1.เรื่องราวของไซคี

1347 Words
ราชอาณาจักรอามาทีเรียสถูกปกครองด้วยองค์จักรพรรดิโลแกนผู้มีพระเมตตา ราชอาณาจักรแสนยิ่งใหญ่แห่งนี้แบ่งออกเป็นสี่แกรนด์ดัชชีภายใต้การปกครองของชนชั้นสูงสามตระกูล และอีกหนึ่งแกรนด์ดัชชีที่ปกครองโดยนักบุญหญิงผู้ได้รับการศรัทธาอันล้นหลามจากชาวเมือง แต่ทว่าก็มีดัชชีของดยุคเมนเคล ที่มองว่านักบุญหญิงผู้เป็นที่ศรัทธาของชาวเมืองนี้เป็นเพียงลักธินอกรีตเท่านั้น จึงเกิดความบาดหมางระหว่างผู้มีความเชื่อและผู้ที่ไร้ความศรัทธาขึ้นมาอย่างเนิ่นนาน แต่ทว่าทั้งสองเมืองก็มิกล้าทำสงครามเพราะว่ายังมีเกรงใจองค์จักรพรรดิอยู่ เวลาผ่านล่วงเลยไปหลายสิบปี สถานการณ์ความขัดแย้งนี้ก็ยังไม่คลี่คลายลงไป มีแต่จะทวีคูณเพิ่มความบาดหมางมากขึ้น องค์จักรพรรดินั้นรู้สึกว่าพระองค์กำลังไร้หนทางไปทุกที เพราะทางฝ่ายดยุคเมนเคลคือขุนนางผู้ภักดี แต่ทว่าทางนักบุญหญิงก็เป็นผู้ที่ช่วยให้พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์และช่วยให้พระองค์นั่งบนบัลลังก์ ทั้งสองต่างก็มีความดีความชอบต่อพระองค์ในครั้งอดีต เพราะฉะนั้นจะเลือกเข้าข้างใคร เรื่องนั้นพระองค์มิอาจทำใจได้ ราวกับว่าสรวงสวรรค์นั้นรู้สึกสงสารและเห็นใจพระองค์ เพราะเมื่อนักบุญหญิงให้กำเนิดทายาทขึ้นมา..เป็นเด็กหญิงที่มีเรือนผมสีเงิน ดวงหน้านั้นฉายแววงดงามจนเทพีอโฟไดท์ยังต้องอิจฉา พระองค์เป็นผู้พระราชทานนามของเด็กน้อยผู้นี้ว่า "ไซคี" หลังจากนั้นองค์จักรพรรดิก็ทรงประกาศราชโองการว่า เมื่อไซคีอายุครบสิบแปดปีเมื่อไหร่ จะให้ไซคีแต่งงานกับลูกชายของดยุคเมนเคล เพื่อให้ความขัดแย้งของสองดินแดนจบสิ้นลงไป "เชื่อเถอะลูกรักว่าตอนที่แม่ได้ยินราชโองการนั่น แม่แทบจะอยากก่อกบฏให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ให้ตายเถอะ!! ใครจะทำใจส่งลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจไปยังดินแดนคนเถื่อนอย่างเมนเคลได้!!" อ่า..นั่นคือเรื่องราวของไซคี สตรีผู้งดงามที่เกิดมาพร้อมคำทำนายอันดีงาม คำทำนายที่ว่านั่นคือไม่ว่านางจะอยู่ในตระกูลไหน ตระกูลนั้นจะเจริญรุ่งเรือง ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เด็กที่เกิดจากครรภ์ของนางจะเป็นผู้กล้า เป็นเด็กที่ทุกคนต้องให้การเคารพและยกย่อง ดูราวกับว่าชีวิตของไซคีนั้นเดินอยู่บนพรมที่ปูทับดอกกลีบดอกกุหลาบอีกที แต่ทว่าชีวิตของนางมันเริ่ม..เฮงซวยก็ต่อเมื่อนางแต่งงาน การแต่งงานที่เกิดขึ้นมาเพราะความต้องการขององค์จักรพรรดิที่พระองค์เหนื่อยล้ากับการจัดการความขัดแย้งระหว่างสองดินแดน พระองค์จึงส่งบุตรสาวและบุตรชายของสองดินแดนที่ว่ามาแต่งงานกัน สามีของนาง เขาไปทำสงครามตลอดเวลา ไม่กลับมาที่คฤหาสน์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไซคีมีชีวิตที่เรียกได้ว่าอยู่ไม่สู้ตายเพราะความบาดหมางระหว่างสองดินแดนทำให้ความเป็นอยู่ของไซคีที่คฤหาสน์เมนเคลลำบากมาก จนนางตายลงไปอย่างเดียวดายในค่ำคืนที่หิมะตกลงมาอย่างหนัก ไซคีตายโดยที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวแม้แต่ครั้งเดียว กำหมัด!! ถึงไม่อยากจะเชื่อแต่ว่าใบหน้าที่ฉันมองเห็นผ่านกระจกเงานี้ มันเกินคำว่าความงดงามไปมากทีเดียว..สวยขนาดนี้ทำไมจะต้องมีชะตากรรมที่น่าสงสารอะไรแบบนั้นนะ ตอนที่ฉันอ่านนิยายเรื่องนี้ฉันก็คิดแบบนี้มาตลอดว่าไซคีคือตัวประกอบที่น่าสงสารมากทีเดียว นางไม่ใช่นางร้ายหรือว่าคนไม่ดีอะไรเลย แต่เพราะว่าไซคีถูกท่านแม่เลี้ยงมาด้วยความทะนุถนอมมากเกินไปทำให้นางมองโลกในแง่ดีมาก โลกใบนี้มันโหดร้ายมากเลยนะ..มากกว่าที่ไซคีมองเยอะเลย ฉันตาย ตายเพราะดื่มเหล้ามากเกินไป มันคือความเสียใจที่จุกแน่นในอกเพราะว่าสามีที่แต่งงานกันมาหลายปีเป็นชู้กับเพื่อนสนิทของฉัน ชีวิตของฉันไม่เหลือใครแล้วเพราะพ่อกับแม่ตายไปหมด เราคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเกือบสิบปีกว่าจะตัดสินใจแต่งงานกัน แน่นอนว่าเขาคือครอบครัวเพียงคนเดียวของฉัน คือคนที่ฉันมองว่าเขาคือทุกอย่าง แต่ทว่าไม่เลย... ความรักของเรามันไม่เท่ากัน ทั้งที่ตั้งใจจะดื่มให้หนักเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วไปหย่ากับเขาซะ แต่กลับดื่มหนักจนตายเลยอย่างนั้นเรอะ! เจ็บใจชะมัดที่ยังไม่ได้แก้แค้นเลย!! "ไซคี แม่จะหาทางให้เจ้าหย่ากับเขาเอง ลูกอย่าพึ่งหมดกำลังใจเพราะว่าแม่จะทำทุกทางเพื่อให้ลูกสาวที่น่ารักของแม่ออกมาจากคฤหาสน์เมนเคลนั่น" นี่คงเป็นเหตุผลที่ไซคีอดทนรอมาตลอดสินะ เพราะว่านางเชื่อว่าท่านแม่จะต้องหาทางช่วยนาง แต่ทว่าในความจริงการแต่งงานนี้ไม่ได้มีมาเพื่อให้หย่าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะว่านี่คือพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิ ในเมื่อหย่าไม่ได้อีกทั้งสามีก็ไม่คิดกลับมาจากสนามรบ และเธอเองก็คือไซคี ไซคีที่แปลว่าลูกสาวของนักบุญหญิงและเป็นลูกสาวบุญธรรมขององค์จักรพรรดิ นั่นหมายความว่ามันควรจะไม่มีใครที่กล้ามาทำร้ายเธอสิ ในเมื่อสามีไม่ทำหน้าที่ของสามี เช่นนั้นเธอก็จะมีคนรักใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป เธอจะไม่ยอมเหี่ยวแห้งคาคฤหาสน์เมนเคลแบบเนื้อเรื่องเดิมหรอกนะ ไม่มีไซคีที่อ่อนแอและมองโลกในแง่ดีอีกแล้ว มีแต่เธอคนนี้ที่จะไม่ยินยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกทั้งนั้น!! "ค่ะ ท่านแม่มิต้องเป็นกังวล ลูกจะรอท่านแม่อยู่ที่คฤหาสน์เมนเคล" เวโรนิก้ายกมือขึ้นมาลูบผมของลูกสาวเบาๆ "แม่รักลูกนะไซคี" รัก..อย่างนั้นหรือ? แล้วใบหน้าที่แสนยินดีนี้คืออะไรกันนะ? "มิต้องเป็นกังวลนะคะท่านนักบุญหญิงเพราะข้าจะติดตามคุณหนูไปด้วย" เคทกล่าวพร้อมกับจัดของเตรียมใส่กระเป๋า ในขณะที่เธอนอนอยู่นิ่งๆบนเตียง ไซคีหลับตาลงช้าๆ เธอมาอยู่ที่นี่ราวหนึ่งปีแล้ว ท่านพ่อคือใครเรื่องนี้ไม่มีเขียนเอาไว้ทั้งในนิยายและท่านแม่ไม่เคยกล่าวถึงท่านพ่อของเธอเลย มันราวกับว่าเรื่องราวมีอะไรที่น่าสงสัยมากกว่านั้น เพราะตามเนื้อเรื่องเดิม ท่านแม่ไม่เคยเดินทางไปหาไซคีเลย จดหมายสักฉบับก็ไม่เคยเขียนถึง สตรีผู้นี้ตายลงไปอย่างโดดเดี่ยวมากจริงเพราะว่าเธอไม่เหลือใครเลย เคทสาวใช้เพียงคนเดียวของเธอตายไปก่อนหน้าที่ไซคีจะตายเพียงสองปี ไซคีลุกจากที่นอนอย่างรวดเร็ว "เคทมาช่วยข้าเตรียมตัวเถอะ" เพราะตามเนื้อเรื่องเดิมนี่คือวันเดียวเท่านั้นที่ไซคีจะได้พบสามีของเธอ และไซคีในวันส่งตัวนางร้องไห้อย่างหนัก ด้วยความเสียใจที่จะต้องเดินทางไปจากบ้านที่เติบโตมา หากว่าเธอสามารถเปลี่ยนเรื่องราวมากมายอะไรพวกนั้นได้ เปลี่ยนเส้นเรื่องให้แตกต่างไปจากเดิมแล้วละก็ สิ่งแรกที่เธอควรจะทำมันคือการเปลี่ยนใจสามีของเธอ ไม่ว่าจะมองกระจกเงาสักกี่ครั้งใบหน้านี้ก็สมควรแล้วที่ชื่อไซคี เพราะว่าไซคีคือสตรีที่เทพีอโฟไดท์ยังอิจฉาในความงดงาม ความงดงามที่ดูเปล่งประกายมาจากด้านใน เรือนผมสีเงินที่ดูสูงส่งและสง่างามในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีอเมทิสต์ที่ดูราวกับมีมนต์สะกดแก้มสีชมพูเปล่งปลั่ง ความงดงามที่ราวกับรูปสลักในวิหาร สวยขนาดนี้ใครไม่มองก็ให้มันรู้ไป!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD