EP.12 ปีกแก้วกินรี

1290 Words
EP.12 “ผีด้ำ” ทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกัน กระเทยสาวเจซี่ถึงกับเอามือทาบอกเพราะผีไม่ว่าจะเป็นผีอะไรคุณเธอก็กลัวทั้งนั้น ส่วนหญิงสาวกระพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทัศทระนงพูดขึ้น ผีด้ำคือผีอะไร ทำไมถึงต้องมีการฟ้อนรำเพื่อบูชาด้วย “ครับ ผีด้ำ คำว่าด้ำในที่นี้หมายถึงบรรพบุรุษ ดังนั้นผีด้ำจึงหมายถึงผีบรรพบุรุษครับ” เขาอธิบายให้กับทุกคนฟัง เพราะเห็นสายตาของแต่ละคนมีคำถามอีกมากมาย “รำหรือคะ จะดีหรือคะนิรำไม่เป็นหรอก” “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะให้ป้าของผมมาสอนคุณเอง ผมทราบมาว่าท่านก็เป็นแฟนละครของคุณเหมือนกัน” “มันจะดีหรือคะ นิไม่เข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกคุณ ทำไมไม่ให้คุณดาด้ารำล่ะคะเห็นว่าเป็นคนเหนือเหมือนกัน เธอน่าจะเข้าใจอะไรได้ดีกว่านิ” “ไม่ดีกว่าครับ คุณดาด้าเธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในด้านความเซ็กซี่คงไม่เหมาะนักที่จะให้มารำ ผมว่าคุณนินั่นแหละครับเหมาะสมที่สุด ผมขอร้องเถอะนะครับ” “ถ้าคุณมั่นใจในตัวของนิ นิก็ขอน้อมรับด้วยความยินดีค่ะ แต่นิขอออกตัวก่อนนะคะว่านิไม่รู้ขนบธรรมเนียมของพวกคุณ หากทำได้ไม่ดีพอก็อย่าว่ากันนะคะ” “ครับ ผมจะไม่ว่าเพราะรู้ว่าคุณนิรัชฌาจะต้องรำสวยอย่างแน่นอน ผมเคยเห็นคุณฟ้อนเล็บเมื่อละครเรื่องก่อนๆ มาแล้ว งดงามมากเลยครับ” “อันนั้นนิไปรำมาค่ะ แต่มันก็นานมากแล้วนะคะ นิคงหลงๆ ลืมๆ ไปเยอะ” “รำครั้งนี้ คุณจะได้ใส่ชุดแก้วกินรีด้วยนะครับ ผมว่าคุณนิจะต้องชอบแน่ๆ เลย” “ชุดแก้วกินรี คืออะไรหรือคะ” นิรัชฌาถามกลับอย่างแปลกใจ แปลกตรงที่เธอเคยได้ยินคำนี้มาก่อน เพียงแต่นึกไม่ออกเท่านั้น “แก้วกินรีเป็นชื่อของชุดการรำบูชาผีด้ำครับ เรื่องชุดนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับผมมีให้ก็แล้วกัน เพียงแต่คุณเตรียมตัวให้พร้อมก็แค่นั้น” “ว้าว ชุดแก้วกินรี ดูชื่อแล้วคงจะเลิศมั่กมาก ว่าแต่ว่ามันเป็นยังไงคะคุณทัศทระนงขา” เจซี่เอ่ยแทรกขึ้น ทำท่าทำทางสนใจในเรื่องที่ช่างกล้องหนุ่มพูดเป็นยิ่งนัก “เอาไว้วันงานคุณเจซี่จะได้เห็นครับ” “เจซี่ขอรำแทนไม่ได้หรือคะ คงจะซิลีพูลมากเลยค่ะ” “ไม่ได้หรอกครับ การรำนี้เขาใช้แต่ผู้หญิงรำเท่านั้น ผมเกรงว่าถ้าให้คุณเจซี่รำ จะทำให้บรรพบุรุษของผม โดยเฉพาะเจ้านางเอื้องแก้วผู้คิดค้นชุดนี้ขึ้นจะไม่พอใจ หาว่าเราลบหลู่ท่านน่ะสิครับ” “เจ้านางเอื้องแก้วนี่คือบรรพบุรุษของคุณหรือคะ” “ใช่ครับ เจ้านางเอื้องแก้ว คือบรรพบุรุษของตระกูลของผม ท่ามตายไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนครับ” หลังจากเข้าเยี่ยมน้องสาวเรียบร้อยแล้ว ดารารัตน์ก็พาพิมพ์จันทร์ออกมาพักที่โรงแรมแทนการพาไปพักที่บ้าน เพราะคนอย่างพิมพ์จันทร์เป็นคนที่ชอบดูถูกคนเสมอ เธอไม่อยากจะให้เพื่อนเจ้าเล่ห์คนนี้มาดูถูกเธอ “ทำไมเธอไม่พาฉันไปที่บ้าน” พิมพ์จันทร์ถามขึ้นด้วยวาจาหยามเหยียด “ลูกน้องของพ่อฉันเป็นนักเลงทั้งหมด หรือเธอชอบที่จะไปโชว์ตัวให้ไอ้พวกนั้นดู” ดารารัตน์ยกเหตุผลมาอ้าง แต่พิมพ์จันทร์กลับเชื่อแถมยังทำท่าขยะแขยง “ไม่ดีกว่าย่ะ พักโรงแรมก็โรงแรม” พิมพ์จันทร์ลากกระเป๋าเข้าไปภายในห้องล็อบบี้ ดารารัตน์เชิดหน้า แล้วเบ้ปาก ก่อนจะตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้ ทั้งสองเลือกที่จะพักคนละห้องเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวซึ่งเหตุผลนี้เป็นของพิมพ์จันทร์ซะเองที่ไม่อยากจะให้ดารารัตน์เข้ามายุ่งกับเรื่องของหล่อน หลังจากที่เอากระเป๋าไปไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว ดารารัตน์ก็ออกมาชวนเพื่อนสาวตัวแสบออกไปเดิน ช็อปปิ้งกัน ไม่นานทั้งสองสาวเพื่อนรักเพื่อนร้ายก็มาปรากฏตัวที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด ท่ามกลางสายตาของเหล่านักเดินห้างที่มองมาทางทั้งสองสาวอย่างชื่นชมด้วยเรือนร่างที่สมสัดส่วน ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นจุดเด่นที่สุดของห้างในวันนี้ เมื่อมีคนสนใจมากขึ้นเท่าไรทั้งดารารัตน์และพิมพ์จันทร์ก็ยิ่งเชิดหน้าเดินช็อป กันอย่างสบายใจเฉิบ สิ่งนี้แหละที่ทั้งสองต้องการ ไม่เพียงทั้งสองจะเป็นจุดเด่นทางด้านรูปร่างและสัดส่วนเท่านั้น แต่เพราะทั้งสองมักจะปรากฏตัวในจอแก้วจอเงินและหน้าปกหนังสือบ่อยๆ ทุกคนต่างพากันมายืนดูดาราที่จู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาดั่งเทพธิดามาจากสวรรค์ แต่ก็มีบางพวกที่ไม่ชอบบทบาทที่ทั้งสองมักแสดงออกมาคือบทนางร้ายและนางอิจฉา ซ้ำยังคิดว่าไม่แน่ในชีวิตจริงทั้งสองอาจจะเป็นอย่างนั้น จึงทำเป็นเฉยเสียไม่สนใจเหมือนคนบางกลุ่ม ในเวลานั้นวัยรุ่นสาวคนหนึ่งได้ก็วิ่งเข้ามาหา ในมือมีกระดาษพร้อมปากกา หลังที่ได้ช่างใจอยู่เป็นนานสองนาน “พี่ดาด้า พี่พิมพ์ ขอลายเซ็นด้วยนะคะ” วัยรุ่นสาวร้องขึ้นด้วยอาการที่ดีใจสุดขีดยื่นกระดาษมาตรงหน้าของดาราทั้งสอง ดารารัตน์ฝืนยิ้มรับกระดาษมาลงลายเซ็นอย่างเสียไม่ได้ ส่วนพิมพ์จันทร์ถึงกับเบ้ปากอย่างดูหมิ่นเก็บกดอาการไว้ไม่อยู่ อยากจะเดินออกไปจากตรงนั้นเสีย แต่ก็ต้องทำเป็นยิ้มเพื่อรักษาภาพพจน์ของตัวเอง “เรียบร้อยแล้วจ้ะน้อง” ดารารัตน์ยื่นกระดาษส่งคืน เรื่องสร้างภาพหล่อนสามารถทำได้เนียนที่สุด “ขอบคุณค่ะพี่ดาด้า” หันมายื่นกระดาษส่งให้พิมพ์จันทร์อีก “พี่พิมพ์คะ ขอลายเซ็นหน่อยค่ะ พี่ทั้งสองรู้มั้ยคะ หนูชอบพี่ทั้งสองมากเลยค่ะ เซ็กซี่ม๊ากมาก” พิมพ์จันทร์ฝืนยิ้มรับกระดาษมาเซ็นอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะส่งคืนในที่สุด “อ่ะ เรียบร้อยแล้วนะ พี่ดีใจจังที่ได้เจอน้องในวันนี้” หล่อนก็ทำเนียนไม่แพ้เพื่อนเหมือนกัน “เมื่อไรพี่ทั้งสองจะมีผลงานออกมาล่ะคะ หนูรอดูอยู่” “ของพี่พิมพ์ตอนนี้ยังไม่มีหรอกค่ะ ส่วนพี่ดาด้าเค้าคงอีกไม่นาน” หล่อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับเด็กคนนั้นก่อนจะกระวิบบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน “เรื่องต่อไปพี่เค้าได้เป็นนางเอกด้วยนะคะน้อง” “จริงหรือคะพี่ดาด้า” หันมาทางดารารัตน์ ดารารัตน์แสร้งยิ้มอ่อนหวานก่อนจะตอบ “จ้ะ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องรอดูเอาเองนะคะ แต่ตอนนี้พี่ทั้งสองขอเดินช็อปต่อก่อนนะ” “เดี๋ยวก่อนค่ะพี่ หนูขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนได้มั้ยคะ” “ได้สิจ๊ะ” ทั้งสองดาราสาวจึงจำเป็นที่จะสร้างภาพพจน์ไว้ โดยฝืนยิ้มยืนถ่ายรูปกับเด็กสาวอยู่สักพัก ก่อนจะพากันฉากตัวออกมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นเสีย พอเข้ามานั่งในรถพิมพ์จันทร์ก็ถึงกับระเบิดเสียงออกมาอย่างหัวเสีย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD