สิงหารอจังหวะที่ปริมลดาเดินออกไปคุยโทรศัพท์ สาวเท้าเข้าไปหาคนที่ยืนคอยอยู่เพียงลำพัง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้เธอหันมามองเขาก่อนที่เขาจะทันเข้าถึงตัวเธอ พระพายกำลังจะผละตัวออกห่าง ติดที่เขาเข้ากระชากข้อมือของเธอเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว
“สิง! มันเจ็บนะ”
“ไม่ต้องเสนอหน้าพูดถึงฉันบ่อยๆ หรอก ไม่จำเป็นต้องบอกใครเลยว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน!” พระพายเอี้ยวหน้ามามอง จนเขาต้องรีบอธิบาย ให้เธอเข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น
“เธอเป็นแค่เมียที่ฉันเอามาไว้เพื่อแก้แค้น ฉันไม่ได้อยากได้ แล้วฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้”
คนฟังถึงกับนิ่งไป แต่แค่แว๊บเดียวเธอก็พยักหน้า เพื่อยืนยันว่าตัวเองเข้าใจทุกอย่าง
“ไม่เป็นต้องห่วง” พระพายตอบรับสั้นๆ ก่อนจะแกะมือของเขาออกห่าง บางครั้งก็ทำท่ารังเกียจ แตกต่างจากตอนที่เธอเสนอหน้าเข้ามารับผิดชอบแทนน้องตัวเอง ด้วยการแต่งงานกับเขาโดยสิ้นเชิง
“เหอะ! อวดดี!”
สายตาของใครหลายๆ คนมองมาที่เขาพร้อมกับยกมือไหว้ แต่พอมองเลยไปที่พระพาย พวกเขาก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก แต่เขาเลือกที่จะไม่อธิบายหรือบอกใคร ว่าเรื่องที่ทุกคนกำลังสงสัยมันมีที่มาที่ไปยังไง
อย่างที่บอก เธอคือเมียที่เขาไม่อยากได้ แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติเธอ!
“วันนี้คุณสวยเป็นพิเศษนะ” สิงหาเอ่ยทักทายเลขาสาวหน้าห้องด้วยคำพูดที่ผิดแผกไปจากเดิม ปกติคนอย่างเขาไม่ชอบยุ่งกับใคร โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องร่วมงานกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หรือใครพยายามจะทอดสะพานแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองไม่วุ่นวาย
ยกเว้นวันนี้ที่เขาตั้งใจจะปั่นหัวใครอีกคน!
“จริงหรอคะคุณสิง ขอบคุณค่ะ” เลขาสาวยิ้มหวานกลับมา เธอทำท่าเขินอาย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปหยุดที่ใครบางคน
“เอ่อ…. วันนี้คุณพระพายมาพร้อมคุณสิงเหรอคะ”
“ฝากคุณช่วยมอบหมายงานง่ายๆ แถวนี้ให้ทำหน่อย เขาจะได้ไม่ว่างจนเกินไป” สิงหาปรายสายตามองคนที่ยืนนิ่ง
ต่อให้ใครหลายหลายคนจะสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาแต่ถ้าเขาเลือกที่จะไม่พูดถึงและเลือกที่จะปฏิบัติต่อเธอแบบนี้อย่างน้อยๆ มันก็คงสะกิดใจ และทำให้เธอเจ็บปวดได้บ้างต่อให้มันจะไม่ถึงครึ่งกับความเจ็บปวดที่เขาได้รับก็ตาม
“ให้ป้อนงานเหรอคะ ให้ลงแผนกไหนคะ หรือว่าคุณสิงจะให้ทำอะไร”
“ทำอะไรก็ได้ มีงานอะไรก็ให้ทำๆ ไป”
“เอ่อ… แต่ก่อนหน้านี้คุณพระพาย….”
“ผมสั่งให้ทำอะไรก็ทำ หางานให้เขาทำแถวนี้น่ะดีแล้วไม่ต้องให้ไปอยู่ไกลหูไกลตาเพราะถ้าอยู่ไกลหูไกลตาอู้งานขึ้นมามันจะไม่มีใครเห็น” สิงหาจงใจพูดออกไป ก่อนจะชายตาไปมองที่ใบหน้าของคนข้างกาย เธอไม่แสดงความรู้สึกใดๆ และเลือกที่จะไม่มองหน้าของเขาอีกต่อไป..
“งั้นให้ช่วยงานปานละกันนะคะคุณสิง ต้องลื้อเอกสารประจำปี ต้องใช้เข้าที่ประชุมบ่ายนี้พอดีเลย”
“ใช้งานได้ตามสบาย” สิงหาไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินตรงเข้าห้อง และไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง
ผู้หญิงที่ไม่ถูกให้เกียรติและไม่ได้รับการยกย่อง ทั้งๆ ที่เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วแบบนี้เธอจะทนได้ถึงเมื่อไหร่
บางทีเขาอาจจะมีสิทธิ์นับวันรอแล้วก็ได้ ยิ่งเขาพยายามกดดันให้เธอทนไม่ไหวได้เท่าไหร่ เธอก็ยิ่งจะปริปากออกมาเร็วเท่านั้น และแน่นอนเมื่อไหร่ที่เขาได้ตัวผู้หญิงที่เป็นสาเหตุของทุกอย่างเขาจะยอมปล่อยเธอไปจะคืนอิสรภาพให้โดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย
ทั้งใช้งานสารพัด ปล่อยให้เธอพักกลางวันแบบไม่เป็นเวลา ทว่ากลับไร้เสียงปริปากบ่น เธอยังทนที่จะก้มหน้าทำงานสมกับเป็นพระพายที่สามารถทนได้ทุกอย่าง ทนได้ทุกเรื่อง
ทั้งปล่อยให้เธออยู่กับกองเอกสารที่ไม่รู้สูงตั้งกี่สิบชั้น แต่มันก็ไม่ได้มีผลหรือเป็นปัญหากับผู้หญิงที่ช่างแบกรับความอดทนแบบคนอย่างเธอได้!
แต่ก็นั่นแหละ ทนได้ก็ทนไปเขาไม่เล่นงานเธอแค่นี้แน่ อย่างน้อยๆ การที่เธอเลือกที่จะปกปิดและยอมให้การช่วยเหลือน้องสาวของตัวเองทั้งที่รู้ว่าน้องตัวเองทำผิดหากหากเธอได้รับความเดือดร้อนบ้างมันก็คงไม่แปลกอะไร
มันสมควรแล้วจริงๆ!
เกือบหกโมงเย็นที่ประตูห้องทำงานของผู้บริหารถูกเคาะจากคนที่อยู่ด้านนอก สิงหาอนุญาตให้เข้ามา ก่อนจะพบว่าเป็นปริมลดาที่เดินเข้ามาหาเขา
“คุณปริม คุณมีธุระอะไรงั้นเหรอ” ทันทีที่ได้ยินคำถามนี้ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าต่อให้ที่ผ่านมาจะเคยเป็นเพื่อนกันในตอนนี้ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปทั้งหมดแล้ว
จะให้ไปพูดจาเหมือนตอนที่เป็นเพื่อนกันมันก็ไม่ได้เหมือนกัน
“พายล่ะคะ นี่มันได้เวลาเลิกงานแล้ว ยังไม่เห็นพระพายเลย”
“พระพายทำงานอยู่คุณมีธุระอะไรจะคุยงั้นเหรอ”
“แต่นี่เป็นเวลาเลิกงานแล้วนะคะ”
“แล้ว?”
“ก็ต้องกลับบ้านไงคะ” ปริมลดาเก็บความหมั่นไส้เอาไว้ในใจ ทีเมื่อก่อนไม่เคยเห็นเป็นคนแบบนี้แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปราวคนละคน
“พระพายยังทำงานไม่เสร็จ ในเมื่องานของคุณเสร็จแล้ว คุณก็กลับก่อนได้เลย”
“คุณสิงให้ยัยพายไปทำอะไรงั้นเหรอคะ”
“มาทำงานก็ต้องทำงานหรือคุณคิดว่าผมจะให้เพื่อนคุณไปทำอย่างอื่น?”
“มะ… ไม่ใช่ คือว่า”
“ถ้าเสร็จงานแล้วก็เชิญกลับไปได้ ส่วนใครที่ยังทำงานไม่เสร็จเขาก็ต้องทำต่อให้เสร็จ เชิญ“ สิงหาขับไล่คนตรงหน้า เขาไม่ได้แคร์แล้วว่าเมื่อก่อนเราจะเคยเป็นเพื่อนกันและหากการทำแบบนี้มันอาจจะทำให้เพื่อนโกรธ ใครอยากตัดเขาออกไปจากชีวิตก็เชิญได้ตามสบายเพราะเขาเองก็ไม่แคร์ใครแล้วเหมือนกัน