bc

พิศวาสรักสีคราม

book_age18+
362
FOLLOW
1.1K
READ
billionaire
one-night stand
HE
heir/heiress
blue collar
sweet
bisexual
brilliant
secrets
like
intro-logo
Blurb

“ขวัญข้าว จะไปไหน เราคุยกันยังไม่รู้เรื่องเลยนะ” เรนย์ตะโกนถาม

“ฉันจะไปเอา 9 มม. มายิงไอ้นั่นของคุณ!”

“เฮ้ย! ขวัญข้าว จะโหดไปไหมนี่”

“มาแล้วหรือนายเรนย์ คราวนี้นายไม่มีไอ้นั่นไว้สืบพันธุ์แน่” ขวัญข้าวเค้นเสียงลอดไรฟัน พร้อมกับเล็ง 9 มม. ไปยังเป้าหมาย ที่ตั้งใจจะลั่นไกเพื่อทำลายมัน

“ขวัญข้าว อย่าเล่นปืนสิ วางปืนลงแล้วมาคุยกันดีๆ”

เรนย์ยกมือห้าม พร้อมกับตะโกนบอกเสียงหลง ดวงตาสีฟ้าเพ่งมองที่ปลายกระบอกปืนเขม็งโดยไม่ประมาท เตรียมพร้อมสำหรับการกระโจนหนีในทุกเมื่อ เพราะปืนผาหน้าไม้ หากได้อยู่ในมือของผู้หญิงแล้ว ก็น่ากลัวด้วยกันทั้งนั้น

“ไม่มีอะไรจะคุยทั้งนั้น คุยภาษาคนกับนายไม่มีทางรู้เรื่องแน่ เพราะฉะนั้นต้องคุยด้วยภาษาปืนนี่แหละ”

“ขวัญข้าว ก็บอกแล้วยังไงล่ะว่าผมจะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น”

“บอกแล้วว่าไม่ต้องการ” ขวัญข้าวตวาดสวนกลับ โกรธทั้งตัวเอง โกรธทั้งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า จนตัวสั่นเทาไปหมด

“แต่ผมต้องการรับผิดชอบคุณจริงๆ”

“จะให้พูดกี่ครั้งว่าไม่ต้องการ! จะต้องให้พูดด้วยเจ้านี่ใช่ไหม ถึงจะเข้าใจ”

สิ้นคำพูด แม่สาวจอมดุก็ลั่นไกทันที ระยะความห่างเพียงแค่นี้ ยังไงๆ ก็ไม่มีพลาดเป้าที่ได้เล็งไว้

ปัง!!!

chap-preview
Free preview
บทที่ 1
The Blue House... คฤหาสน์สีน้ำเงินหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ กินพื้นที่หลายสิบไร่ หากเดินออกมายืนอยู่ด้านนอกระเบียงโล่งของคฤหาสน์หรูสวยงาม จะสามารถสดับรับฟังได้ถึงเสียงดนตรีอันแสนเสนาะหู อันเกิดจากเสียงคลื่นทะเลสีครามที่ซาซัดโถมกระหน่ำกระทบกับโขดหิน ก่อเกิดเป็นจังหวะดนตรีที่บรรเลงโดยนักดนตรีที่เรียกว่าธรรมชาติ อันแสนไพเราะยิ่งนัก อีกทั้งกลิ่นอายของความเค็มของพื้นน้ำสีครามที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร ที่ได้ลอยละล่องมาตามกระแสคลื่นลม ที่โบกพัดเอื่อยๆ ช่วยทำให้ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หรู มูลค่าหลายร้อยล้าน รู้สึกผ่อนคลายความเหนื่อยล้า หลังจากตรากตรำทำงานหนัก ตั้งแต่ตะวันสาดส่องจวบจนกระทั่งพระสุริยากำลังจะลาลับขอบฟ้าไปในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เดอะ บลู เฮ้าส์ เป็นคฤหาสน์หรูของนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองลองไอแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาในรัฐนิวยอร์ก คฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่าหลังงามหลังนี้ เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องเก็บไวน์รสเลิศราคาแพง เรนย์ เจรามี่ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของนัยน์ตาสีเดียวกันกับน้ำทะเล ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา กระชากใจสาวๆ ซึ่งเป็นเจ้าของคฤหาสน์เดอะ บลู เฮ้าส์ เพิ่งกลับเข้าคฤหาสน์ก่อนที่ตะวันจะชิงพลบไม่กี่นาที ได้ทรุดกายลงนั่งเอนแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้ราคาแพง ทอดดวงตาสีฟ้าใสไปยังท้องทะเลสีคราม ที่พราวระยับเมื่อต้องกับลำแสงสีทองของพระสุริยา เขาชอบที่จะนั่งพักสมอง ตากลมเย็นๆ อยู่ที่ระเบียงนอกคฤหาสน์ นอกจากจะได้นั่งชมวิวของท้องทะเลสีครามไกลสุดลูกหูลูกตาแล้ว เขายังชอบที่จะมานั่งฟังเสียงคลื่นซาซัดกระทบฝั่งด้วย เอ็ดเวิร์ด มาร์ติน พ่อบ้านวัยห้าสิบปีตอนปลาย ซึ่งอยู่รับใช้เจ้านายหนุ่มมาช้านาน ได้เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ กายล่ำสันของผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ พร้อมกับเอามือประสานกันอยู่ด้านหน้าแล้วเอ่ยถามเจ้านายด้วยกริยาสุภาพ อย่างผู้ที่รับการฝึกฝนให้ทำหน้าที่รับใช้เจ้านายมาอย่างดี “คุณเรนย์ครับ จะรับบรั่นดีสักแก้วไหมครับ” “สักแก้วก็ดีเหมือนกันนะเอ็ดเวิร์ด แต่ผมขอเป็นแบบออนเดอะร็อคแทนก็แล้วกัน” เรนย์หันไปบอก พร้อมกับยิ้มบางๆ ให้ผู้ที่เป็นพ่อบ้าน ซึ่งนอกจะคอยดูแลเรื่องความเรียบร้อยภายในคฤหาสน์หรูหลังใหญ่โตแล้ว ยังคอยอยู่รับใช้เขาแทบจะตลอด เวลาด้วย “เดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ คุณเรนย์รอสักครู่นะครับ” พ่อบ้านเอ็ดเวิร์ดโค้งคำนับรับคำสั่ง ก่อนจะเดินออกจากบริเวณที่เจ้านายได้นั่งชมวิว ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆ มาเสิร์ฟให้เจ้านายได้จิบเพื่อคลายความอ่อนล้า เรนย์นั่งทอดสายตามองผืนน้ำทะเลสีครามด้วยความสบายใจ และเมื่อดวงตาสีฟ้าได้มองปะทะกับเรือยอร์ชลำใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่ามีชื่อของเขาเป็นเจ้าของเรือยอร์ชลำนี้ ซึ่งได้ทอดสมอลอยลำอยู่บนผืนน้ำตรงบริเวณท่าเรือ อันยังอยู่ในอาณาบริเวณที่เป็นอาณาจักรของเขา ก็พลอยทำให้นึกถึงเพื่อนรัก เพื่อนตาย ที่ไม่ได้พบกันมานานถึงสองปีเต็ม และเมื่อได้คิดถึงเพื่อนรักนั่นก็คือ กัปตันบารอน ดี ทีสต์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของบริษัทเดินเรือ The Royal Adamas Group ก็ได้แต่ลอบถอนหายใจยาว นึกเป็นห่วงว่ากัปตันบารอนจะเป็นเช่นไรบ้าง ด้วยครั้งสุดท้ายที่พบเจอกันนั้น อีกฝ่ายกำลังอยู่ในข่ายที่เรียกว่าโดนพิษรักเล่นงานจนอ่วมอรทัย เพราะหลงรักแม่สาวน้อยนันท์นลินที่หลงขึ้นมาในเรือของตนเองจับใจ แต่ดันปากแข็งไม่ยอมบอกสาวเจ้า สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้นันท์นลินหลุดมือไปทั้งๆ ที่รักเธอทุกลมหายใจ “สองปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน นายจะเป็นยังไงบ้างนะบารอน” เรนย์พึมพำออกมาเบาๆ ระยะเวลาสองปี เขามีงานยุ่งๆ รุมเร้ารัดรอบตัวจนแทบไม่มีเวลาหายใจ แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยขาดการติดต่อสื่อสารกับกัปตันบารอน เขาโทรติดต่อหาอีกฝ่ายเสมอ และกัปตันบารอนเอง ก็ติดต่อหาเขาเช่นเดียวกัน ในการติดต่อหากันแต่ละครั้ง กัปตันหนุ่มจะบอกแค่เพียงว่ากำลังเดินทางส่งสินค้าอยู่รอบโลก และบอกแค่เพียงว่าเขาสบายดี และเมื่อเขาถามว่าเมื่อไรจะกลับประเทศไทย อีกฝ่ายกลับวางสายเสียดื้อๆ ซึ่งเขารู้ว่าที่กัปตันบารอนไม่ตอบคำถามนี้ ก็เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายไม่อยากกลับประเทศไทย อันเป็นถิ่นที่พำนักของนันท์นลินคนที่กัปตันบารอนรักสุดหัวใจนั่นเอง “เจ้านายครับ บรั่นดีได้แล้วครับ” พ่อบ้านเอ็ดเวิร์ด กลับมาอีกครั้งพร้อมกับบรั่นดีรสนุ่มคอ ที่นอนนิ่งอยู่ในแก้วทรงสวยแบบออนเดอะร็อค พอยื่นไปให้ผู้เป็นเจ้านาย อีกฝ่ายก็รับไปจิบช้าๆ ให้บรั่นดีค่อยๆ ไหลลงสู่ลำคออย่างละเมียดละไม “วันนี้พระอาทิตย์ตกดินสวยชะมัดเลย นายว่าไหมเอ็ดเวิร์ด” เรนย์เอ่ยกับพ่อบ้านวัยดึก ทั้งๆ ที่ไม่ได้หันมามองอีกฝ่าย ดวงตาสีฟ้ายังคงทอดมองพระอาทิตย์กลมโต ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ถูกท้องทะเลสีครามโลมเลียที่ละนิดทีละน้อยจนลับหายไปจากสายตา ปล่อยให้แสงนวลของดวงจันทราค่อยๆ สาดส่องให้ความสว่างไสวเข้ามาแทนที่ พ่อบ้านเอ็ดเวิร์ด ผู้ที่ทำหน้าที่พ่อบ้านของตนเองได้ดีไม่มีที่ติ ได้ค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับไม่ได้เพลิดเพลินสำราญใจเฉกเช่นผู้เป็นเจ้านาย ที่ได้นั่งจิบบรั่นดีเคล้ากับบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์ในยามพลบค่ำ “พระอาทิตย์ตกดิน น่าจะสวยกว่านี้นะครับ หากเจ้านายมีนายผู้หญิงมานั่งชมพระอาทิตย์ข้างๆ กายของเจ้านายด้วย” ผู้เป็นเจ้านายได้หันมาจ้องมองพ่อบ้านวัยดึกเขม็ง เมื่อได้ยินคำพูดเป็นนัยของอีกฝ่าย ซึ่งมาแปลกกว่าทุกๆ วัน ที่จู่ๆ พ่อบ้านเอ็ดเวิร์ดก็เอ่ยพูดถึงเนื้อคู่ตุนาหงันของเขา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายไม่เคยพูดถึงเลย “เอ็ดเวิร์ด นึกยังไงถึงได้พูดถึงเรื่องนายผู้หญิง นายก็รู้นี่ว่าเรามีภาระหน้าที่ต้องทำมากมาย อย่าว่าแต่หานายหญิงให้เจ้าเลย แม้แต่เวลาหาความสุขส่วนตัว ให้บรรดาสาวๆ มานวดคลายเมื่อย เรายังไม่มีเวลาเลย แล้วเราจะเอาเวลาที่ไหนไปหานายหญิงให้กับพวกเจ้ากันล่ะ” เรนย์ต่อว่าพ่อบ้านเอ็ดเวิร์ดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ซึ่งจะว่าไปแล้วความคิดที่จะหานายหญิงให้มาเดินเฉิดฉาย อยู่ในคฤหาสน์เดอะ บลู เฮ้าส์ ไม่เคยอยู่ในหัวสมองของเขาเลย ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังไม่เจอสาวๆ ที่ถูกใจมากพอที่จะทำให้เขาหลงรักได้ หรือว่านายหญิงแห่งคฤหาสน์เดอะ บลู เฮ้าส์ ยังไม่เกิดกันแน่ พ่อบ้านเอ็ดเวิร์ดรับแก้วเปล่ามาจากผู้เป็นนาย ก่อนจะชงบรั่นดีแบบเดิมให้เจ้านายหนุ่มอีกแก้ว แล้วเอ่ยค้านออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามบุคลิกของตนเอง “ไม่มีเวลา...ก็ต้องทำให้มีสิครับคุณเรนย์ บรรดาเพื่อนๆ ของคุณเรนย์ทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชาย ต่างก็ออกเรือนมีครอบครัว มีลูกหนึ่งลูกสอง บางคนมีลูกเกือบครึ่งโหลด้วยซ้ำไป มีแต่คุณเรนย์คนเดียวที่ยังครองความเป็นโสดอย่างเหนี่ยวแน่น ไม่ยอมหานายผู้หญิงให้มาอยู่ที่คฤหาสน์เดอะ บลู เฮ้าส์ สักที ผมอยากเห็นคุณหนูตัวน้อยๆ แล้วนะครับ” “บ่นเป็นตาเฒ่าเลยนะเอ็ดเวิร์ด” เรนย์สัพยอกพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่ได้นึกโกรธอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้ดีว่าพ่อบ้านเอ็ดเวิร์ดได้พูดออกมาด้วยความหวังดี ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นจริงดั่งที่พ่อบ้านวัยดึกได้พูดออกมา บรรดาเพื่อนๆ ของเขาต่างก็มีครอบครัว มีลูกกันจนหมดแล้ว ยังคงเหลือเขาแค่เพียงคนเดียว ที่หาเจ้าสาวไม่เจอสักที

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook