ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
คนหลังประตูเมื่อได้ยินว่าเจ้าของห้องเอ่ยอนุญาตแล้วจึงเปิดประตูเข้ามา เร็นเดินถือเอกสารไปวางบนโต๊ะทำงานให้เจ้านายที่กำลังนั่งนัวเนียอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งในสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ย ภาพนั้นไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกตกใจเพราะเห็นจนชินแล้ว
“มีเอกสารมาให้เซ็นครับ”
“เธอออกไปก่อน” เขาหันไปบอกหญิงสาวที่นั่งบนตัก
“คราวหน้าคุณมาร์คินจะเรียกหาหลินอีกไหมคะ?”
“อืม”
มาร์คินตอบรับอย่างขอไปที หญิงสาวบนตักยิ้มกว้างก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะลุกออกจากตักแล้วจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่ จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องทำงาน
“คืนนี้นายจะไปดูการผลิตสินค้าด้วยตัวเองไหมครับ?”
“มึงไปแทนกู ถ้าเกิดปัญหาอะไรค่อยโทรมาหากูทีหลัง”
“ได้ครับนาย” เร็นตอบรับ “นายจะให้ผมจัดการคนที่แอบถ่ายคลิปเลยไหมครับ?”
“เอาไว้ก่อน มันมีบางอย่างที่สนุกกว่านั้น”
“นายคงหมายถึงพี่สาวของมันใช่ไหมครับ?” เร็นเลิกคิ้วถามเจ้านาย
“หึ ใช่ จัดการมันไม่สนุกเท่า…พี่สาวของมัน”
ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มหลังจากพูดจบ เชื่อว่าคืนนี้นาร์มินต้องมาหาเขาอย่างแน่นอน ขนาดนัดให้มาเจอเมื่อคืนยังยอมมา สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาก็คือ เธอแสดงออกชัดเจนว่ารักและเป็นห่วงน้องชายมากแค่ไหน นี่เลยทำให้เขามั่นใจว่าเธอต้องมา
“เฝ้ามันไว้ให้ดี อย่าให้หนีไปไหนได้ ถ้าไม่มีคำสั่งจากกูอย่าเพิ่งทำอะไรมัน”
“ครับนาย”
“ออกไปได้แล้ว”
เร็นโค้งศีรษะให้เจ้านายเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินออกไป มาร์คินหยิบบุหรี่มาคาบไว้ในปาก จากนั้นหยิบไฟแช็คขึ้นมาลนตรงปลายกระบอกจนควันสีเทาคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณที่นั่งอยู่
ครืด ครืด
สายตาเหลือบมองเบอร์บนหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฎขึ้นมา พอรู้ว่าเป็นใครจึงหยิบมาปัดหน้าจอเพื่อรับสายคนเป็นแม่
“ครับแม่”
(บ่ายนี้คินมีนัดทานข้าวกับลูกสาวของคุณสาธิต ไม่ลืมใช่ไหม?)
“ไม่ลืมครับ”
(แม่รู้นะว่าคินไม่อยากไปทานข้าวกับลูกสาวคุณสาธิต แม่เองไม่อยากบังคับให้คินไปเท่าไรเหมือนกัน แต่ทางนั้นเซ้าซี้ไม่เลิก แม่เลยรับปากบอกว่าจะคุยกับคินให้)
“ไม่เป็นไรครับ แค่ไปทานข้าวกลางวันด้วยกันผมไม่อะไรอยู่แล้ว” เขาตอบกลับคนเป็นแม่ เขารู้จักกับลูกสาวคุณสาธิตเป็นการส่วนตัวมาก่อนอยู่แล้ว และก็รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเอง
(แล้วเย็นนี้ล่ะ ว่างมาทานข้าวเย็นที่บ้านรึเปล่า?)
