EP 18

1196 Words
“แน่ใจค่ะจะให้ตะวันทำอะไรก็บอกได้เลยค่ะ” “งั้นวันนี้ก็กลับค่ำอีกสักวัน ด้วยการนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะจ๊ะ คุณสิงห์ไปงานเลี้ยงรุ่น ส่วนตาดลกับเมียไปงานวันเกิดเพื่อน ฉันไม่อยากนั่งเหงาคนเดียว แล้วเราล่ะตาที จะไปไหนต่อหรือเปล่า จะกินข้าวกับป้ามั้ย วันนี้ในครัวทำปูหลนผักสด ต้มขาปลาสลิด กับปลากะพงคั่วสมุนไพรหรืออะไรนี่ล่ะ” “ถ้าคุณหญิงป้าไม่มีเพื่อนผมก็อยู่ด้วยได้ไม่มีปัญหาเหมือนกันครับ” สองป้าหลานยิ้มน้อยๆ ให้กันอย่างมีเลศนัย “ดีเลย งั้นเราไปกันเถอะตะวันพอพูดถึงอาหารฉันก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วสิ” อาทิตยาไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากปฏิเสธใดๆ นอกจากเดินตามเข้าไปในบ้านเท่านั้น อีกทั้งก็รู้ดีว่าคนชวนเต็มใจชวน “ฉันนอนในห้องแอร์มาทั้งวัน เราไปนั่งกินข้าวตรงบ่อปลาดีกว่านะ อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ๆ หน่อย” เมื่อเข้ามาแล้วพบว่าเด็กรับใช้เพิ่งจะเริ่มตั้งโต๊ะ เจ้าของบ้านจึงเปลี่ยนคำสั่งใหม่ อาทิตยาส่งยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามสองป้าหลานออกไปทางหลังคฤหาสน์งาม จะมีสวนหย่อมกับบ่อปลาคราฟขนาดใหญ่น้ำใสแจ๋วจนมองเห็นสีสันจับตาต้องใจแหวกว่ายไปมาอย่างร่าเริง ยิ่งนนนทีโปรยอาหารลงไปแทบจะทั้งฝูงต่างกรูขึ้นมางับอย่างหิวกระหาย “ตกลงตะวันจบดอกเตอร์แล้วใช่มั้ย” เจ้าของบ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลขณะนั่งกินมื้อเย็นอย่างอารมณ์ดี แถมมีหลานชายรูปหล่อคอยตักอาหารให้อย่างเอาอกเอาใจเป็นพิเศษด้วยแล้ว จึงยิ้มแก้มแทบปริเลยทีเดียว อาทิตยาเองก็ส่งยิ้มน้อยๆ ให้เมื่อนนนทีเอื้อเฟื้อตักมาใส่จานให้ด้วย “เหลือรับปริญญาเท่านั้นค่ะคุณหญิง” “แล้วจะหางานใหม่หรือจะทำกับคุณเอ้ไปเรื่อยๆ ล่ะจ้ะ” คนถูกถามครุ่นคิดเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะตอบออกมายังไง ถ้าบอกว่าไม่อยากหางานใหม่ก็ดูจะโกหกไม่น้อย หรือถ้าจะบอกว่าอยากทำต่อก็ขัดใจตัวเองอยู่มาก “ยังไม่ทราบเลยค่ะ ตะวันเพิ่งกลับมาเลยยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย เอาไว้สักสามสี่ปีค่อยคิด ตอนนี้ก็ช่วยงานคุณผู้หญิงไปก่อนค่ะ” “ดีแล้วล่ะที่คิดได้แบบนี้ และฉันขอแสดงความดีใจด้วยนะที่ตะวันเรียนจบดังใจหวัง มีไม่กี่คนหรอกจะเดินมาถึงจุดนี้ โดยไม่ต้องพึ่งเงินพ่อแม่แม้แต่บาทเดียว ยิ่งคนข้างๆ ฉันนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ได้ข่าวว่าใช้เงินเปลืองขึ้นทุกวันๆ คิดจะอายตะวันบ้างไหมล่ะตาที อายุเท่ากันแท้ๆ ทำไมให้เขาแซงหน้าได้ก็ไม่รู้” “อ้าว! ผมอยู่ดีๆ ไหงคุณหญิงป้ามาแขวะได้ล่ะครับ ก็ผมไม่ใช่คนเรียนเก่งเหมือนคุณตะวันนี่นา” อาทิตยาอดยิ้มด้วยความขำไม่ได้ แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วรีบออกตัวโดยเร็ว “ตะวันไม่เก่งหรอกค่ะ แค่สภาพแวดล้อมบังคับต่างหาก คนจบเอกบ้านเรามีให้เกลื่อนค่ะ” “แต่ฉันว่าเก่งนะ ถ้าตะวันไม่ใช่เด็กรักดี รักเรียน คงจะไม่มุ่งมั่นเรียนรัฐศาสตร์รามในเวลาสามปีครึ่งหรอก แถมทำงานควบไปด้วยอีกต่างหาก กว่าจะฝ่าฟันเรียนโทและเอกจนจบได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ตั้งตรงต่อจุดหมายจริงๆ ไม่มีทางสำเร็จ ถ้าเป็นลูกคนมีเงินพ่อแม่ส่งให้เรียนได้ตามต้องการจนจบ ฉันถือเป็นเรื่องธรรมดา เรียนไม่จบสิแปลก มีทุกอย่างอยู่ตรงหน้าแล้วไม่ไขว่คว้าเอาไว้ ฉันดีใจที่เห็นตะวันประสบความสำเร็จนะ และหวังอย่างยิ่งว่าก้าวต่อไปของตะวันคงจะสดใส มีความสุขกับการใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่นบ้าง” เมื่อผู้ใหญ่ชื่นชมยินดีอย่างจริงจังจริงใจ คนมีสัมมาคารวะอย่างอาทิตยาก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ นอกจากยกมือไหว้ขอบคุณและรับเอาคำอวยพรมาเก็บไว้ เพราะน้อยครั้งนักจะมีเวลาได้นั่งกินข้าวเกือบจะตามลำพังกับคุณหญิงที่ตัวเองเคารพนับถือ ค่ำนี้จึงรู้สึกสบายใจกว่าที่ผ่านมา แม้ไม่ใคร่จะชอบใจสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มของหลานเจ้าบ้านอยู่บ้างก็ตามที แต่โดยรวมแล้วก็เป็นมื้อค่ำอันวิเศษล้ำแล้ว   “วันนี้ถ้าไม่มีงานด่วนอะไรมาก ฉันอยากให้ตะวันช่วยไปสืบมาทีว่าตาจิณชอบรถแบบไหน ฉันอยากจะซื้อเป็นของขวัญต้อนรับการกลับมาน่ะ กะจะให้คืนวันงานเลย คืบหน้ายังไงก็มาบอกฉันนะ ราคายี่ห้อหรือว่ารุ่นไม่เกี่ยง ถ้าเดาถูกใจตาจิณฉันมีรางวัลให้ด้วย” ไข่ดาวบนจานที่เลขาสาวตั้งใจจะตักเข้าปากมีอันต้องล้มเลิกไป เมื่อได้ยินคำสั่งที่เปล่งออกมาจากปากเจ้านายอย่างง่ายดาย คนทำนั้นช่างมืดแปดด้านเสียนี่กระไร แต่ร่างผอมบางก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานขับรถไปอย่างเสียไม่ได้ เพื่อตระเวนขอโบว์ชัวร์กับรายละเอียดรถหรูราคาแพงลิบหลายยี่ห้อมาหอบไว้ ก่อนจะตรงไปยังอาคารวัชราเวโรจน์ ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด “นัดไว้หรือเปล่าคะคุณตะวัน เพราะอีกหน่อยคุณจิณต้องประชุมค่ะ” พันนิภาผู้ช่วยเลขาของจิรเดชที่ถูกย้ายมาเป็นเลขาของจิณณวัตรเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็ก น้อยด้วยกลัวจะบอกพร่องต่อหน้าที่ แต่ด้วยความคุ้นเคยกับอาทิตยาเป็นอย่างดี เพราะอาทิตยาต้องมาเบิกเงินจากจิรเดชไปใช้ในบ้านเป็นประจำ พันนิภาจึงปฏิเสธไม่ได้ ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีมานี้กันแขกไม่ได้รับเชิญไปได้สองคนแล้ว “คุณจี้ลองโทรเข้าไปถามก่อนได้มั้ยคะว่าตะวันขอเข้าพบแป๊บหนึ่งมีเรื่องด่วน ถ้าคุณจิณไม่ว่างตะวันจะนั่งรอจนกว่าจะประชุมเสร็จค่ะ” ไม่ถึงนาทีร่างผอมบางที่หอบโบว์ชัวร์ไว้กับอกก็ได้ก้าวเข้าไปอยู่ในห้องทำงานอันแสนเลิศหรู กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และมีหนุ่มหล่อนั่งจมอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้ว “เชิญครับคุณเลขาใหญ่ ไม่ทราบมีอะไรให้กระผมรับใช้ครับวันนี้ มาถึงที่เชียว” ถ้าจำไม่ผิด นับตั้งแต่หลังงานวันเกิดคุณหญิงเพลินพิศมาจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้เจอหน้ายัยถั่วงอกเลยก็ว่าได้ เพราะมัวยุ่งกับการศึกษางานจนไม่มีเวลาได้ลืมหูลืมตามองใครเลย ตอนนี้ก็เถอะใช่ว่าจะมีเวลาอะไรนักหนา แต่สมองอันมีแต่เรื่องเครียด ได้คลายลงบ้างก็คงจะดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD