EP.06 วิญญาณเฮี้ยน

884 Words
EP.06 “เรียกพี่หรือจ๊ะน้องสาว” วัยรุ่นหนุ่มคนนั้นถามอย่างคะนองปาก “ใช่จ้ะ มีพี่แค่สองคนกับฉันอยู่ตรงนี้ แล้วจะให้ฉันไปเรียกผีที่ไหนล่ะจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ยานคางและซ่านสยิวระเคืองหู หากแต่สองวัยรุ่นในเวลานี้ ความปรารถนากลับเข้าครอบงำอย่างแรงกล้า จนมันก็สุดจะยับยั้งเอาไว้ได้ ก่อนไอ้ทิน หนุ่มลูกพี่จะกระโจนเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดร่างนั้นเอาไว้แน่นท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกของหญิงสาวที่ดูเหมือนจะพึงพอใจเป็นยิ่งนักต่อรสสัมผัสที่แปลกใหม่ “พี่ไม่อยากจะรอแล้วนะน้อง ขอตรงนี้เถอะ” ไอ้หนุ่มเลือดร้อนว่าพร้อมกับผลักร่างบางให้ล้มลงไปกับตนตรงสนามหญ้าด้านหน้า ก่อนจะรู้สึกตัว แล้วหันมาตวาดใส่ไอ้ลูกน้องที่ยืนดูอยู่ด้วยความสนใจ “ไอ้ยุทธ เอ็งไปดูต้นทางไป้ เดี๋ยวกูจะเรียก” “โธ่พี่ ฉันขอดูหนังสดไม่ได้รึ อยากดูแบบเต็มๆ มานานแล้ว” ไอ้ยุทธร้องโอดครวญ “ไม่ได้โว้ย กูจะมีความสุขกับน้องเค้า ส่วนแกก็ไปรอก่อน เดี๋ยวกูเรียก” “เออ ก็ได้พี่ งั้นขอให้มีความสุขนะ” ว่าพร้อมกับเดินจากไปอย่างหัวเสีย ขณะไอ้ทินหันมายิ้มร่าให้กับร่างระหงที่นั่งมองมันด้วยสายตาชนิดหนึ่ง หากแต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนน้ำเสียงเชิญชวนจะดังตามมาอีก จนทำให้มันแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่าลาบปากจะเดินทางมาถึงรวดเร็วแบบนี้ มันไม่รอช้า กระชากเสื้อแสงออกจากกายสาวจนร่างอันขาวละเอียดลออปรากฏต่อสายตา ก่อนที่มันจะโน้มหน้าลงบดขยี้เรียวปากสวยที่เผยอเชิญชวนอย่างแรง จนภายในกายหนุ่มที่เต็มตื้นไปด้วยแรงปรารถนาเพิ่มความเสียซ่านมากยิ่งขึ้น ครั้งนี้ก็ครั้งแรกที่จะได้เสพสมกันกลางแจ้งท่ามกลางแสงจันทร์ ไอ้ทินยิ้มร่ากับความสมสุขของมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นสำรวจเรือนร่างเรียวบางทุกสัดส่วน ทุกพื้นที่อย่างละเอียด ท่ามกลางร่างบางระหงที่บิดเร้า กับเรียวปากที่บิดยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ แกมสาแก่ใจเป็นยิ่งนัก หากในเวลานั้นกลุ่มเมฆดำหลายก้อนน้อยใหญ่ ก็ได้ลอยมาบดบังรัศมีของดวงจันทร์จนหมด บรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวพึงบังเกิด พร้อมกับเสียงดนตรีจากเครื่องสะล้อที่ดังกระชั้นถี่และใกล้เข้ามา ลมที่พัดแต่เบาบัดนี้ได้กลายเป็นกระโชกแรงขึ้นตามลำดับ แล้วเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก็ได้ดังขึ้นมาจากร่างของหญิงสาวที่นอนราบอยู่เบื้องหน้า “กรี๊ด ด ด” ไอ้ทินถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างบางที่อยู่แนบชิดดิ้นรนเป็นการใหญ่ “เฮ้ย” ไอ้ทินร้องขึ้นอย่างตกใจสุดขีดผละตัวหนี ก่อนจะเห็นหญิงสาวคนนั้นหยัดกายลุกขึ้นทั้งร่างเปล่าเปลือย แล้วชี้หน้าของมันด้วยความโกรธเกรี้ยว “ไอ้สารเลว แก แกทำร้ายฉัน โอ้ย” เธอยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบลงไปในที่สุด ท่ามกลางความตกใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และสิ้นสุดลงไปอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ร่างของมันยืนนิ่งมองร่างนั้นที่นอนนิ่งอย่างไม่แน่ใจ ก่อนไอ้หนุ่มลูกน้องจะวิ่งเข้ามาหาด้วยความตกใจไม่แพ้กัน “เกิดอะไรขึ้นพี่” “ไม่รู้ว่ะ จู่ๆ น้องเค้าก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าฉัน และร้องอย่างที่เอ็งได้ยินนั่นแหละ” ไอ้ทินร้องบอกด้วยเสียงปนหอบ แต่ในเวลานั้นมีเสียงหัวเราะเยือกเย็นเสียงหนึ่งดังขัดขึ้น มันชะงัก หันไปทางต้นเสียงที่นอนราบอยู่บนพื้นก่อนจะตกใจสุดขีดเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองพวกมันอย่างรวดเร็ว “เหอะๆ ไอ้ละอ่อนเมื่อวานซืน” คุณพระช่วย เวลานั้นใบหน้าที่เคยสวยสดใสกลับแปรเปลี่ยนเป็นเน่าเละ ดวงตาทั้งสองข้างกลวงโบ๋ ริมฝีปากที่เรียบสนิทกลับแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว “หึ หึ ไอ้พวกคนจัญไร” ร่างนั้นหยัดกายลุกขึ้น ค่อยกลับเปลี่ยนจากร่างที่งดงามเป็นอีกร่างหนึ่งที่อยู่ในชุดเจ้านายฝ่ายเหนือ สไบสีส้มอ่อนคล้องอยู่ที่คอ ทับเสื้อแขนยาวทรงกระบอกโปร่งบาง ปักดิ้นทองอย่างสวยงามและผ้าซิ้นสีแสดลายน้ำไหล ที่ไหวตามแรงลมอยู่น้อยๆ นางชี้ดรรชนีไปยังสองวัยรุ่น แล้วไล่ตะเพิดอย่างขัดใจ “กูเคยเตือนพวกสูสักกี่คราว่าอย่ามายุ่งกับเฮือนของกู ออกไป้ พวกมึงทั้งสองจงรีบออกไป ก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ” สองวัยรุ่นหน้าถอดสีปากซีดคอสั่น รู้ดีว่าตนเจอดีเข้าให้แล้วก่อนจะร้องลั่นแล้ววิ่งแข่งกันออกไปโดยเร็ว “หวอ ผี” ร่างนั้นแสยะยิ้มอย่างพอใจ มองตามสองร่างที่ลับหายไป ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนจากร่างของวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว กลับกลายเป็นร่างของหญิงสาววัยรุ่นเช่นเดิม หันหลังเดินต่อไป หายขึ้นไปบนเรือนทรงไทยหลังใหญ่ ท่ามกลางเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD