บทที่ 9

1169 Words
หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงภายในห้องซึ่งเธอก็คิดว่าเขาคงจะกักขังให้เธออยู่ในห้องนี้แม้ว่าระเบียงของห้องนั้นจะเป็นกระจกสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์ด้านนอกแต่เธอก็ไม่ต่างจากนกน้อยในกรงทองที่ถูกกักขังอิสรภาพไม่สามารถไปไหนและติดต่อใครได้เลยกระทั่งเวลาผ่านไปเธอได้ยินเสียงประตูเปิดที่ด้านนอกหญิงสาวเดินออกไปดูก็เห็นแม่บ้านจัดวางสำรับเอาไว้ที่โต๊ะรับแขกเมื่อเห็นนาฬิกาแม่บ้านสาวจึงหันมาและค้อมตัวลงเล็กน้อยก่อนพูดว่า “สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ดิฉันเข้ามารบกวนคุณผู้หญิง นี่เป็นอาหารมื้อค่ำที่คุณรามิลให้ดิฉันจัดเตรียมเอาไว้สำหรับคุณผู้หญิงค่ะ” บาลิกามองอาหารบนโต๊ะซึ่งเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเธอยิ้มให้กับแม่บ้านและพูดสั้น ๆ ว่า “ขอบคุณค่ะ...เอ้อ...แล้วไม่ทราบว่าคุณรามิลจะกลับเข้ามาอีกไหมคะ” “คุณรามิลจะกลับเข้ามาอีกทีหลังจากนี้ค่ะ แต่ดิฉันไม่ทราบเวลาที่แน่นอน ดิฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ” แม่บ้านออกไปจากห้องนั้นแล้วบาลิกาจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะรับแขก เธอจ้องมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะข้างถอนหายใจแต่ก่อนที่จะหยิบช้อนขึ้นมาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูขึ้นอีกครั้ง คราวนี้รามิลเข้ามาในห้องนั้น เขาหยุดยืนตรงหน้าเธอและพูดว่า “อาหารของโรงแรมอาจจะไม่ถูกปากคุณสักเท่าไหร่นะแต่ผมก็คิดว่าตอนนี้คุณคงจะหิวมากแล้วล่ะ” “คุณทำเหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงเลยนะคะ พอถึงเวลาก็เอาอาหารมาใส่ไว้ในกรง” “พูดอะไรอย่างนั้น ผมก็มองว่าคุณเป็นแขกของผมคนนึงที่เข้ามาพักในห้องนี้ คุณรู้หรือเปล่าว่าโดยปกติแล้วผมไม่เคยพาใครมาที่นี่เพราะนี่คือพื้นที่ส่วนตัวของผม” “ดิฉันต้องขอบคุณคุณหรือเปล่าคะ หรือว่ามันอาจจะเป็นบุญคุณสำหรับนักโทษอย่างฉัน” “คุณนี่ช่างประชดประชันดีนะ เวลาอยู่กับราเมศคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า” รามิลหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัวและจ้องหน้าบาลิกา แววตาของเขาไม่ได้มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย บรรยากาศรอบตัวก็เต็มไปด้วยความอึดอัดจนเธออยากวิ่งออกไปแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาและก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าโดยที่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำท่าทีของเธอเหมือนกำลังอวดดีแต่เปล่าหรอก ตอนนี้เธอกำลังหิวจริง ๆ และถ้าขืนยังจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาต่อไปเธอก็คงไม่ได้ทำอะไรเพราะท่าทางรามิลไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลยถ้าเขามีโอกาสก็จะพูดว่ากระแทกเสียดสีทำให้เธอเจ็บปวดอยู่ร่ำไปโดยเฉพาะเรื่องน้องชายของเขาที่ดูเหมือนราเมนจะยังติดใจและไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ “พรุ่งนี้คุณอยากกินอะไรคุณต้องการอาหารแบบไหนก็ยกหูโทรศัพท์แล้วแจ้งไปที่ room service ได้เลย” รามิลเอ่ยขึ้น บาลิกาวางช้อนลงเธอกินอาหารในจานจนหมดและคิดว่าเขาก็คงแอบยิ้มเยาะเพราะรู้ว่าเธอคงหิวมากแน่ ๆ หญิงสาวหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปากและพูดโดยไม่มองหน้าเขา “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันกินได้ทุกอย่าง แล้วแต่ว่าคุณจะจัดอาหารแบบไหนมาให้ฉันก็แล้วกัน” “เห็นไหมว่าผมให้เกียรติคุณมากแค่ไหน บอกแล้วยังไงว่าคุณเป็นแขกของผม ถ้าคุณต้องการอะไรผมจะจัดหามาให้” “คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร คุณแกล้งมาทำดีแล้วก็พูดให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองมีเกียรติทั้ง ๆ ที่คุณไม่เคยให้เกียรติฉันตั้งแต่แรก” คราวนี้เธอหันมาจ้องหน้าเขาตรง ๆ หากแต่รามิลกลับยิ้มให้ เป็นยิ้มที่บาลิกาก็รู้ว่าเขากำลังเย้ยหยันเธอ “ผมว่าคุณไม่ควรจะมากังวลเรื่องแบบนี้นะ มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มากเกินไปและผมคิดว่าคุณเองน่าจะไม่ใส่ใจมันตั้งแต่แรก” “ฉันไม่ใช่เด็กนะคะคุณรามิลที่จะไม่นึกถึงเรื่องอะไรเลยโดยเฉพาะเวลาที่คุณมองฉัน คำพูดของคุณทุก ๆ อย่างมันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลยนะ” “ผมอยากให้คุณรู้สึกว่าการมาอยู่ที่นี่เหมือนอยู่บ้านของตัวเอง” “ฉันไม่มีวันรู้สึกแบบนั้นได้หรอกค่ะในเมื่อพี่ชายของฉันเป็นลูกหนี้ของคุณและสิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่รอคอยอิสรภาพ รอคอยว่าเมื่อไหร่คุณจะปล่อยฉันไป” “ผมว่าเราอย่ามาพูดเรื่องที่จะทำให้เรายิ่งเครียดมากไปกว่านี้จะดีกว่านะ ผมแค่อยากรู้ว่านอกเหนือจากอาหาร 3 มื้อแล้วคุณยังต้องการอะไรอีกบ้างไหมนอกจากนี้” หญิงสาวนิ่งไปชั่วครู่ก่อนตอบ “ฉันต้องการโทรศัพท์ คุณทำโทรศัพท์ของฉันพัง” “คุณอาจจะติดต่อคนที่คุณรู้จักหรือติดต่อใครก็ได้โดยใช้โทรศัพท์มือถือของผม” “คุณทำแบบนี้ฉันถือว่าคุณกำลังลิดรอนอิสรภาพของดิฉันอยู่นะ ถ้าคุณจริงใจคุณก็ต้องหามือถือเครื่องใหม่มาให้ฉัน ให้ฉันใช้โทรศัพท์ของคุณก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้ให้เสรีภาพในการคิดและตัดสินใจกับฉันเลย” “ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกันว่าที่ทำแบบนี้เพราะผมต้องการควบคุมพฤติกรรมของคุณ อยากให้ผมพูดตรง ๆ ผมก็ไม่อ้อมค้อมนี่ไง” พอเขาพูดแบบนั้นแถมจ้องหน้าเธอเขม็งทำให้บาลิกาถึงกับกดเกร็งไปทั้งตัว ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรกับนักโทษเลยจริง ๆ ดูเหมือนว่ารามิลจะพยายามตีกรอบชีวิตของเธอทุกอย่าง เขาคงเจ็บแค้นเรื่องน้องชายของเขามากถึงได้คิดจะเอาคืนกับเธอและพี่ชายอย่างสาสม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วหญิงสาวจึงต้องเก็บกลืนทุกอย่างเอาไว้ในใจ ถ้าหากเธอโต้เถียงเขาออกไปก็อาจจะทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ยิ่งบานปลายก็เป็นได้ หากแต่การนิ่งเงียบของบาลิกาดูเหมือนว่าไม่ช่วยอะไรเพราะสักครู่หลังจากนั้นรามิลก็ขยับตัวลุกขึ้น เขาถอดชุดสูทออกและคลายหัวเข็มขัด ชายหนุ่มแกะกระดุมเสื้อลงมา 2-3 เม็ดขณะที่หญิงสาวมองการกระทำของเขาด้วยความสับสนใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD