CHAPTER 3
ร่างเพรียวสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนกับหยดน้ำที่ยังเกาะบนใบหน้ารวมทั้งที่ยังหยดจากเส้นผมมาเรื่อยๆ ก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำตาลจะจับจ้องไปยังบุรุษร่างสูงโปร่งผิวขาวรับกับสีผมแดงสว่างโคตร สะท้อนกับความมืดสลัวได้ดีเลยล่ะ เพียงชั่วครู่ขาฉันก็เอียงเซไปด้านขวาทีซ้ายทีไม่สามารถบังคับให้มันยืนตรงได้ถึงแม้จะต่อหน้าเขา ไม่ๆ ยังไงก็ต้องยืนนิ่งให้ได้ว่าแล้วสองมือก็คว้ากอบกำแปลงดอกไม้ใหม่อีกครั้งซึ่งคราวนี้มีเศษลำต้นของดอกไม้ติดมือด้วยแต่ฉันก็หาสนใจไม่
“ระ เร็น”
ประโยคที่สองกับการเปล่งเสียงเรียกชื่อเขา สายตาสีดำสนิทยังเยือกเย็นแฝงความน่ากลัวเอาไว้เหมือนเดิมยิ่งในตอนนี้การนิ่งสงบไม่ใช่สถานการณ์ดีเลย เร็นแสดงอาการแบบนี้ออกเมื่อไหร่ก็เสมือนกับว่าความหายนะมาเยือนตอนนั้นซึ่งมันก็ใช่เพราะฉันรู้ดีว่าเร็นอยากบีบคอฉันให้ตายคามือของเขาไม่อย่างงั้นฝ่ามือใหญ่จะบีบเค้นขวดน้ำเปล่าที่พึ่งเทรดศีรษะฉันไปให้มีสภาพบิดเบี้ยวแปลกจากรูปทรงก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
“อยากตายนักใช่ไหม?”
เพราะเขามายืนตรงหน้าฉันความทรงจำก่อนหน้าก็หวนกับมาราวกับต้องการตอกย้ำฉันให้ซ้ำๆ จนไม่มีทางต่อกรได้หรือเรียกง่ายๆ ก็คือจนมุมถึงทางตัน
“…”
อึก!
ไม่นานนักร่างสูงโปร่งก็ทิ้งขวดน้ำเปล่าลงพื้นอย่างแรงคงตามอารมณ์ร้ายของเขาจากนั้นเพียงเสี้ยวนาทีฝ่ามือใหญ่เย็นเฉียบก็รัดลำคอของฉันแล้ว เร็นไม่ได้ออกแรงบีบแต่ก็ไม่ได้ลดความเกร็งข้อมือลงเลยสัมผัสได้จากการปูดขึ้นของเส้นเลือดบริเวณมือของเขาระยะใกล้กันจนได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ผสมกับกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยโชยมาจากเขา
“ตอบมารุ้ง”
“ฉัน...”
“จะขอโทษ?” รอยยิ้มร้ายตรงมุมปากถูกยกขึ้นแทนประโยคที่ว่าไม่แยแสอะไรฉันมันก็ธรรมดาสำหรับคนแบบเร็นอยู่แล้วแหละ ผู้ชายคนนี้ไม่สนความรู้สึกใดๆ จากฉันเลยสักนิดเขาคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักวาลทุกอย่างมันต้องหมุนรอบตัวเขาหรือไม่ก็เป็นแบบที่เขาต้องการเท่านั้น “มันไม่บ่อยไปเหรอ?”
“ครั้งนี้ฉันคิดว่านายทายผิดแล้วเร็น”
ความฮึดสู้ทำให้ฉันเปลี่ยนประโยคทั้งที่ก่อนหน้ามันเป็นคำขอโทษแบบที่เร็นพูดจริงๆ เขาดักทางฉันถูกต้องทว่าครั้งนี้ฉันจำเป็นต้องมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างเพราะฉันอยากต่อกรกับเขาไม่อยากเป็นแค่ผู้หญิงที่ต้องอยู่ในสถานะยอมถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเร็นเขาเป็นผู้ชายที่รู้ทันเท่าทันฉันทุกอย่างก็ตาม
“ทายผิด?”
ฉันไม่ใช้ไม้เดิมอีกแล้ว
“คำขอโทษ หึ ถ้อยคำสวยหรูแบบนั้นมันไม่จำเป็นสักนิดเดียวสำหรับคนอย่างนายเสียด้วยสิ ทำไมฉันจะออกมาเที่ยวร้านเหล้ามาดื่มกับเพื่อนๆ หรือว่าหนุ่มๆ แล้วมันจะเป็นยังไงไม่ได้ไปหนักส่วนไหนไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่หนักหรอก”
เร็นพูดขึ้นเรียบๆ แต่การกระทำไม่ได้เป็นแบบนั้นเมื่อฝ่ามือเขาบีบลงมาเยือนต้นคอฉันความหนักหน่วงก็เริ่มเข้ามาใช่กันไม่นานนักลมหายใจของฉันก็เริ่มติดขัดฝ่ามือตัวเองที่กอบกำแปลงดอกไม้เปลี่ยนมาเป็นช่วยกันเกาะฝ่ามือใหญ่ออกจากลำคอ
“อือ... ปะ ปล่อย”
เล็บยาวขูดจิกหลังฝ่ามือเป็นพัลวันเพื่อต้องการให้มันหลุดออกจากลำคอให้ได้ไม่อย่างงั้นฉันตายแน่ๆ ความปรานีไม่มีในแววตาสีดำสนิทดั่งมัจจุราชในคราบเทพบุตรที่หมายเอาชีวิต
“รู้ไหมว่าการสัมผัสมันคือ เซ็กส์ชนิดหนึ่งที่คืนนี้เธอจะได้ลิ้มรสมันแน่ๆ รุ้ง”
น้ำเสียงแหบแห้งกระซิบเข้าใบหูฉันประกอบกับลมหายใจอุ่นๆ มันชวนวาบหวิวพิกลอีกทั้งการดีดดิ้นเอาตัวรอดพยายามเอาฝ่ามือใหญ่ออกจากลำคอตัวเองก็พลอยหยุดชะงักลง ฉันพึ่งได้สติกลับมาจึงรับรู้ได้ว่ามือใหญ่ของเร็นไม่ได้อยู่ที่ลำคอแล้วทว่าสองมือมันกับกอบกุมตรงสะโพกทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งวางกระทบผิวเนื้อแบบหลวมๆ ส่วนอีกข้างนั้นเร็นออกแรงบีบเค้นตรงสะโพกด้วยความเต็มแรง
“อะ เอาออกนะ!”
“อย่าหวังได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยอาทิตย์นี้”
การพูดของเร็นค่อนข้างธรรมดาราบเรียบไม่ตะคอกกระแทกเสียงอะไรทั้งนั้นในเวลาพูด ไม่สนใจคำพูดของฉันเลยแต่เขากับใช้มือข้างหนึ่งที่วางอีกด้านแลดูลับพอสมควร ข้างนี้เขาพึ่งใช้ออกแรงบีบเค้นสะโพกฉันก่อนหน้านั้นค่อยๆ ไต่ตามขอบเอวกระโปรงอย่างเชื่องช้าในที่สุดนิ้วมือเรียวเย็นมันคืบคลานลงมาสัมผัสเข้ากับร่องขาช่วงตรงขาอ่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้ นายระ...” พูดไม่จบเร็นจึงรั้งร่างฉันให้เข้าไปประชิดกับร่างใหญ่ของเขาจนแทบเรียกได้ว่าการหลวมรวมร่าง “เร็นอย่านะนี่มันที่สาธารณะ”
“แล้วไง?”
เร็นไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะอยู่ในที่ไหนมันเป็นความพอใจส่วนตัวแต่กับฉันมันไม่ใช่ไง ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงหน้าด้านไม่อายฟ้าดินขนาดนั้น
“อย่าทำแบบนี้!”
ตึก!
เสี้ยววินาทีของการตอบร่างฉันก็ถูกเหวี่ยงเปลี่ยนทิศทางไปอีกมุมหนึ่งซึ่งรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังตัวเองนั้นได้กระทบกับอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างแข็งแรงเพราะฉันโคตรเจ็บหลังมากจากการกระแทกเมื่อกี้ต่อมาก็รู้สึกถึงความขรุขระเนื่องจากเสื้อช่วงตรงเอวเป็นเอวลอยทำให้ผิวที่โผล่พ้นสัมผัสกับอะไรบางอย่าง ไม่เป็นต้นไม้ก็คงเป็นผนังที่มีไม้เลื้อยอยู่จากนั้นร่างใหญ่ของเร็นก็เข้ามาประชิดทาบตัวฉันจนไม่เหลือช่องว่าง แล้วไอ้หน้าอกฉันบดเบียดกับอกใหญ่แกร่งของเร็นฉันแน่ใจว่าเขาจะต้องรู้สึกแน่ๆ
“อย่ามาทำปากดีเมื่อกี้ยังอ่อยผู้ชายแก่รุ่นพ่ออยู่” นิ้วมือเรียวยาวขยับนิดเพื่อกำลังจะล้วงลึกเข้าไปอีกนาที่นั้นฉันรีบใช้มือตัวเองหยุดอยู่ข้างนอกกระโปรง ระหว่างมือฉันและเร็นถูกกลั้นด้วยผ้ายีนมันไม่สามารถหยุดการกระทำเร็นได้หรอกถ้าเขาจะเลื่อนมือลงไปสามารถทำได้ทุกเมื่อ “ไม่ได้อ่อยนะ ฉันไม่ได้อ่อยจริงๆ”
“เอามือออก”
เสียงต่ำทุ้มพูดขึ้นฉันไม่ได้โง่และรับรู้พอว่าเร็นอยู่ในอารมณ์แบบไหนจึงเอามือตัวเองออกแค่นั้นมือใหญ่ภายใต้กระโปรงยีนก็ขยับลึกเข้าไปอีกนิดก็เลยขอบอันเดอร์แวร์ไปแล้ว หัวใจฉันเต้นกระหน่ำขึ้นมาทันทีมันเกิดอาการสั่นไปหมด
“ชอบโชว์?”
ที่เร็นพูดมันหมายถึงชุดที่ใส่อยู่ในขณะนี้ เร็นไม่ชอบการใส่เสื้อผ้าที่โชว์เนื้อหนังมังสาขาดโน่นโชว์นี่แต่ฉันเลือกขัดเขาเองทั้งที่โดนห้ามเป็นประจำ
“ไม่ชอบอย่าทำแบบนี้นะ ขะขอร้อง”
“ทีแบบนี้ทำหน้าสงสารออดอ้อนขอร้องแล้วก่อนหน้า เต้นยั่วยวนอวดเอวแอ่นสะโพกซ้ายขวาทำไมไม่คิด” ร่างใหญ่ขยับเข้าเบียดร่างกายฉันกับต้นไม้ด้านหลังอีกครั้งหนึ่ง “คิดว่าสวยมากหรอ?”
เร็นพูดแบบนี้ออกมามีหรอที่ฉันจะอยู่เฉย ความสวยกับผู้หญิงมันเป็นของคู่กันอยู่แล้วและผู้หญิงทุกคนก็มีความสวยในฉบับของตัวเองไง เขาพูดแบบนี้ได้ยังไงมันถือว่าว่าให้ฉันไม่สวยเลยนะ
“สวยไม่สวยก็ทำให้คนอื่นมองได้ก็แล้วกัน” หมดแล้วคำอ้อนวอนความเกรงกลัวมีเพียงแค่อารมณ์ขุ่นมัวที่ไม่ชอบอย่างแรงเท่านั้นตอนนี้ “ตอนที่ฉันเต้นมันก็เห็นๆ อยู่ว่าสามารถสะกดสายตาคนให้มองมาเป็นจุดเดียวรอบโต๊ะขนาดนั้นนายคิดว่าคนอื่นมองแบบนี้มันก็ต้องสวยใช่ไหมล่ะ?”
“สวยกับชอบโชว์มันต่างกันโปรดทำความเข้าใจเสียใหม่”
ครานี้ฉันรู้สึกสะอึกไปชั่วระยะเวลาหนึ่งกับไอ้ประโยคของเร็น รู้สึกเจ็บบาดลึกเข้าไปตัดขั้วหัวใจด้วยความเลือดเย็นไร้ความปรานีใดๆ ฉันถูกเชือดแบบที่ยังมีลมหายใจ
“งั้นทำโชว์บ้างเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ว่าอะไรยังไงก็เห็นว่าชอบนัก”
ถามจริงอยากโดนสับเป็นชิ้นๆ เหมือนเนื้อหมูหรือไงฮะรุ้งเพื่อนรักถึงได้กล้ากับเขา วินาทีนี้ประโยคของเพื่อนรักกระแทกเข้ามาสู่สมองอันน้อยนิดของตัวเองเต็มๆ ไม่นึกเลยว่ามันจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้เมื่อกี้ฉันยังรู้สึกไม่แคร์แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย อีขิมช่วยเพื่อนรักด้วยกำลังจะโดนสับเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว
“ไม่ๆ ไม่โชว์ไม่ชอบเลยนะเร็น”
“แล้วที่เห็นมันคืออะไรวะรุ้ง?”
“อย่าเข้าใกล้สิเหม็นอ้วกเดี๋ยวติดนาย” เร็นไม่หยุดฉันจึงอ้างอะไรที่นึกได้ก็ใช้ไปก่อน “เหม็นจริงนะ”
“ช้าไป”
ฝีปากร้อนๆ เข้ามาซุกไซ้ไล่เลียตรงซอกคอฉันทันทีที่เขาพูดจบกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ผสมกับน้ำหอมประจำตัวที่เร็นชอบใช้เข้ามาเยือนจมูกฉันช้าๆ เพื่อนตอกย้ำว่ามันคือเรื่องจริงเพียงไม่นานความเจ็บปวดนิดๆ ก็เกิดขึ้นจากริมฝีปากที่เม้นทำรอยดูดไว้หลายจุดตรงลำคอฉัน
การขัดขืนแน่นอนยังทำอยู่แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักอีกทั้งยังเกิดคำถามขึ้นว่าขัดขืนไปก็แค่นั้นมันไร้ประโยชน์ เวลาอันเนิ่นนานฉันจึงเลือกมุดใบหน้าเข้ากับแผงอกใหญ่ของเร็นยามที่มีนักท่องเที่ยวราตีคนอื่นเดินผ่านไปมาเพื่อกลั้นความอายถึงแม้คู่เราจะอยู่ในที่ลับตาคนระดับหนึ่งไม่ได้โชว์แบบสามสี่คู่นั้น
จึกๆจึกๆ
“เร็นพอก่อน เร็น”
“อือ”
ฝ่ามือเล็กพยายามดันไหล่ใหญ่ออกจากตัวเองเนื่องจากมีอะไรบางอย่างจี้ตรงสะโพก ฉันไม่อยากมองเพราะยังไงก็เป็นฝีมือของเร็นจึงแค่อยากห้ามปรามเขา
จึกๆจึกๆ
“อือ ระ เร็นอย่าจี้ขาแบบนี้”
“ไม่ได้จี้มืออยู่ตรงเอวอีกข้างก็อยู่ด้านใน”
สิ้นสุดคำตอบอันแหบแห้งข้างหูตัวฉันก็เย็นเฉียบมือไม้จัดการเอื้อมไปด้านหน้าเพื่อกอดร่างใหญ่อย่างแนบแน่นไม่ยอมเบี่ยงใบหน้าดูขาตัวเอง
“ช่วยซื้อกุหลาบหน่อยครับพี่”