“ผมติดธุระ คงไปทานข้าวเย็นด้วยไม่ได้ ไว้วันหลังนะครับ”
(น้องบ่นคิดถึงพี่ชายมาหลายวันแล้วรู้ไหม)
“หึ ไว้ผมจะหาเวลาไปหา ฝากบอกณิดาด้วยนะครับ”
(ได้เลย แม่ไม่รบกวนเวลางานของคินแล้ว แค่นี้นะ)
“ครับ” เขาวางสายลงจากแม่แล้วหันมาสูบบุหรี่ต่อ สายตามองเวลาบนนาฬิกาาเรือนหรูบนข้อมือ เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลานัดทานอาหารกลางวันกับลูกสาวคุณสาธิต นักธุรกิจรายใหญ่ที่รู้จักกับคุณพ่อของเขา
@คิงส์คลับ
นาร์มินก้าวเข้ามาภายในไนต์คลับหรูอีกครั้งหลังจากนั่งคิดนอนคิดในสิ่งที่มาร์คินพูดกับตัวเองเอาไว้เมื่อคืน เมื่อคืนนี้เธอนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องน้องชาย ที่ตัดสินใจกลับมาที่นี่อีกครั้งก็เพื่อช่วยนาร์วิน ถ้าหากเธอไม่พาตัวเองมาหาผู้ชายคนนั้น เขาคงไม่ยอมปล่อยน้องชายของเธอไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
ชายฉกรรจ์ที่ยืนเฝ้าเปิดประตูห้องพักวีไอพีออกให้หญิงสาว นาร์มินเดินเข้าไปข้างในด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย พยายามข่มความกลัวเอาไว้ เริ่มมองหาเจ้าของห้องนี้จนกระทั่งสายตามาหยุดอยู่ที่มาร์คิน
มาเฟียหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพสวมชุดคลุมสีดำแหวกให้เห็นแผงอกกำยำ รอยยิ้มบนมุมปากปรากฎขึ้นมาเมื่อเห็นนาร์มินยืนอยู่กลางห้องพักวีไอพี แววตาอีกฝ่ายยังคงแสดงออกชัดเจนว่ากลัวเขาไม่ต่างจากเมื่อคืน
“ถ้าฉันยอมคุณ คุณจะปล่อยน้องชายฉันไปจริงๆ ใช่ไหม” เธอเอ่ยถามให้แน่ใจ
“แน่นอน”
“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้โกหก อีกอย่าง ฉันยังไม่เห็นน้องชายของฉันเลย”
“น้องชายเธอปลอดภัยดี”
“เอาหลักฐานมายืนยันสิ”
“ความปลอดภัยน้องชายเธอ มันขึ้นอยู่ที่เธอ…ไม่ใช่ฉัน”
“ฉันจะเชื่อว่าน้องชายฉันปลอดภัยจริงๆ ก็ต่อเมื่อได้เห็นกับตา”
มาร์คินเริ่มหงุดหงิดกับการกระทำของนาร์มิน เขาตรงไปหาหญิงสาวแล้วคว้าแขนให้เดินตามเข้าไปในห้องนอน โดยนาร์มินก็ยังต่อต้านเขาไม่เปลี่ยนแปลง
“ปล่อยฉันนะคุณมาร์คิน!” ยิ่งพยายามแกะมือของเขาให้หลุดจากแขนตัวเองมากเท่าไร อีกฝ่ายก็ยิ่งบีบรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น
เขายอมปล่อยนาร์มินเป็นอิสระ หยิบโทรศัพท์ที่วางเอาไว้มาเปิดบางอย่าง ก่อนจะยื่นให้นาร์มินดูเพื่อยืนยันว่าน้องชายเธอปลอดภัยดี
“ภาพจากกล้องวงจรปิดจากห้องที่ใช้ขังน้องชายเธอเอาไว้”
“ทำไมหน้าน้องชายฉันถึงมีแผล! ไหนคุณบอกจะไม่ทำอะไรเขาไง”
“ก็แค่สั่งสอนนิดๆ หน่อยๆ ให้กับคนอวดเก่งเท่านั้นเอง”
“คุณมันเลว” เธอด่าเขาผ่านเสียงดังลอดไรฟัน
หมับ!
มาร์คินจับมือนาร์มินที่ง้างออกเตรียมตบหน้าตัวเองเอาไว้ได้ทัน นัยน์ตาดำขลับนิ่งขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด แววตาที่เปลี่ยนไปของมาเฟียหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกกลัว
นี่เป็นครั้งแรกที่มาร์คินถูกผู้หญิงปฏิบัติด้วยเช่นนี้ หากช้าอีกนิดเดียว ป่านนี้มือเล็กๆ ของนาร์มินคงปะทะใส่หน้าตัวเองแล้ว
“จะทำอะไรก็ควรคิดให้เยอะๆ กว่านี้หน่อยนะ”
“ฉันเจ็บนะ!” เธอพยายามแกะมือมาร์คินที่บีบรัดข้อมือของเธอเอาไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บปวด
“ฉันดูเหมือนผู้ชายใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ หืม?”
“ฉันเจ็บนะคุณมาร์คิน!” ยิ่งรู้จักยิ่งกลัวผู้ชายคนนี้ ภายนอกที่ดูดีและเพอร์เฟกต์ ใครจะรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้วข้างในคือปีศาจดีๆ นี่เอง
“ครั้งนี้ฉันแค่เตือน ถ้ามีคราวหน้า เธอได้เจอของจริงแน่…นาร์มิน” ริมฝีปากหยักได้รูปขยับพูดชื่อหญิงสาวข้างใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ก่อนจะค่อยๆ คลายมือที่บีบรัดข้อมือเล็กอยู่ออก
แรงบีบรัดรุนแรงทำให้ข้อมือนาร์มินเกิดเป็นรอยแดง มาร์คินเดินไปนั่งลงปลายเตียงนอน สายตาคมเข้มมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงเดิม
“มานั่งลงตรงหน้าฉัน”
“….” เธอยืนชั่งใจสองนาน ก่อนจะเดินเข้ามานั่งลงตรงหน้ามาร์คินตามคำสั่ง หัวใจเริ่มเต้นแรงจนไม่สามารถจับจังหวะได้ พยายามข่มความรู้สึกหวาดกลัวเอาไว้
“ถอดเสื้อของเธอออก”
“ตะ…ต้องถอดด้วยเหรอคะ”
“ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งเหรอ?”
“….” เธอก้มหน้ามองพื้นพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ตอนแรกทำใจไว้แล้วว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ แต่พอได้อยู่ในสถานการณ์จริง มันกลับทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกและเกิดความประหม่า
“ถ้าถอดเองมันยากมาก ให้ฉันฉีกมันขาดเลยดีไหม?”