและเงินในกระเป๋า ดังนั้นสะใภ้ของแม่จะต้องมีครบทั้งสองอย่าง ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ยอมรับหรอก” ไทเรลล์มองมารดาของตัวเองอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “แต่ผู้หญิงที่คุณแม่เลือกให้ผมแต่ละคน ไม่มีคนไหนที่ผมถูกใจเลยนะครับ ผมว่าให้ผมเลือกเองจะดีกว่า หรือไม่งั้นก็หยุดยัดเยียดผู้หญิงที่ไม่ใช่ให้ผมเสียที” “ไทเรลล์พูดแบบนี้ไม่ได้นะลูก แม่อยากอุ้มหลาน ได้ยินไหมว่าแม่อยากอุ้มหลาน ไม่รู้ล่ะ แม่กำลังติดต่อผู้หญิงคนใหม่ให้ลูก รับรองว่าคนนี้ลูกจะต้องชอบแน่ เพราะทั้งสวย ทั้งรวย แถมยังชาติตระกูลดีอีกด้วย” “ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ชายหนุ่มตัดบท เพราะไม่รู้จะโต้แย้งอะไรกับมารดาอีกแล้ว “ไปเถอะ แล้วลงมากินข้าวกับแม่นะ” “ครับ” ลินดามองร่างสูงใหญ่ของลูกชายไปจนลับตา ก่อนจะหันมาคุยกับคนสนิทของตัวเอง “แม่พรไปโทรนัดหนูเข็มให้ฉันหน่อย บอกว่าพรุ่งนี้ให้มากินข้าวที่บ้านฉันตอนเย็น” “ค่ะ คุณผู้หญิง” คนสนิทรีบเดินไปกดโทรศัพท์และทำตามคำสั่ง “แม่มั่นใจว่าหนูเข็มจะต้องทำให้ลูกตกหลุมรักได้ไม่ยาก แล้วหลานของแม่ก็จะมาเกิดในไม่ช้า” ความหวังของลินดาล้นปรี่อยู่แน่นอก ก่อนจะหันไปถามป้าพรที่เดินกลับเข้ามา “เป็นไงบ้าง หนูเข็มว่ายังไง” “คุณเข็มตกลงค่ะ” ลินดานั่งอมยิ้มอย่างมีความสุข ความหวังที่จะได้อุ้มหลานก่อนตายค่อยๆ ชัดเจนขึ้นทุกขณะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD