บทที่ 3 ปล่อยข่าว
ก๊อก ๆ
"ไส้เทียนลูกอยู่ไหม"
เสียงเคาะประตูเรียกความสนใจของไส้เทียนให้ขยับตัวลุกเดินไปเปิดประตู เขาพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด เมื่อประตูเปิดออกก็พบกับหญิงวัยกลางคน แม้ว่าจะอายุ 50 แล้วแต่ยังคงดูอ่อนเยาว์
ผู้เป็นมารดามองลูกชายด้วยความคิดถึง เธอไม่คิดเลยว่าลูกชายจะยอมกลับมาบ้านด้วยตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้โกรธผู้เป็นพ่อมาก
"คุณแม่ สวัสดีครับ"
"จ้ะ ลงไปทานข้าวกันเถอะ"
ไส้เทียนยิ้มก่อนจะเดินตามผู้เป็นมารดา พอมาถึงห้องอาหารก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นชายวัยกลางคนนั่งอยู่หัวโต๊ะ เขามองไปทางพี่ชาย ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายส่งสายตาขอโทษมาให้ นอกจากผู้เป็นบิดาและพี่ชายแล้ว ก็ยังมีน้องชายด้วย น้องชายของไส้เทียนอายุ 22 ปี ชื่อ น่านฟ้า ลูกชายคนโตกับลูกชายคนเล็กหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่เหมือนบิดา พอตัดภาพมาที่ร่างตัวเองไส้เทียนก็ถอนหายใจ ขนาดน้องชายยังตัวสูงกว่าตั้ง 1 ไม้บรรทัดเลย น่าอนาถอะไรขนาดนี้
บรรยากาศภายในห้องอาหารมาคุ แม้ว่าพี่ชายน้องชายจะส่งยิ้มมาให้ แต่คนที่ทำให้บรรยากาศดูอึดอัดคือบิดา จนทำให้คนเป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจ ลูกกลับมากินข้าวด้วยแท้ ๆ ยังทำหน้าเหมือนไม่ชอบใจ ทั้งที่ปกติชอบชะเง้อหาแท้ ๆ ไม่รู้จะปากแข็งถือทิฐิไปทำไม
"อย่าไปสนใจพ่อเลยไส้เทียน ทานนี่ดีกว่า"
"ครับ"
บรรยากาศเงียบสงบ ดูเหมือนว่าภารกิจเชื่อมความสัมพันธ์จะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ จนกระทั่งจบมื้ออาหารก็ยังไม่มีท่าทีดีขึ้น ไส้เทียนมองตามผู้เป็นบิดาที่พอรับประทานเสร็จก็เดินหายขึ้นไปด้านบน
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นครับพี่"
ไส้เทียนถอนหายใจ ก่อนจะมองไปที่น้องชาย แม้ว่าน่านฟ้าจะเป็นน้องชาย แต่เวลาอยู่ด้วยกันให้ความรู้สึกเหมือนน่านฟ้าเป็นพี่มากกว่า ก็ทำยังไงได้ รูปร่างภายนอกมันให้ความรู้สึกแบบนั้น
"จะอะไรซะอีกล่ะ เรื่องพ่อน่ะสิ"
กัปตันเอ่ยขึ้น ไส้เทียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ภายในห้องนั่งเล่นตอนนี้มีเพียง 3 พี่น้องกับผู้เป็นมารดาเท่านั้น
"ลูกไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวแม่ไปคุยเอง พวกลูกก็คุยเล่นกันไปก่อนนะ"
ไส้เทียนพยักหน้า มองผู้เป็นมารดาเดินขึ้นไปชั้นบน หลังจากนั้นจึงกลับมาสนใจสองพี่น้อง
"แล้วแฟนพี่ล่ะ"
น่านฟ้าเอ่ยถามตรง ๆ เขาไม่ได้ต้องการตอกย้ำพี่ชาย แต่เรื่องข่าวการแต่งงานมันโด่งดังจนแทบไม่มีใครไม่รู้
"พี่เลิกไปแล้ว"
"จริงเหรอ!"
กัปตันพูดอย่างตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดีใจ เขาดีใจที่ในที่สุดน้องชายก็หลุดพ้นจากผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ทั้งที่ตอนแรกทำท่ารักน้องชายเขาดี จนทำให้น้องชายเขาทะเลาะกับพ่อ แต่มันกลับไปแต่งงานกับไอ้ดาราหน้าขาว
"ดีแล้วครับพี่ อย่าไปยุ่งกับพวกมันเลย ผู้ชายแบบนั้นไม่ต่างจากหมา"
น่านฟ้าพูดขึ้น นอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่มีใครในบ้านรังเกียจไส้เทียนเรื่องชอบผู้ชายเลย ขอแค่คนที่ไส้เทียนชอบเป็นคนดี พวกเขาก็ยินดีต้อนรับเสมอ แต่ไม่คิดว่าคนที่เลือกจะกลายเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ปลิ้นปล้อน คบกับคนหนึ่งอยู่ แต่กลับไปแต่งงานกับอีกคน
"เข้าใจแล้ว"
ถึงแม้จะไม่ได้ยุ่ง แต่ดูท่าจะยังไม่สาแก่ใจนายเอก เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากนี้มันจะทำยังไง ถ้าเขาไม่เต้นไปตามแผนการ ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้อาลัยอาวรณ์กับดินแดนแล้ว แต่เขาจะต้องแก้แค้นให้สาสมกับสิ่งที่พวกนั้นทำ ตอนนี้หลักฐานทุกอย่างยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแชต หรือรูปภาพ ถ้าเข้าร่างไส้เทียนช้ากว่านี้หลักฐานพวกนี้คงจะถูกลบไปทั้งหมด แล้วเขาก็จะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
สามพี่น้องนั่งพูดคุยกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่น ส่วนมากเป็นการถามสารทุกข์สุกดิบ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกผ่อนคลายมากขนาดนี้ จนกระทั่งดึกมากแล้ว ทั้งสามก็แยกย้ายกันขึ้นห้อง ระหว่างที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงเขาก็นึกถึงแผนการทำให้พ่อหายโกรธ แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายก็เถอะ แต่เขาจะทำมันสำเร็จให้ได้
ก่อนนอนไส้เทียนจึงรวบรวมหลักฐานบางส่วนส่งไปให้สำนักข่าวแบบไม่ระบุตัวตน แม้จะเป็นหลักฐานเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็พอที่จะสร้างข่าวลือในทางไม่ดีให้กับเอกได้อย่างแน่นอน
เขาไม่เหยียบให้พวกมันจมดินในครั้งเดียวหรอก!
ปั้ก!!
"นี่มันเรื่องบ้าอะไร!"
ผู้จัดการตบโต๊ะปังด้วยความโมโห แล้วยื่นโทรศัพท์ให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามดู ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเมื่อรับมาแล้วเห็นหัวข้อข่าวตัวใหญ่เต็มหน้าจอ
เมื่อรับโทรศัพท์มาก็เจอกับหัวข้อข่าวขนาดใหญ่
ข่าวฉาวดาราหน้าใหม่ อ มีข่าวลือว่าเป็นชู้!?
นอกจากพาดหัวข่าวขนาดใหญ่แล้ว รายละเอียดของเนื้อหาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ถึงบางส่วนจะถูกตีไข่เพิ่ม แต่มันก็ดึงดูดความสนใจไม่น้อย ภาพประกอบที่ปรากฏในเนื้อข่าวเป็นภาพถ่ายสองภาพ ที่ถูกถ่ายในระยะเวลาใกล้เคียงกัน เพราะผู้ชายคนหนึ่งในรูปยังสวมชุดเดียวกันอยู่ ภาพแรกเป็นภาพเซลฟีคู่ ส่วนอีกภาพถูกแอบถ่ายจากระยะไกล เห็นทั้งสองกำลังเดินเข้าโรงแรมด้วยกัน แม้ใบหน้าจะถูกเบลอไว้ แต่ก็เดาออกไม่ยากว่าเป็นใคร
ขึ้นชื่อว่าข่าวฉาว ก็ต้องเป็นที่สนใจของชาวเน็ตอย่างล้นหลาม ผ่านไปเพียงไม่นานก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ
: ข่าวมั่ว
: นักข่าวไม่มีจรรยาบรรณเลย ลงข่าวมั่วเพื่อเรียกความสนใจ
: ไม่มีทางที่ อ จะเป็นคนแบบนั้นหรอก
