2 ปรับตัว
ตลอดช่วงเวลากลางวันไม่มีใครมาหาเธอที่บ้านดอกจำปาเลย บ้านหลังเล็กที่จะเป็นที่อยู่แห่งใหม่ของผู้หญิงที่มีค่าสิบล้านบาทอย่างเธอ พวงดอกแก้วเดินสำรวจรอบบริเวณบ้านซึ่งมีพันธุ์ไม้ดอกปลูกรอบตัวบ้าน ที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นต้นดอกจำปาที่อยู่หน้าบ้าน แต่ที่สะดุดตาไม่น้อยไปกว่ากันคือพุ่มดอกแก้วที่เรียงรายอยู่ริมรั้วสีขาวจนรอบบ้าน ใบสีเขียวเล็กๆตัดกับดอกสีขาวให้ความรู้สึกสดชื่น ยิ่งเดินเข้าใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอมชื่นใจ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนโยน พวงดอกแก้วก้มลงใกล้ดอกไม้กลิ่นหอมที่มีชื่อเหมือนชื่อตน แล้วสูดความหอมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ดอกแก้วเคยฝันไว้ว่า อยากมีบ้านหลังเล็กและมีดอกไม้ที่เหมือนชื่อดอกแก้วปลูกอยู่รอบบ้าน วันนี้ดอกแก้วได้อยู่ในบ้านที่เหมือนกับเคยฝันไว้แล้ว แต่ไม่เห็นจะมีความสุขเหมือนในฝันเลย” พวงดอกแก้วยิ้มเศร้ากับดอกไม้ตรงหน้า หญิงสาวยืดตัวขึ้นตรง มองไปรอบๆกายแล้วถอนหายใจ ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสี ความมืดสลัวเริ่มโอบล้อมรอบกาย หญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าบ้าน เปิดไฟทุกดวง แล้วเดินเข้าครัว
พวงดอกแก้วปรุงอาหารง่ายๆสำหรับตนเอง ของสดมากมายในตู้เย็น และเครื่องปรุงที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบทำให้หญิงสาวอดค่อนขอดในใจไม่ได้ จะเปิดร้านอาหารกันหรือไงนะ ถึงได้เตรียมไว้เยอะแยะขนาดนี้
“จะขังไว้ที่นี่ไม่ให้ออกไปดูโลกภายนอกเลยหรือไง” มือบางที่จับด้ามกระทะอยู่เขย่าแรงๆ มืออีกด้านที่จับตะหลิวอยู่เคาะโป๊กๆด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ควงตะหลิวต่ออีกไม่นาน ผัดขี้เมาทะเลเส้นใหญ่ก็พร้อมรับประทาน เธอจึงเอื้อมมือไปปิดเตา เทอาหารลงในจานที่จัดผักวางไว้รออย่างสวยงาม แล้วยิ้มให้กับความน่ากินของอาหาร หญิงสาวถือจานขึ้นมาดมหลับตาพริ้ม ยิ้มภูมิใจในฝีมือตนเอง
“จานนั้นของผมใช่มั้ย” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง หันไปมองเจ้าของเสียงที่ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาถึงห้องครัวตั้งแต่เมื่อไร
“เอ่อ...”
“ว่าไง” คิ้วเข้มเลิกสูง ฐานทัพก้าวยาวเข้าไปยืนชิดหญิงสาว วงแขนแกร่งรวบเอวคอดไว้อย่างถือสิทธิ์ แล้วก้มหน้าลงดมอาหารในจานที่หญิงสาวถืออยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอในระยะประชิด
“หน้าตาและกลิ่นใช้ได้ แต่รสชาติ...คงต้องชิมก่อน” ใบหน้านวลร้อนวูบวาบทันทีเมื่อสบสายตาคมดุ ทำไมพวงดอกแก้วถึงรู้สึกว่าเขาไม่ได้หมายความถึงอาหารในมือเธอ เขาหมายถึงตัวเธอใช่มั้ย หัวใจดวงน้อยเต้นตึ้กตั้ก
“เอ่อ...จานนี้ให้คุณทัพก็ได้ค่ะ เดี๋ยวดอกแก้วทำใหม่” หญิงสาวยื่นจานมาตรงหน้า กั้นขวางระหว่างเขากับเธอ ขยับตัวเล็กน้อย เป็นสัญญาณบอกให้เขาปล่อย ฐานทัพยิ้มมุมปาก เขาปล่อยวงแขนแกร่งออกจากเอวบาง แล้วรับจานมาถือไว้
“เร็วๆนะ ผมจะรอกินพร้อมคุณ” ชายหนุ่มถือจานไปวางลงบนโต๊ะอาหารกลางห้องครัว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ จงใจเลือกนั่งฝั่งที่สามารถมองเห็นแม่ครัวได้ถนัดถนี่ พวงดอกแก้วพรูลมหายใจออกเบาๆ หญิงสาวเริ่มค้นหาวัตถุดิบมาทำผัดขี้เมาทะเลเส้นใหญ่ให้ตัวเองอีกจาน หากแต่ครั้งนี้เธอรู้สึกขัดเขิน หยิบจับอะไรก็ดูจะไม่ถนัด เพราะสายตาคมดุที่จับตามองไม่วางนั่นแน่ๆ ก็ไหนเขาบอกว่าให้เริ่มงานพรุ่งนี้ล่ะ แล้ววันนี้เขาจะมาที่นี่ทำไม
ฐานทัพจับตามองร่างผู้หญิงของตนเดินไปมาระหว่างตู้เย็นกับเคาเตอร์เตรียมอาหารแล้วส่ายหน้า ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยติดจะดุดันตลอดเวลาคลี่ยิ้มเล็กน้อย เขาจับได้ว่าเธอมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ยอมละสายตาจากเธอแม้แต่เสี้ยววินาที จนกระทั่งหญิงสาวยกจานอาหารของเธอมาวางลงตรงหน้าเขา แล้วนั่งลงฝั่งตรงกันข้าม พวงดอกแก้วนั่งก้มหน้า มือไม้ดูเกะกะเงอะงะไปหมด หญิงสาวหายใจติดขัด เพราะสายดุๆนั้นจ้องไม่วางตา
“กินสิ จะได้อาบน้ำ เข้านอน ปกติคุณนอนกี่ทุ่ม” ใบหน้าตื่นๆของหญิงสาวเงยขึ้นมองคนพูดอย่างไม่ไว้ใจ
“เอ่อ...นะ...นอนดึกค่ะ เพราะกว่าจะเลิกงานก็ห้างปิดแล้ว กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึก” ฐานทัพพยักหน้ารับทราบ ชายหนุ่มผายมือเป็นเชิงบอกให้เธอรับประทานอาหารได้แล้ว พวงดอกแก้วจับช้อนส้อมด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย หญิงสาวก้มหน้าก้มตากิน ผัดขี้เมาทะเลเส้นใหญ่ที่เธอเคยชอบ แต่วันนี้เป็นอะไรที่ไม่อร่อยสำหรับเธอเสียเลย หญิงสาวไม่รับรู้รสชาติของมันด้วยซ้ำ
หลังมื้ออาหารที่แสนฝืดเฝื่อน พวงดอกแก้วเก็บกวาดในครัว ทำความสะอาดจานและอุปกรณ์ที่เธอใช้ทำอาหารทั้งหมด เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ค่อยย่องออกมาจากครัว เหลียวซ้ายแลขวามองหาคนตัวโตที่ร่วมรับประทานมื้อค่ำ ด้วย คาดหวังว่าเขาจะกลับออกไปจากบ้านหลังน้อยแล้ว แต่ความหวังของเธอก็พังทลายลง เมื่อมองเห็นร่างใหญ่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาในห้องโถงของบ้าน เขานอนหลับหรือแค่พักสายตา
“มานวดให้หน่อย” พวงดอกแก้วสะดุ้งเล็กน้อย เขาบอกเธอทั้งที่ยังหลับตา มีจิตสัมผัสหรือยังไงนะ ถึงรู้ได้ว่าเธอออกมาจากห้องครัวแล้ว
“เอ่อ...นวดตรงไหนคะ” ฐานทัพลืมตาขึ้นแวบเดียว เห็นหญิงสาวมานั่งอยู่ข้างโซฟาที่ตนนอนอยู่แล้ว จึงหลับตาลงตามเดิม
“ทุกตรง” ดวงตากลมโตของคนถูกสั่งเบิกกว้าง พวงดอกแก้วผงะเล็กน้อย