เช้าวันต่อมา
ชายหนุ่มตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าทั้งที่อยากจะนอนให้เต็มที่ แต่ร่างกายเหมือนทำงานตามเวลาปกติ ไม่ทันที่นาฬิกาปลุกจะได้ทำงานเขาก็ลุกจากเตียงนอนเพื่อมาออกกำลังกายแล้ว
“นายจะไปไหนครับ?”
“ฉันบอกเดินทางสิบโมง นายมาทำอะไรแต่เช้าไดมอนด์”
“เผื่อนายมีอะไรให้ผมทำครับ”
“ไปนอนพักในห้องแขกก่อน ฉันจะลงไปฟิตเนสสักหน่อย”
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ”
“ที่นี่เป็นส่วนตัว ไม่มีใครเข้ามาฆ่าฉันได้หรอกนะ” ไดมอนด์ก้มหัวลงและยอมเดินเข้าไปนอนตามที่เจ้านายสั่ง
06.12 น.
LB. : มอนิ่งคนสวย เมื่อคืนฉันลืมตอบ
ความจริงเขาเพียงแค่ไม่รู้ว่าต้องตอบอะไรมากกว่า จึงเลือกปิดจอลงและไปทำจิตใจให้สงบ รูปที่เธอส่งมายังคงตราตรึงในหัวของเขา แม้ว่าจะพยายามเอามันออกไปมากแค่ไหน แต่มันกลับเด้งเข้ามาทุกครั้งไป กว่าเมื่อคืนจะหลับตาลงได้ก็ลำบากไม่ใช่น้อย
06.55 น.
Vaiolet : ไม่เป็นไรค่ะ มอนิ่งเช่นกันนะคะ
Vaiolet : ทำไมตื่นเช้าจัง
LB : ฉันตื่นมาออกกำลังกายน่ะ
LB : ส่งรูปภาพ
ด้านไวโอเล็ตเมื่อได้รับรูปภาพ ใบหน้าหวานถึงกับแดงซ่านไม่น้อย หุ่นลีน ๆ ของชายวัยสี่สิบห้ามันช่างดีมากจริง ๆ เธอยอมรับเลยว่าไม่เคยเจอผู้ชายที่อายุเท่าเขาดูดีแบบนี้มาก่อน
“อะไรกัน รูปแค่นี้ก็ทำให้เธอใจสั่นได้แล้วงั้นเหรอ?” ลัมบาน่าพึมพำออกมาเมื่อคู่สนทนาของเขาเงียบหายไป คงมีอาการเดียวกับเขาเมื่อคืนนั่นแหละ
เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง ลัมบาน่าเปิดโทรศัพท์เช็กข้อความอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรส่งมาจากหญิงสาวอีก เขาจึงเป็นฝ่ายส่งไปบอกเธอแทนว่าตนนั้นจะไม่อยู่สามวันถึงหนึ่งอาทิตย์ อาจจะไม่ได้เจอกัน แต่จะให้คนที่นี่คอยส่งดอกไม้ให้ทุกวันเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
“เครื่องพร้อมแล้วครับนายใหญ่”
“อืม”
สามชั่วโมงต่อมา เขตเมืองเกาลูน ฮ่องกง ลัมบาน่าเดินทางมาถึงอย่างปลอดภัย ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเครื่องก็พบเพื่อนสนิทอย่างอัลวาร์ มาติเนส มารอรับถึงลานบิน
“อารมณ์ไหนถึงมาหาฉัน”
“ไม่เจอกันนาน หายหน้าหายตานึกว่าติดสาวไทยจนลืมทางมาฮ่องกงแล้ว”
“ไร้สาระอัลวาร์” ลัมบาน่ามองเพื่อนตัวเองที่อายุเยอะแต่ยังชอบติดเล่นด้วยแววตาติดรำคาญ
“ใจร้ายชะมัด ปากร้ายแบบนี้ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมสาว ๆ ถึงหมายปองนัก”
“เข้าเรื่องสักที มาหาฉันถึงที่นี่มีอะไร”
“ได้ข่าวว่านายกำลังมีเรื่องสนุก”
“หูตาไวจริง ๆ” ลัมบาน่าถอนหายใจหนัก เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกลูกของตัวเองที่เมื่อทำอะไรแล้วเขารู้ทัน
“เหยื่อที่เอามาล่อ สวยใช้ได้เลยนี่”
“รุ่นลูก”
“ลูกที่ไหน พี่ของลูกนายตั้งสามปี”
“มีอะไรที่นายไม่รู้บ้าง?” เขาปรายตามองเพื่อนสนิทนิ่ง ๆ
“ไม่มี นายก็รู้ว่าฉันขี้เสือก”
“เฮ้อ สรุปมาเพราะเรื่องนี้”
“ระวังตัวให้มากขึ้นหน่อย เอดีนมันหมาลอบกัดแค่ไหนนายก็รู้ ถึงจะชัดเจนว่าส่งเด็กคนนั้นมาแต่มันอาจจะตลบหลังด้วยการลงมือเองก็ได้”
“ขอบใจ ดื่มน้ำชาที่กาสิโนฉันหน่อยมั้ยล่ะ”
“เยี่ยมเลย คำนี้แหละที่ฉันรอคอย” ลัมบาน่าส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำอัลวาร์มายังรถที่จอดรออยู่
เมื่อมาถึงกาสิโน การ์ดกลุ่มใหญ่มารอรับเจ้านายของเขาพร้อมกับรอคุ้มกันความปลอดภัยอย่างดีที่สุด เห็นแบบนี้ทุกสถานที่ที่ลัมบาน่าไปต้องมีการ์ดตรวจเช็กตึกสูงทุกแห่ง ค่าหัวหลักร้อยล้านดอลลาร์ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ
“สรุปคนอย่างนาย เรียกมาเฟีย หรือเจ้าพ่อ”
“เรียกเจ้าพ่อมาเฟียแล้วกัน” อัลวาร์กลอกตามองบน น่าหงุดหงิดเพื่อนเขาเป็นบ้า ตั้งแต่เสียคนรักไปจากคนยิ้มง่ายก็กลายเป็นเสือยิ้มยาก ทุกวันนี้รอยยิ้มที่เห็น ๆ กันอยู่เขาเรียกว่ารอยยิ้มธุรกิจ
“ได้ข่าวว่าลูกนายมีสะใภ้ให้สองคนแล้ว”
“คนที่สามอีกไม่นาน”
“แล้วหนูอลิเซียหลานสาวคนสวยของฉันล่ะ?”
“มีคนของเขาอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่อยากให้รู้”
“เข้าตานางฟ้าบราวน์ได้ ผู้ชายคนนั้นคงไม่ธรรมดา”
“อัลวาร์”
“ว่า?”
“นายอยากมีลูกบุญธรรมมั้ย?” ลัมบาน่าเอ่ยถามเมื่อจู่ ๆ บางเรื่องก็เด้งเข้ามาในหัวของเขา
“หาเมียให้ฉันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องลูก”
“ถามดี ๆ ไม่ตลก”
“ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่”
“ถ้าวันนั้นมาถึง นายจะยอมทำให้เพื่อนรักคนนี้ได้หรือเปล่าล่ะ”
“ถ้าเขายอมฉันก็โอเค เด็กคนนั้นฝีมือดี การวางตัวก็ดี ยังไงฉันก็ไม่คิดมีใครจริงจังอยู่แล้ว มีคนมารับมรดกก็คงดีเหมือนกัน”
“พูดอย่างกับว่ามีเยอะ” ลัมบาน่าถอนหายใจอีกครั้ง หากเขาเจออัลวาร์บ่อย ๆ คงได้แก่ไวกว่าเดิมสิบปี คุยด้วยแล้วเหนื่อย
“ไม่เท่านาย แต่ก็น้อยกว่าไม่มากนะ”
“เอาเถอะ สรุปว่าหากเขายอมนายก็โอเคใช่มั้ย?”
“แน่นอน” ได้ยินคำตอบของเพื่อนแล้วมันทำให้ลัมบาน่าสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เรื่องนี้เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียเลยด้วยซ้ำ
“แต่หากเป็นลูกบุญธรรมฉันแล้ว ใครอยากจะมาเป็นลูกเขยฉันจะเรียกให้หมดตัว”
“หน้าเลือดจริง ๆ”
“อย่าพูดมากหน่า ทำเหมือนกับว่าตัวเองจะเป็นลูกเขยฉัน”
“ให้เขายอมเป็นลูกนายก่อนเถอะ ค่อยคิดถึงตำแหน่งพ่อตา ปัญญาอ่อนแบบนี้คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาจะยอมเรียกพ่อมั้ย”
“พูดแบบนี้ฉันจะคิดว่านายสนใจเธอแล้วนะ”
“ไร้สาระ”
“เฮอะ พอเถียงไม่ทันก็ด่าฉัน น้อยใจนายได้หรือเปล่า?”
“ถ้าว่างก็ไปหาเล่นโต๊ะเดิมพันสูงรอ ฉันทำงานก่อนแล้วจะพาออกไปกินข้าว”
“เฮอะ” ไม่วายอัลวาร์ยังส่งเสียงให้ลัมบาน่ารู้ว่าตัวเองกำลังงอน แต่แล้วยังไง ในเมื่อลัมบาน่าก็ไม่มีวี่แววจะง้ออยู่ดี
17.54 น. เวลาของฮ่องกง
Vaiolet : ไม่ได้เจอคุณ ไวน์แอบเหงา
LB : ติดฉันหรือไง?
Vaiolet : แล้วไวน์ติดได้หรือเปล่าคะ?
LB : เป็นเด็กดีสิ กลับไทยเมื่อไหร่ฉันจะเป็นคนตอบคำถามนั้นข้าง ๆ หูเธอเอง
Vaiolet : ไวน์จะเป็นเด็กดีรอคุณกลับนะคะ อยากฟังคำตอบจะแย่
ลัมบาน่าอ่านข้อความด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนรอยยิ้มจะแสดงขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เพียงแค่เสี้ยววิมันก็หายไป เอกสารบนโต๊ะถูกเก็บลงให้เป็นระเบียบ ก่อนเจ้าของโต๊ะทำงานจะลุกเดินออกมาหาเพื่อนตัวเอง
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
“นายทำงานเสร็จแล้ว?”
“อืม”
“งั้นดูนี่หน่อย นายเห็นหรือยัง” อัลวาร์ส่งโทรศัพท์เครื่องหรูของเขามาตรงหน้าของเพื่อนรัก ลัมบาน่ารับมันมาดูหน้าจอเป็นเพจข่าวไทยเพจหนึ่ง เนื้อความสำคัญคือรูปที่ปรากฏต่อสื่อ
“แล้วยังไง?”
“อย่าทำเหมือนมันไม่มีอะไร แบบนี้ไม่นายก็เขาต้องเสียหาย”
“เขาต้องการให้เป็นแบบนี้”
“แล้วนายก็ยอม?” อัลวาร์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ตามใจเขาสิ”
“มีอะไรมากกว่าที่ฉันรู้หรือเปล่าลัมบาน่า?”
“ไม่มี จะกินมั้ยข้าว ถ้าไม่กินฉันจะไปก่อน หิวแล้ว”
“เฮอะ นายรอดตัวไปอีกครั้งนะ!”