[ Talk หมวยลี่]
@ประเทศไทย....
นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้กลับมาไทยในรอบหลายปี.....
เหตุผลที่กลับมาก็เพราะว่าธุรกิจของครอบครัวเรามีปัญหา พ่อกับแม่บอกฉันแค่นั้น
ปัจจุบันฉันเรียนจบแล้ว และทำงานออกแบบเป็นนักอกแบบเสื้อผ้า สไตล์ริท ตามที่ฉันฝันเอาไว้ แต่ยังทำตามฝันได้ไม่เท่าไหร่ฉันกับครอบครัวก็ต้องรีบกลับไทยกระทันหัน
เรื่องที่ฉันกับเหมันต์โดนพ่อกับแม่กีดกัน เหตุผลเพราะบ้านของเหมันต์ล้มละลาย ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่รู้เลยว่าเหมันต์เป็นยังไงบ้าง ฉันพยายามจะติดต่อเขาหลังจากที่ได้โทรศัพท์มาแล้ว แต่กลับติดต่อเขาไม่ได้ ฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้เหมันต์สบายดีมั้ย ฉันคิดถึงเขาทุกวัน
ฉันถามควันควีนก็บอกว่าไม่รู้เลยว่าตอนนี้เหมันต์อยู่ไหน เป็นไงบ้าง ส่วนวันศุกร์รายนั้นก็พึ่งจะกลับไทยมาพร้อมๆกับฉัน คงไม่รู้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเหมันต์แน่นอน
วันนี้ที่ฉันได้กลับไทย ฉันยอมรับว่าฉันดีใจมาก และฉันก็หวัง หวังว่าฉันจะได้พบกับเขา....ผู้ชายที่รัก
“มันไม่ยอมมาพบกับผม แถมยังบอกว่าไม่ให้ผมไปเหยียบที่บริษัทของมันอีก ถ้าอยากจะคุยมันให้ลูกของเราเป็นคนไปคุยกับมัน”
“แบบนี้เราต้องยอมให้หมวยไปคุยงั้นหรอคะคุณ”
“แล้วมันมีทางเลือกอื่นหรือไง คุณอยากให้บ้านเราโดนมันยึดเหมือนที่อังกฤษหรือไง ผมไม่มีทางเลือก”
“แล้วถ้ามันทำอะไรลูกของเราละคะ”
“คุณจะให้ผมทำยังไง ในเมื่อบริษัทของเราตกอยู่ในกำมือมันตอนนี้ อะไรยอมได้ก็ยอมไปก่อน”
“ถ้ามันไม่ยอม เราจะต้องล้มละลายจริงๆใช่มั้ยคะคุณ ฉะ ฉันกลัว”
บทสนทนาของพ่อกับแม่ที่กำลังปรึกษากันอยู่มันสร้างความตกใจให้ฉันที่กำลังยืนหลบมุมแอบฟังเป็นอย่างมาก
เรากำลังจะล้มละลาย บริษัทของพ่อกับแม่อยู่ในกำมือใคร ใครคือคนที่พ่อกับแม่พูดถึง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันงงไปหมดแล้ว ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่บอกอะไรฉันเลยสักคำ
“ทะ ทำไมไม่มีใครบอกอะไรหมวยเลยสักคำคะเรื่องปัญหาที่ครอบครัวเรากำลังเจออยู่ตอนนี้” ฉันโผล่ตัวออกมาจากมุมที่แอบฟังอยู่ แล้วเดินตรงไปถามพ่อกับแม่ สิ่งที่ฉันได้กลับคืนมาแทนคำตอบคือความเงียบ
“พ่อคะ แม่คะ หมวยต้องการคำอธิบาย”
พ่อถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน
“ได้ยินแล้วไม่ใช่รึไง บ้านเรากำลังจะล้มละลาย” พ่อเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าบ่งบอกว่าตอนนี้กำลังคิดหนักขนาดไหน
“......” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ. ความรู้สึกมันเหมือนว่าฉันกำลังจะไม่เหลืออะไรแล้ว
“หมวย หมวยช่วยไปคุยแทนพ่อได้มั้ย” แม่พูดขึ้น
“เขาคือใครคะ ทำไมต้องให้หมวยไปคุยด้วย ทำไมต้องเป็นหมวย หมวยไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจอะไรเลยนะคะ” ฉันพูดอย่างหนักใจ ฉันไม่รู้เรื่องพวกธุรกิจอะไรเลยสักอย่างจริงๆ
“ไอ้เหมันต์ มันคือคนที่กำลังจะยึดบริษัทของเรา และก็บ้านที่เรากำลังซุกหัวนอนอยู่ตอนนี้” คุณพ่อพูดออกมาด้วยความคับแค้นใจ
“หะ เหมันต์”
ตึกตักตึกตัก เสียงหัวใจฉันมันกำลังเต้นโครมๆ เมื่อได้ยินชื่อของผู้ชายที่ฉันเฝ้าคิดถึงมาตลอดหลายปี ฉันไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่เขาทำแบบนี้ ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรเลย ที่เขาอยากพบฉันมันทำให้ฉันรู้สึกดีใจมาก ที่เขายังไม่ลืมฉัน เราจะได้ปรับความเข้าใจกันสักที