: แหม พวกแฟนคลับทั้งหลาย ถ้าไม่มีมูลจะมีข่าวได้ยังไง ไม่ชอบดาราคนนั้นมานานแล้ว รู้สึกเหมือนกำลังแอ๊บแสดงละครอยู่
: อะไรยังไง รอฟัง
"แล้วพวกนักข่าวเอารูปภาพมาจากไหน"
เอกขมวดคิ้ว เขามีประวัติขาวบริสุทธิ์มาตลอด 1 ปี จู่ๆ ก็ถูกเอามาลงข่าว แถมยังพาดหัวข่าวเรื่องชู้สาวด้วย แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มันกระทบกับชื่อเสียงอย่างมาก
"เฮ้อ เดี๋ยวลองปิดข่าวไปก่อน"
ผู้จัดการพูดพลางถอนหายใจ แม้ว่าจะรู้ความจริงว่ามันเป็นไปตามข่าวก็เถอะ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ถ้าเอกดับ เขาก็ต้องหางานใหม่ ในขณะที่เอกกัดฟันกำโทรศัพท์แน่น
ดินแดนก็มารับหลังถ่ายงานเสร็จตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือท่าทีเหม่อลอยของแฟน นั่นทำให้เอกยิ่งไม่พอใจ ดินแดนต้องกำลังคิดถึงไอ้เด็กไส้เทียนแน่ ๆ ทั้งที่ไม่อยู่แล้ว แต่มันยังทำให้ดินแดนคิดถึง ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ต้องไม่ดีแน่ ๆ
แววตาของเอกแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ก่อนจะกระตุกยิ้ม ขอแค่เขาทำให้ดินแดนเกลียดไส้เทียน ทุกอย่างมันก็ลงตัวแล้ว จะมาโทษเขาก็ไม่ได้ ไส้เทียนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง
ไส้เทียนกำลังทำอาหารอยู่ในครัวภายในคฤหาสน์อย่างมีความสุข หลังจากได้ปั่นหัวนายเอกไปเล็กๆ น้อยๆ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น
"หอมจัง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรครับ"
ไส้เทียนยิ้มให้พี่ชาย มื้อเย็นนี้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเป็นเมนูโปรดของพ่อทั้งหมด
"พี่ว่าพ่อจะหายโกรธผมไหม"
ไส้เทียนว่า ระหว่างนั้นก็ตักอาหารใส่จานเตรียมรอไว้ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้องครัว
"หายโกรธอยู่แล้ว" มือใหญ่วางบนหัวทุยพลางเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ความหล่อเหลาทำให้ไส้เทียนตาพร่า
โอ้ว! พี่ชาย น่าเสียดายที่คนหน้าตาหล่อขนาดนี้เป็นพี่ชาย!! ฟ้าช่างไม่เป็นใจ
แม้ว่าก่อนหน้านี้สิงโตจะเป็นหนุ่มกล้ามตัวใหญ่ แต่จิตใจของเขาเป็นฝ่ายรับ 100% นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาอายุ 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังโสดและซิงอยู่ ช่างเป็นชีวิตที่น่าอนาถ! โธ่ ชีวิต
อาหารเย็นวันนี้บรรยากาศดูผ่อนคลายมากกว่าเมื่อวาน คงเพราะผู้เป็นมารดาเอ่ยสาธยายว่าอาหารมื้อนี้ไส้เทียนตั้งใจทำขนาดไหน แม้ว่าผู้เป็นพ่อจะมีสีหน้าราบเรียบเหมือนเดิมก็ตาม
"อร่อยไหมครับ"
ไส้เทียนมองลุ้นระทึก ผู้เป็นพ่อเพียงเหลือบตามอง พอเห็นแววตาใสซื่อออดอ้อนของลูกชายก็ใจกระตุก นึกไปถึงสมัยที่อีกฝ่ายยังเป็นลูกชายตัวน้อยที่เขาอุ้มไว้ในอ้อมแขน
"ก็ดี"
ไส้เทียนยิ้ม ต่อให้พยายามทำหน้านิ่งแค่ไหนเขาก็แอบเห็นว่าชายวัยกลางคนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ แหม ช่างเป็นพ่อที่ปากแข็งจริงๆ
เพียะ
"โอ๊ย"
"คุณนี่ไม่น่ารักเลย ลูกอุตส่าห์ทำอาหารให้แทนที่จะพูดดี ๆ!"
เสียงหัวเราะดังขึ้น สามพี่น้องสบตากันหวนนึกไปถึงบรรยากาศเมื่อก่อน ตลอด 3 ปีที่ไส้เทียนออกจากบ้านไป บ้านก็ไร้เสียงหัวเราะพ่อก็ทำงานหนักมากขึ้น ส่วนน่านฟ้าที่เข้ามหาวิทยาลัยก็กลับบ้านแค่นาน ๆ ครั้ง ทำให้ความสดใสของที่บ้านหายไป ไม่คิดว่าวันนี้จะมีบรรยากาศครอบครัวอีกครั้ง