บทที่1.ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากได้ยินคำถามที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมาก่อน จากเด็กแปลกหน้าสองคนที่รู้แค่ชื่อ ริท กับโรซี เด็กที่อาจจะเป็น ‘ลูก’ ของเขากับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต และหล่อนเลือกที่จะหายไปเงียบๆ เอง
ม่านไหม...นักศึกษาสาวชาวไทย ที่เคยทำให้ริโอลุ่มหลงได้พักใหญ่ๆ
ตลอดชีวิตการเป็นหนุ่มมากเสน่ห์ ริโอระวังตัวอย่างดี ประวัติการเป็นนักรักของเขาเลยขาวสะอาด เขาไม่เคยเอาเปรียบฝ่ายหญิง ทุกครั้งที่ร่วมสนุกกัน เขามีของตอบแทนติดไม้ติดมือให้อย่างคุ้มค่า
และมันทำให้ริโอลำพองมาตลอด จนถึงวันนี้แหละ
วันที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเด็กน้อยสองคนนั้นอีกครั้ง
“อะไรนะ!!” ฌอนถึงกลับวิ่งหน้าตั้งมาหา เขาได้ยินเสียงเจ้านายตะโกนลั่น สีหน้าของริโอเองก็แตกตื่นพิกล
“ใครบอกเราสองคนว่าฉันเป็นพ่อหะ!!” ฌอนเบิกตาโต สมุดจดงานในมือพลัดหลุด
ปึก! ริโอเหลือบมองแล้วโบกมือเรียก แต่ฌอนสติสตางค์กระจัดกระจายไปแล้ว ขาของเขาแข็งทื่อเลยขยับตัวทันใจเจ้านายไม่ได้
“ไม่รู้ ไม่มีคนบอก แต่เราแค่สงสัย”
คำตอบนั่นทำให้ริโอถอนใจพรวด ทิ้งตัวนั่งที่เดิมได้ เขายกมือปาดเหงื่อที่ไหลชุ่มเต็มหน้าผาก ถามกลับเสียงอ่อนลง
“ทำไมถึงสงสัยคนที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าล่ะ?”
“ก็มัมไม่ยอมบอกว่าพ่อผมกับโรซีเป็นใครนี่ครับ?” คำตอบนั่นสร้างความหงุดหงิดให้กับริโอไม่น้อย
“แม่เราชื่ออะไรนะ เผื่อฉันรู้จัก”
การที่มารดาของเด็กน้อยมีเบอร์ส่วนตัวของเขา เป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก เขาอาจจะรู้จักกับมารดาของเด็กเป็นการส่วนตัวก็ได้
“มัมชื่อม่านไหมครับ”
ริโอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เขาไม่มีทางลืมผู้หญิงชื่อนี้หรอก ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งทำให้เขาเสียงานเสียการเสียตั้งสามเดือนเต็ม เขาเคยคิดถึงขั้นจะเลี้ยงดูหล่อนจริงจัง แต่แล้ว เขาก็ต้องผิดหวัง หญิงผู้นั้นเลือกที่จะไปจากเขา แบบไม่เหลือเยื่อไยเลยอะไรไว้ให้เลย
“อ้อ...ฉันรู้จักมัมของเราสองคนนะ”
ริโอโบกมือให้ฌอนนั่งลงก่อน เขาอยากรู้บางอย่างจากเด็กสองคนที่อยู่ปลายสาย
“มัมบอกว่าไม่รู้จักคุณครับ มัมห้ามยุ่งกับคุณ มัมบอกคุณน่ากลัว”
คำตอบจากเด็กหญิงชาย ริโอรู้สึกแปลกๆ แม่ของเด็กบอกลูกว่าไม่รู้จักเขา แต่สั่งห้ามไม่ให้เด็กข้องแวะกับเขา เพราะเขามันน่ากลัว มันดูย้อนแย้งพิกล
ริโอมั่นใจ เขากับม่านไหมจากกันด้วยดี เขาให้หล่อนไปมากพอสมควร
ซึ่งไม่น่าทำให้อีกฝ่ายจังชังเขาถึงขั้นนี้
“เกิดอะไรขึ้นครับเจ้านาย?” ฌอนกระซิบถาม
“ไม่มีอะไร เลื่อนประชุมไปก่อนสักสามสิบนาทีนะ” ริโอป้องปากบอกคนสนิท และหันไปซักไซ้สองเด็กแปลกหน้าต่อ
ฌอนถึงกับตาเหลือก ไม่เคยมีใครดึงความสนใจของริโอได้ ยกเว้น...ฌอนสะบัดหน้า พยายามไม่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ริโอถูกผู้หญิงคนหนึ่งตีจาก กว่าจะกลับเป็นคนเดิมได้ ใช้เวลาเกือบเต็มเดือนเชียวแหละ ท่าทางไม่ยี่หระของริโอก็แค่เปลือกนอก ความจริงแล้วริโอเสียหลักไปไม่น้อย
ถึงขนาดต้องดื่มย้อมใจ ไม่อย่างนั้นคงหลับไม่ลง
วัฐจักรการดำเนินชีวิตของริโอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
ริโอไม่เคยคิดจริงใจกับใครอีก ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปด้วย
และหากไม่อคติเกินไป ฌอนยอมรับ รสนิยมช่วงหลังของเจ้านาย แทบจะถอดเค้าโครงมาจากหญิงผู้นั้นทุกอย่าง
ผู้หญิงเจนจัดกร้านโลกแบบที่ริโอเคยชอบ เขาไม่เฉียดเข้าใกล้อีกเลย
ช่วงหลังๆ ริโอชอบผู้หญิงเรียบร้อย ว่าง่าย แต่ก็ยังไม่มีใครเติมเต็มส่วนที่เจ้านายต้องการได้เลยสักคน
ในปีแรก หลังผู้หญิงคนนั้นตีจาก ริโอยังทำตัวเหมือนพ่อพวงมาลัยเหมือนเดิม
พอเข้าปีที่สองเท่านั้นแหละ จากที่เริงร่า กลายเป็นผู้ชายหงุดหงิดง่าย แทบไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าหน้าติด ยกเว้นตอนเมา
“ตกลงยังไงแน่หะ ห้ามยุ่ง หรือว่าอย่ายุ่งแน่”
ฌอนพยายามเก็บข้อมูลระหว่างที่เจ้านายสนทนา
เขาได้ยินเสียงแทรกที่ทำให้รู้สึกตกใจมากขึ้น ริโอยอมทิ้งเวลาที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเอง มาคุยกับ ‘เด็ก’
“ริทวางเถอะ คราวนี้มัมลงโทษหนักแน่ ถ้ารู้ว่าริทไม่เชื่อที่มัมพูด”
เสียงอ่อนอ่อยเตือนเบาๆ
“ม่าย เราอยากรู้โรซี มัมไม่มีเหตุผล อยากห้าม ทำไมไม่บอกล่ะว่าใครเป็นพ่อของพวกเรา”
หัวคิ้วริโอขมวด เขาคิดตามคำพูดเด็กสองคนนั่นแล้วจึงถึงบางอ้อ ผู้หญิงคนนั้นมีลูก แต่พ่อเด็กไม่ได้อยู่ด้วย มือแข็งแรงยกขึ้นเกาใต้ปลายคางแล้วย้อนนึกถึงความหลัง มีครั้งไหนไหมที่เขาหละหลวม จนอาจก่อเกิดปัญหาใหญ่ ริโอตาเหลือก เขาจำได้รางๆ มีคืนหนึ่งที่เขาคึกหนัก ฟาดม่านไหมทั้งคืนจนรุ่งเช้า คอนดอมที่เตรียมมาเลยไม่พอ และนั่นอาจทำให้เด็กสองคนนี่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ก็ได้
“ฉันอยากเจอมัมของเธอ” ริโอเปรย
“ไม่ได้นะ!!” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นมาพร้อมกัน
“ทำไมล่ะ ฉันอาจเป็นพ่อของเราสองคนก็ได้นะ”
“แค่อาจจะเอง ผมไม่มีทางยอมให้คุณเจอกับมัมหรอก” เด็กชายตอบเสียงแข็ง
“อ้าว!” ริโอครางเสียงหลง
เด็กสองคนนี่ต้องการอะไรแน่ เขาเองก็อยากรู้ความจริง และมันมีความเป็นไปได้เสียด้วย
“หากคุณเจอมัม แล้วเกิดชอบมัมขึ้นมาล่ะ ไม่เอาหรอก ผมไม่ยกมัมให้ผู้ชายคนไหนทั้งนั้น” น้ำเสียงแข็งๆ จนริโออยากเจอหน้าขึ้นมาติดหมัด อาการหวงแม่แบบสุดโต่ง ตอนเด็กเขาก็เป็น
“ใช่โรซีก็ไม่ยอม” น้ำเสียงเด็กหญิงก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
“ไหนบอกอยากเจอพ่อ หวงก้างแบบนี้จะเจอได้ยังไง”
“แค่อยากรู้ ไม่ได้อยากให้มาอยู่ด้วย เราสองคนอยู่กับมัมได้ สบายดี”
“แต่ฉันอยากเจอ อยากพิสูจน์ความจริงด้วย” ริโอแย้ง
“เราบอกแล้วไหมริท วางเถอะ เดี๋ยวมัมก็กลับมาแล้ว”
“เดี๋ยวๆ เธอสองคนอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันไปหา” ริโอแย้งเสียงหลง เขายังไม่รู้รายละเอียดของเด็กสองคนนี่เลย
“คุณไม่มีทางตามหาพวกเราเจอหรอกครับ” เด็กชายพูดเหมือนเป็นต่อ พร้อมกับสัญญาณที่ถูกตัดหายไป
“เห้ย อะไรวะ มากระตุ้นต่อมอยากรู้ของกู แล้วทิ้งกันดื้อๆ งั้นเหรอ” ริโอโวยเสียงหลง ก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ตาปริบๆ
ฌอนกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เลยเวลาประชุมไปเกือบสิบนาที เจ้านายของเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัว ความสนใจของริโอจดจ่ออยู่แค่เรื่องเด็กสองคนที่เขาเพิ่งสนทนากันไปหมาดๆ
“ฌอน มึงคิดว่าคนอย่างกูเป็นพ่อคนได้ไหมวะ?”
ฌอนตาเหลือก คุยกับเด็กที่ไหนไม่รู้แค่ไม่กี่นาที เจ้านายของเขาอาการหนักถึงขั้นอยากเป็นพ่อคนขึ้นมาเชียวเหรอ?
“เจ้านายครับ ประชุมครับ”
ริโอพยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็ไม่ขยับตัวเหมือนเดิม เรื่องที่กวนใจเขาอยู่นี่ทำให้ริโอรู้สึกค้างคา หากเขาไม่สามารถไขความกระจ่างได้ให้หายกังวลใจได้ เขาคงติดใจอยู่แบบนี้ และคงไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้ ชายหนุ่มเม้มปากย้อนนึกถึงความหลัง
มีความเป็นไปได้ เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์เสียด้วย
บทที่2.ควานหาตัวเด็กปริศนา
ฌอนพยายามสะกิดเตือน ในที่สุดริโอก็ยอมขยับ เขาเดินตามฌอนไป แม้จะอยู่ในภวังค์ ริโอทิ้งตัวนั่งที่หัวโต๊ะตัวใหญ่ในห้องประชุม เขาไม่ได้ใส่ใจเนื้อหาระหว่างประชุมเลย ใจของเขาจดจ่ออยู่กับการควานหาเด็กปริศนาสองคนนั่น
“ฌอนกูรู้แล้ว เราจะตามหาเด็กสองคนนั่นได้ที่ไหน?”
ฌอนยกมือปาดเหงื่อ จู่ๆ เจ้านายก็ลุกพรวด และโพล่งบางอย่างออกมา ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีสักคนที่กล้าลุกขึ้นทักท้วง พอริโอขยับตัวเดินจ้ำอ้าวออกไป แต่ละคนที่นั่งตาปริบๆ ก็ต่างพากันถอนใจเฮือก