ตอนที่ : 3 ขี้นเรือผิดลำ 3

1676 Words
“เธออย่าทำให้เสียเรื่องเชียวล่ะ ไม่งั้นฉันเอาตายแน่” ธาวินขู่หญิงสาวเบา ๆ ทำให้เจ้าตัวถึงกับทำถาดในมือสั่นเล็กน้อย รีบเดินขึ้นบันได ตามหลังจิลาวัลย์ไปบนดาดฟ้าของเรือ ดาดฟ้าของเรือ ที่พักผ่อนแบบมีหลังคาแค่ตรงเบาะนั่ง หากใครอยากอาบแดด ก็มีเก้าอี้ให้นอนอาบแดดเหมือนกัน มีผู้ชายสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ พอเห็นพวกเธอเดินเข้ามา ชายหนุ่มทั้งสองก็หันมามองด้วยความสนใจ คนซ้ายมือหน้าตาหล่อเหลาผิวพรรณขาวเนียน เหมือนดาราชายเกาหลีก็ไม่ปาน ส่วนคนฝั่งขวานี่สิหน้าตาคมคาย ผิวสีแทนเหมือนชายไทยทั่วไป รูปร่างก็ดูจะสูงใหญ่กว่าอีกคนด้วย ดูแล้วออกจะดิบ ๆ เถื่อน ๆ ยังไงชอบกล ทั้งคู่เปลือยกายท่อนบน สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำขาสั้นเท่านั้น “สาว ๆ มากันแล้วเหรอครับ ได้ข่าวว่าใช้เวลาแต่งตัวกันนานเป็นพิเศษเลยนะครับ” คนฝั่งซ้ายเอ่ยกระเซ้า ก่อนจะกวาดสายตามองเธอทั้งคู่อย่างหยาบโลน วินาทีนี้นีนนาราแทบจะทุ่มถาดกับแกล้มในมือใส่หน้าเขา แต่ดูเหมือนจิลาวัลย์จะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ หญิงสาวรีบเดินฉีกยิ้มหวานเข้าไปหาคนฝั่งซ้าย วางถาดลงบนโต๊ะ แล้วขยับเข้าไปนั่งเบียดเขาบนเบาะ ‘นั่นแปลว่า...เธอซวยแล้วไง’ หันไปมองคนด้านข้าง ก็ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเธอเท่าไรนัก จิลาวัลย์หันมาขึงตาให้เธอนั่งลงได้แล้ว นีนนาราจำต้องถือถาดไปวางลง ตรงหน้าของคนฝั่งขวา ทิ้งระยะห่างจากเขาราวคืบหนึ่ง จากนั้นก็หยิบของในถาด ลงวางบนโต๊ะอย่างเบามือ สายตาก็มองไปที่จิลาวัลย์ ว่าจะเริ่มงานบริการของตัวเองอย่างไร แต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นนั้น ทำให้ต้องกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื๊อก เพราะฝ่ายชายนั้นมือไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของจิลาวัลย์ แต่แทนที่จิลาวัลย์จะห้ามปราม กลับยิ้มหวานให้เขา พร้อมกับหันมาตักอาหารตรงหน้าใส่ปากของเขาด้วย มีหันมาขยิบตาให้เธอทำตามอีกด้วย นีนนาราหยิบตะเกียบคีบปลาดิบตรงหน้า จุ่มน้ำจิ้มแล้วยกขึ้นตรงปากของคนด้านข้าง ไม่เพียงแต่เขาไม่สนใจยังมองมาที่เธอด้วยสายตาดุ ๆ เขาเอียงหน้าเล็กน้อยลงไปที่เรือลำน้อย ที่อัดแน่นไปด้วยน้ำแข็งบด ด้านบนเต็มไปด้วยปลาดิบหลากหลายชนิดวางโปะอยู่ “จิ้มน้ำจิ้มแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกเขาเสียงอ่อย ๆ “ก็กินเองสิ” สายตาของคนพูดดูว่างเปล่า เหมือนจะรำคาญเธออยู่ในที คิดไปแล้วแบบนี้ก็ดีไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มาวุ่นวายกับเนื้อตัวของเธอ ไม่ได้มาลูบ ๆ คลำ ๆ เหมือนผู้ชายคนฝั่งตรงข้าม ที่มือลูบจิลาวัลย์แต่สายตานั้น กลับมองมาที่เธอพร้อมกับยักคิ้วให้ด้วยหนึ่งที นีนนาราสะดุ้งเล็กน้อย ขยับตัวไปหาคนด้านข้างอย่างลืมตัว ก่อนจะถอยห่างออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่านั่งชิดกันจนเกินไป รีบนำสิ่งที่อยู่ในมือเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวในทันที ทุกปฏิกิริยาของหญิงสาว ทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านข้าง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย บารเมษฐ์ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปี เป็นเจ้าของธุรกิจอู่ต่อเรือชั้นนำของประเทศ เขาหรี่ตามองคนด้านข้าง แล้วยื่นมือออกไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ หญิงสาวด้านข้างก็ยังนั่งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ “เอ่อ เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนะคะ” เสียงของจิลาวัลย์ดังขึ้นเบา ๆ หญิงสาวโปรยเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มแสนเซ็กซี่อย่างมีชั้นเชิง “ครับว่าแต่คนสวยชื่ออะไรกันบ้างเอ่ย” “จิลค่ะส่วนโน่นก็นีน แล้วพวกคุณล่ะคะ” จิลาวัลย์เอียงหน้าช้อนตา มองชายหนุ่มด้านข้างอย่างมีจริตจะก้าน “ผมชื่อเจนธรรมครับ ส่วนนั่นบารเมษฐ์” เจนธรรมแนะนำตัวเองและเพื่อนรัก ให้สองสาวได้รู้จัก ทว่าสายตาของเขาหยุดนิ่ง อยู่ที่นีนนารานานเป็นพิเศษ “แหม คุณเจนธรรมก็เอาแต่มองนีนอยู่นั่นแหละค่ะ ไม่สนใจจิลเลย” จิลาวัลย์ทำน้ำเสียงกระเง้ากระงอดใส่เขาแต่พองาม นั่นแหละเจนธรรมถึงได้หันกลับมาหา “อย่างอนสิครับคนสวย” เขาบอกแล้วโน้มต้นคอของจิลาวัลย์เข้ามาจูบปาก ที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงสด ของหญิงสาวอย่างดูดดื่ม ไม่ได้รู้สึกกระดากอายต่อสายตา ของอีกสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “นี่เธอ ชงเหล้าให้หน่อยสิ” คำพูดเบา ๆ ของบารเมษฐ์ ทำให้นีนนาราต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขา แต่ดูเหมือนเขาจะสนใจดินฟ้าอากาศ มากกว่าเธอหรือหนังสดตรงหน้าเสียอีก ‘คงเห็นจนชินแล้วสินะ ว่าแต่เหล้ามันชงยังไงล่ะเนี่ย’ นีนนาราทำใจกล้าหยิบแก้วเหล้าของเขามาวางตรงหน้า ท่าทางเงอะงะของเธอคงทำให้จิลาวัลย์สังเกตเห็น หญิงสาวรีบถอนจูบออกแล้วยิ้มหวานให้เจนธรรม “เหล้าคุณหมดแล้วเดี๋ยวจิลชงให้นะคะ” ‘ขอบคุณมากจิล’ นีนนารารู้ว่าหญิงสาวเจตนาสอนการชงเหล้าให้เธอ รีบลงมือทำตามในทันที เริ่มจากคีบน้ำแข็งจนเต็มแก้วเทเหล้าตามด้วยโซดา เสร็จแล้วก็เลื่อนแก้วไปให้เขา “ช้าเป็นเต่า” เป็นคำด่าใช่ไหมแบบนี้ นีนนาราหน้าเสียเล็กน้อย มองคู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนพวกเขาจะไม่ได้สนใจคนอื่นแล้ว นอกจากจะล้วง ๆ ควัก ๆ กันอยู่ตรงนั้น โชคดีของเธอแค่ไหนที่บารเมษฐ์ยังนิ่งเฉย ไม่ได้หื่นประเจิดประเจ้อเหมือนเจนธรรม ‘เฮ้อ เธอโชคดีจริง ๆ ยัยนีน’ “จะนั่งห่างแบบนั้นไปอีกนานไหม” คำว่าโชคดีวิ่งหนีเธอไปแล้ว นีนนารากลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ก่อนขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ กับเขา เกือบจะชิดแล้วล่ะแต่ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ ทำตาขวางใส่เธออยู่ตลอดเวลา กลิ่นเหล้ากลิ่นตัวแบบผู้ชายของเขาทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เรือก็โคลงเคลงไปมาหนักขึ้นกว่าเดิม เหมือนคลื่นลมในทะเลจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ “ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นวะไอ้ฟาร์ม ทำคุณนีนเขากลัวหมดแล้วนั่น” เจนธรรมเป็นคนชวนเขาคุย นั่นทำให้เธอได้หายใจโล่งคอขึ้นมาบ้าง ส่วนจิลาวัลย์ก็คอยแต่จะขึงตาให้เธอบริการเจ้านาย ตามที่เธอทำให้ดู แต่ใครจะไปกล้าล่ะ แบบนั้นมันก็เกินไป “งี่เง่าชะมัด” ไม่รู้ว่าเขาว่าใครแต่นีนนาราก็แอบรับมาเต็ม ๆ “เฮ้ย ใจเย็น ๆ สิ รู้ว่าเครียดเรื่องงานถึงได้พามาเที่ยวนี่ไง เอาให้เต็มที่ไปเลย กับชีวิตสามวันบนเรือนี่” “เออ ไม่ต้องสนใจฉันหรอกโชน แกตามสบายเลยก็แล้วกัน” “ตามใจ อ้อ ถ้าแกไม่สนหญิงงั้นคุณนีนมานั่งข้าง ๆ ผมก็ได้นะครับ” งานเข้านีนนาราอย่างจัง หญิงสาวยิ้มแหย ๆ แล้วหันไปมองบารเมษฐ์ แต่เขาก็ยักไหล่ทำท่าเหมือนว่าแล้วแต่เธอจะตัดสินใจ ให้ไปนั่งกับคนมือปลาหมึกแบบนั้น เธอขอนั่งอยู่กับคนอารมณ์ร้ายตรงนี้ดีกว่า นีนนาราสูดลมเข้าปากเบา ๆ ก่อนจะเลียนแบบจิลาวัลย์ด้วยการฉีกยิ้มหวาน ๆ ให้กับเจนธรรม แต่ขยับเข้าไปนั่งชิดกับบารเมษฐ์ถือวิสาสะคล้องแขนเขาไว้ “ขืนทำแบบนั้นคุณบารเมษฐ์ก็เหงาแย่สิคะ ไม่มีคนคอยเติมเหล้าให้ นีนนั่งอยู่ตรงนี้ดีกว่าค่ะ ขอบคุณคุณเจนธรรมมากนะคะ” กลั้นใจพูดออกไปแล้ว นีนนารานึกอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตาจริง ๆ “งั้นก็ตามใจคุณนีนก็แล้วกันครับ” ในน้ำเสียงเชิงเล่นเชิงจริงของเจนธรรมนั้นเต็มไปด้วยความเสียดายเจืออยู่ แต่คนที่แอบเป่าลมออกปากกลับเป็นจิลาวัลย์นั่นเอง อย่างน้อยนีนนาราก็ยังไหลไปตามน้ำได้ และหวังว่าจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดสามวัน “พูดแบบนี้จิลก็น้อยใจนะคะ เอะอะก็จะชวนนีนมานั่งด้วยแล้วจะเอาจิลไปไว้ที่ไหนล่ะคะคุณเจนธรรม” จิลาวัลย์ตัดพ้อเขาเล็กน้อยเอียงหน้าซบไหล่เขาอย่างออดอ้อน เป็นมารยาหญิงที่นีนนาราเห็นแล้วชวนขนลุกอยู่ไม่น้อย หญิงสาวแอบมองจิลาวัลย์ทำงานไปเรื่อย ๆ ดูวิธีการเอาอกเอาใจผู้ชาย ดู ไปก็เพลินตาดีเหมือนกัน ต้องเสแสร้งจนกลายเป็นมืออาชีพเลยก็ว่าได้ เธอมัวแต่มองไปคิดไปเพลิน ๆ รู้ตัวอีกทีศีรษะก็ซบตรงหัวไหล่ของบารเมษฐ์เข้าเสียแล้ว ครั้นรู้ตัวก็รีบถอยออกในทันที เขาหันมองเล็กน้อยก่อนส่ายหน้าใส่เธอเหมือนรำคาญอีกแล้ว นีนนาราต้องแสร้งยิ้มหวาน ๆ ให้เขา ไม่คุยด้วยก็ไม่ว่าแต่ขอไม่ไปนั่งอีกฝั่งก็แล้วกัน คิดแล้วก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา หยิบตะเกียบคีบอาหารตรงหน้าใส่ปากไปพลาง ๆ พอแก้วเหล้าของเขาหมดเธอก็จัดการเติมให้อย่างรู้งาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD