บทที่ 6 คือคนที่เคยรู้จักแน่หรือ
เมื่อมาถึงห้องนอนขนาดใหญ่ คนตัวเล็กหย่อนก้นนั่งลงบนเตียง ใบหน้าคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ได้พบเจอหน้าลูกอีกครั้ง พลันหางตาเหลือบไปเห็นเทียนหอมกลิ่นโรสแมรี่
หญิงสาวกลับนึกถึงเลโอเสียอย่างนั้น…นี่เป็นสิ่งที่เลโอชอบ เพราะในตอนที่เธอมีชีวิตมักจะจุดไว้ในห้องของเลโอให้ทุกวัน
เลโอทำงานอย่างหนักดูแลธุรกิจเยอะ ๆ แม้ว่าเทียนหอมจะไม่ได้ช่วยให้หายเหนื่อย แต่มันช่วยให้ผ่อนคลายอาการเครียดจากงานลงได้บ้าง ไม่รอช้า มือเรียวเล็กหยิบเทียนหอมออกมาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับตรงดิ่งไปที่ห้องของเลโอทันที
ตึก ! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าหนักเก้าเดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอ อีกทั้งใบหน้าของคนที่ก้าวเดินนั้น เรียบนิ่งจนดูน่าขนลุก ตั้งแต่คนรักของเขาจากไป ใบหน้าของชายหนุ่มไม่เคยยิ้มออกมาอีกเลย
เลโอเดินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงห้องลูกชายสุดที่รัก หากไม่มีลูกชายรั้งไว้ให้อยู่ป่านนี้ ชายหนุ่มคงตายตามรมิดาเสียแล้วกระมัง เพราะตอนนี้มันก็แทบเหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว
แคร่ก!
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกมือเปิดประตูห้องอย่างเบามือ พร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน….แม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว ความคิดถึงรมิดาไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย…ยิ่งมองหน้าลูกนั่นยิ่งตอกย้ำเลโอให้รู้สึกผิดมากขึ้น…ทั้ง ๆ ที่ได้สัญญาไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะปกป้อง สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้
“คุณเลโอคะ คุณชายน้อยหลับไปแล้วค่ะ” เสียงของพี่เลี้ยงลูก้าเอ่ยเสียงเบา ๆ แจ้งเลโอ เพราะกลัวว่าลูก้าจะตื่น
“…” ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ โดยปกติแล้วลูกชายของเขาจะไม่มีทางนอนหลับ จนกว่าเขาจะมา
“ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมถึงนอนเร็วนัก ข้าวทานได้ปกติไหม” เลโอพูดเสียงเรียบ คงมีแต่สิ่งนี้ที่ใส่ใจมากที่สุด เขาระแวงถึงขั้นต้องให้พี่เลี้ยงวัดอุณหภูมิของลูกชายทุก ๆ 6 ชั่วโมงเพราะลูก้าคลอดก่อนกำหนดร่างกายอาจจะไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป
“อ่อ เปล่าค่ะ คุณชายน้อยปกติดี คุณไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันดูแลเอง” พี่เลี้ยงพูดเบา ๆ และไม่ได้เอ่ยแจ้งว่าวันนี้คาริสาได้เข้ามาในนี้
“อืม งั้นผมฝากด้วย” พูดจบเลโอก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ ลูกชายจากนั้นใช้นิ้วหนาสัมผัสไปที่อุ้งมือน้อย ๆ ของลูก้าเบา ๆ
หมับ !
ลูก้าน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ ราวกับรับรู้ได้ ว่าผู้เป็นพ่อได้เข้ามาหา จึงจับนิ้วเรียวหนาของเลโอเพื่อเป็นการตอบสนอง
เลโอที่มีสีหน้านิ่งเรียบนั้น ค่อย ๆ ผ่อนคลายทีละน้อย ดูเหมือนว่าลูกชายตรงหน้าจะเป็นกำลังใจให้เขานั้นใช้ชีวิตอยู่ต่อไป
จนเลโอเดินมาถึงหน้าห้อง แล้วเปิดประตูเข้าไปด้านใน เห็นว่าไฟห้องเปิดอยู่ เขาเองไม่ได้เอะใจอะไร คงคิดว่าเป็นนาเดียร์นั่นแหละที่เข้ามาทำความสะอาดแล้วลืมปิดไฟ
ทว่า….แวบแรกที่สัมผัสได้ในตอนที่เข้าห้องมาคือกลิ่นภายในห้องมีกลิ่นเทียนหอมของโรสแมรี่ ส่งกลิ่นอบอวลอยู่ภายใน กลิ่นนี้คือกลิ่นที่เขาชอบ ซึ่งรมิดามักจะใช้เทียนหอมมาจุดไว้ภายในห้องของชายหนุ่มทุก ๆ วัน
ในขณะที่เลโอคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น…
โคร้ม!
เสียงคล้ายกับอะไรบางอย่างล้มในห้องน้ำจนข้าวของกระจัดกระจาย
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดิมทีที่มีสีหน้าเรียบนิ่งนั้น ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหมวดคิ้วเป็นปม และสงสัยว่าใครกันที่กล้าเข้ามาในห้องของเขา เลโอไม่คิดอะไรจึงก้าวขาเดินไปยังห้องน้ำทางด้านใน
เพียงชั่วพริบตา ดวงตาอันคมกริบของชายหนุ่ม เห็นร่างผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งลื่นล้มอยู่ภายในห้องน้ำ แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว คนตรงหน้าคือ
คาริสาไม่ใช่หรือ
“เข้ามาทำไม” คนตัวสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เอ่อ…คือ….มาช่วยก่อนสิคะ” เรียวปากสีหวานไม่ตอบคำถาม แต่กลับร้องขอความช่วยเหลือแทน มันเจ็บจนระบมไปหมด
“ล้มเองก็ต้องลุกเอง อย่าสำออย!”
“คะ?” เจ้าของใบหน้าสวย ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะเลโอไม่เคยพูดเย็นชาแบบนี้ใส่เธอเลยสักครั้ง คิดไม่ถึงว่าสามีของเธอจะปฏิบัติต่อผู้หญิงแบบนี้
“ไม่ได้ยินที่พูดหรือไง รีบลุกแล้วรีบออกไปซะ”
“ค่ะ” คนตัวเล็กรับคำ จากนั้นค่อย ๆ พยุงร่างกายอันบอบช้ำ จากการลื่นฟองสบู่เมื่อครู่นี้
เพียงชั่วพริบตา คนตัวเล็กก็ได้ลื่นฟองสบู่ที่ทำหกไว้อีกครั้ง
“ว้าย!” เรียวปากสีหวานร้องเสียงหลง เผลอคว้าเนกไทที่ต้นคอของชายหนุ่ม จากนั้นหงายหลังลงอ่างอาบน้ำพร้อม ๆ กัน
ตู้ม!
รมิดาในร่างคาริสาหลับตาปี๋ คิดเอาไว้ว่าจะหัวกระแทกกับขอบอ่างแล้วแท้ ๆ ทว่าได้มือหนารองรับศีรษะเอาไว้ เธอจึงปลอดภัย
ฟู่วว! หญิงสาวถอนหายใจหนัก ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น กับพบว่าใบหน้าของเธอและเลโอเกือบแนบชิดกัน อยู่ห่างกันไม่ถึง 2 เซนติเมตร
ดวงตากลมโตไม่ได้เขินอายอะไรมากเพราะเธอเคยใกล้ชิดกับเขามามากกว่านี้แล้ว นัยน์ตาสีนิลเคลื่อนมามองใบหน้าของชายคนที่รักอย่างชัด ๆ อีกครั้ง พบว่าใบหน้าของเขาซูบผอม โทรมกว่าเมื่อก่อนมากนัก จนใจของหญิงสาวสั่นวูบอีกครั้ง…จากนั้นเผลอไผลยกมือเล็กขึ้นไปสัมผัสที่แก้มของเขาเบา ๆ แววตาแสดงถึงความห่วงใยอย่างชัดเจน
จนคนตรงหน้ารู้สึกแปลก ๆเอ่ยถามเสียงเข้มว่า “จะทำอะไร” เสียงเข้มเอ่ยถามจนต้องชักมือกลับ แล้วส่งยิ้มเจื่อน
“มะ…ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากจะบอกให้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”
“เป็นอะไร ถึงมาสั่งผม”
“เป็นห่วงค่ะ” หญิงสาวพูด ดวงตาหุบต่ำลงก้มหน้านิ่ง
“….” ทางด้านเลโอก็ชะงักนิ่งไปเช่นกัน ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กสาวตรงหน้า จู่ ๆ ภาพรมิดาก็ได้ซ้อนทับเข้ามาในหัว นั่นทำให้มือหนาผลักร่างเล็กออกไปให้ออกห่างจากตัว จากนั้นแววตาของเลโอค่อย ๆ แดงก่ำทีละน้อย เพราะความคิดถึงรมิดานั้น ยังไม่เคยจางหายไป
“โอเคไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเสียงอ่อน เพียงแค่แวบแรกดูออกทันทีว่าคนตรงหน้ากำลังอ่อนแอ ไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นใจต่างหาก
มือเล็กของรมิดาในร่างคาริสาเตรียมจะเอื้อมออกไปสัมผัสคนตัวสูงตรงหน้าอีกครั้ง
หมับ !
ทว่าโดนรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัว ใบหน้าของคนตรงหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม ออกแรงบีบข้อมือเล็กแน่นขึ้นมากกว่าเดิม
“จะ…เจ็บค่ะ” เธอส่งเสียงออกมา พร้อมกับหน้านิ่วด้วยความเจ็บ เลโอออกแรงบีบจนกระดูกแทบแหลก
“เป็นเพราะเธอ เธอทำให้ดา คนที่ผมรักต้องตาย…”ชายหนุ่มเค้นเสียงเข้ม แววตาฉายแววอมหิต จากนั้นเคลื่อนมือมาคว้าต้นคอของคนตัวเล็กเอาไว้
“อึก…” คนใต้ร่างเริ่มหายใจไม่ออก ใช้มือเล็กสองข้างจับข้อมือของเลโอเอาไว้ พยายามดิ้นไปมา แต่โดนร่างของคนด้านบนล็อคเอาไว้ไม่ให้ขยับ
“ละ…เลโอ…ทำแบบนี้ทำไมคะ…อึก”
“เป็นเพราะคุณพรากคนที่รักของผมไป อย่าหวังว่าจะได้อยู่ดีมีความสุข ผมจะแก้แค้นให้คนที่ผมรักผิดอะไร…”
“อย่า…อย่าทำค่ะ…ฉัน…ฉันคิดว่า…คนที่คุณรักไม่ต้องการให้คุณทำแบบนี้”
“เธอมันจะไปรู้อะไร!” คนตัวสูงตวาดลั่น จนร่างเล็กสะดุ้งโหยง คราวนี้คนใต้ร่างแทบจะหายใจไม่ออกแล้วจริง ๆ
“ฮึก…” หญิงสาวทำอะไรไม่ได้ ได้แต่สะอื้นไห้
“หึ” เลโอยักไหล่ อย่างไม่แยแส “แบบนี้มันจะตายง่ายเกินไปหน่อย งั้นลองทำอย่างอื่นเป็นไง”
มาเฟียหนุ่มพูดจบประโยค ก็ปล่อยมือออกจากลำคอระหง
เมื่ออีกฝ่ายเปิดทางให้มีอากาศหายใจ รมิดาในร่างคาริสารีบตักตวง สูดลมหายใจเข้าพรืดใหญ่ ร่างแน่งน้อยสั่นสะท้านไปทั้งตัว เพราะตอนนี้แช่น้ำอยู่ในอ่าง อุณหภูมิที่กำลังอุ่นพอดีก่อนหน้านี้ค่อย ๆเปลี่ยนเป็นเย็นขึ้นมาทันตา
ไม่ทันที่ร่างเล็กจะหลุดพ้นถึงหนึ่งนาที
แควก!
มือหนาของคนตรงหน้าก็กระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นคามือ
นี่คือเลโอที่เธอรู้จักแน่หรือ….