4.ใช้ได้ที่ไหนกัน

1750 Words
หมิงหลันปรายตามองหน้าของหลี่เจ๋อฮั่นเมื่อเขากล่าวจบ ที่ท่านเจ๋อฮั่นกล่าวมา นั่นก็ไม่เกินความจริง เพราะว่าใบหน้าของท่านเจ๋อฮั่นเหมือนท่านจอมมารอยู่หลายส่วน “ท่านเจ๋อฮั่นเก็บใบหน้าอันล้ำค่าของท่าน เอาไว้ให้สตรีที่ท่านรักสัมผัสเถอะเจ้าค่ะ ข้ามิควรจะแตะต้องใบหน้าที่หล่อเหลาของท่าน” “ในเมื่อรู้ว่าหล่อเหลาแล้วเหตุใดถึงไม่หวั่นไหว ข้าดีไม่พองั้นหรือ?” หมิงหลันยกยิ้ม นางยกมือขึ้นมาวาดในอากาศฝนดอกไม้พลันตกโปรยปรายลงมาเบาๆ หมิงหลันเก็บดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาไปประดับในแจกันอย่างปราณีต “ในหัวใจของข้ามิอาจปันไปให้ผู้ใดได้อีกแล้ว กว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาข้าหลงรักท่านเจ๋อเชี่ยนจนเต็มหัวใจ วันนี้ได้มีวาสนาเข้ามาอยู่ใกล้เขาถึงเพียงนี้ ก็ถือว่าข้ามีความสุขมากแล้ว..” เป็นครั้งแรกที่เจ๋อฮั่นรู้สึกอิจฉาท่านพี่ หมิงหลันสารภาพรักท่านพี่ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ยามที่นางกล่าวคำว่าจอมมารออกมาจากริมฝีปากบางนั้น ใบหน้าของนางจะมีความสุข ที่นางบอกว่าหลงรักท่านพี่…เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง แต่คนเช่นเขาหาใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เวลาที่เก็บลูกท้อ เขาจะเก็บแต่ลูกที่อยู่บนสุดเท่านั้น เพราะการได้มากอย่างยากลำบาก มันถึงคู่ควรกับคนอย่างเขา “จะว่าไปเจ้าสามารถไปที่ห้องของท่านพี่ได้นะ ในคืนนี้” ใบหน้างดงามฉายแววดีใจ ดวงตาของหมิงหลันเป็นประกายขึ้นมาในทันที “จริงหรือเจ้าคะ หากว่าข้าเข้าไปในนั้นมิใช่ว่าจะถูกท่านจอมมารไล่ออกมา..” “หากว่าท่านพี่ไล่ ก็แค่เดินออกมา เขามิกล้าจะทำร้ายเจ้าหรอกน่า แต่หากว่าเขาไม่ไล่เจ้าออกมามันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงไม่ใช่รึไง?” ตามคำกล่าวของท่านเจ๋อฮั่น มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงจริงๆ เพียงแค่นางได้เข้าไปในห้องของท่านจอมมาร เท่านั้นก็คุ้มค่าแล้ว!! “หากว่าเจ้าตกลง เช่นนั้นตอนหัวค่ำ ข้าจะมารับ” หมิงหลันพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าตกลง ในใจพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกมากมายก่อเกิดเป็นความคาดหวังขึ้นมา เพียงแค่ได้พบหน้าเขา..แค่ให้ดวงตาสีนิลของเขาจับจ้องมาที่นางเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ตอนเย็นท่านเจ๋อฮั่นมารับพร้อมกับชุดในมือ “ใส่ชุดพวกนี้สิ ชุดธรรมดาเช่นนั้นจะดึงดูดใจของท่านพี่ได้อย่างไรกัน” หมิงหลันก้มมองชุดที่สวมอยู่ นางอุตส่าห์เลือกชุดที่งดงามที่สุดตั้งครึ่งค่อนวัน แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยื่นมือไปรับชุดในมือของท่านเจ๋อฮั่นมาเปลี่ยน ให้ตายเถอะ!! นี่มันชุดอันใดกัน? บางเช่นนี้จะเดินออกจากห้องไปได้อย่างไร!! “หมิงหลันเจ้าลืมเสื้อคลุม!” เจ๋อฮั่นพาดเสื้อคลุมเอาไว้ที่ฉากกั้น มือที่สั่นเทาด้วยความอับอายของหมิงหลันรีบคว้าเสื้อคลุมมาใส่ทันที ค่อยยังชั่วที่เสื้อคลุมนี้สามารถคลุมร่างของนางได้มิด หมิงหลันเดินออกมาด้านนอกก็พบท่านเจ๋อฮั่นที่ยืนส่งยิ้มให้ ในมือของเขาถือโคมไฟกระดาษเอาไว้ “เราต้องรีบแล้ว พี่ใหญ่กำลังจะกลับ…” เขาพานางเดินมาด้านหลังของตำหนักท่านจอมมาร พอเปิดประตูไม้เข้าไปก็พบห้องขนาดใหญ่ที่มีเตียงและโต๊ะทำงานพร้อมทั้งม้วนตำรามากมาย หมิงหลันยืนอยู่หน้าเสื้อคลุมที่ท่านจอมมารแขวนเอาไว้ เธอยกมือขึ้นไปจับที่แขนเสื้อก่อนจะยกขึ้นมาแนบที่ใบหน้าอย่างรักใคร่ ห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของท่านจอมมาร เสื้อคลุมตัวนี้ท่านจอมมารก็ต้องใส่บ่อยแน่ๆ เลยเขาจึงมาแขวนเอาไว้เช่นนี้ หมิงหลันหลับตาลงพร้อมทั้งโอบกอดเสื้อคลุมอย่างมีความสุข “นั่นเจ้ากำลังทำอะไร?” “ขอเวลาให้ข้าสักพักนะเจ้าคะ ข้าเพียงอยากได้กลิ่นของท่านหลี่เจ๋อเชี่ยน…” “นั่นเสื้อคลุมท่านพ่อข้า จะมีกลิ่นพี่ใหญ่มาจากไหน!!” เจ๋อฮั่นยกมือขึ้นมาปิดปากก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดัง หมิงหลันปล่อยเสื้อคลุมตัวนั้นด้วยความตกใจ นางเม้มปากแน่นอย่างเขินอาย “ฮะ..ฮ่า ดูเจ้าทำหน้าเข้า!! ข้าหลอกเล่น เป็นเสื้อคลุมของพี่ใหญ่จริงๆ นั่นแหละ ฮะฮ่า!” หมิงหลันวิ่งเข้าไปหาเจ๋อฮั่นก่อนจะตีที่แขนของเขาอย่างแรง “ท่าน!! กล้าหลอกข้า!” “ฮะ..ฮ่า โอ๊ย!! เจ้ากล้าตีข้างั้นเรอะ!!” เจ๋อฮั่นดึงหมิงหลันเข้ามาในอ้อมกอด เขาถือโอกาสนี้พาเธอล้มลงไปบนเตียง ตอนนี้กลายเป็นเขาคล่อมทับเหนือร่างของนางอยู่ อ่า..นี่มันออกจะน่าหงุดหงิดเกินไปสักหน่อย ตรงที่สายตาและใบหน้าของหมิงหลันไม่มีแววของความหวั่นไหวหรือหัวใจเต้นแรงกับการกระทำของเขาเลย ทั้งๆที่เราใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้ บนใบหน้าที่งดงามของนาง..มีเพียงแววตาของความไม่พอใจเท่านั้น ด้วยประสบการณ์เรื่องสตรีที่โชกโชนของเจ๋อฮั่น เขารู้ดีว่าควรจะล้ำเส้นแค่ไหน…เขาลุกขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้หมิงหลัน “ข้าขอโทษ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปชมดอกท้อดีไหม?” ใบหน้าของหมิงหลันพลันอารมณ์ดีขึ้นมาทันที นางพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา “เอาล่ะ ตอนนี้ข้าควรจะออกไปได้แล้ว ถอดเสื้อคลุมมาสิ” แววตาของหมิงหลันมีความลังเล เพราะชุดด้านในมันบางมากๆ หากว่าเธอถอดเสื้อคลุมออก มันก็จะ…อีกทั้งหลี่เจ๋อฮั่นอาจจะเห็นส่วนที่ไม่สมควรให้เขามองเห็นอีกด้วย “ซุกตัวลงไปในผ้าห่มแล้วถอดเสื้อคลุมออกมา พี่ใหญ่ไม่มีทางที่จะไล่เจ้าออกจากห้องในสภาพเช่นนี้หรอกน่า…” หมิงหลันนั้นยังอ่อนประสบการณ์เรื่องเช่นนี้ นางจึงยอมถอดเสื้อคลุมออกส่งให้เจ๋อฮั่น เขายื่นมือมารับเสื้อด้วยรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจ ก่อนจะเดินจากไป มือของหมิงหลันกำผ้าห่มเอาไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น หัวใจของนางมันกำลังเต้นแรงอีกทั้งเตียงนี้ก็มีแต่กลิ่นของท่านจอมมารเต็มไปหมด.. เจ๋อเชี่ยนเดินเข้ามาในห้องนอน เขาพึ่งจัดการเรื่องเขตแดนของเผ่ามารและเมืองมนุษย์ที่มีปัญหากันเสร็จเรียบร้อย และวันนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของเขามันจะเหนื่อยมากๆ แต่ทว่าท้าวที่กำลังก้าวเดินของหลี่เจ๋อเชี่ยนพลันหยุดลง เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกไม้ที่หอมหวานและคุ้นเคยอยู่พอสมควร พอเขาปรายตามองไปที่เตียง ก็เป็นเช่นที่เขาคิดเอาไว้ “ข้ามิคิดว่าเจ้าควรจะเข้ามาที่นี่…” หมิงหลันยกยิ้ม ในตอนนี้เธอนั้นมิได้สวมชุดคลุมด้านนอก เธอสวมเพียงเสื้อด้านในตัวบางเท่านั้น “ข้าลงมาจากสวรรค์ก็เพื่อให้กำเนิดลูกของท่าน…” หลี่เจ๋อเชี่ยนเลิกคิ้วมองไปที่ใบหน้าของสตรีที่กล่าวเรื่องพวกนั้นออกมาโดยมิมีท่าทีกระดากอาย “มิใช่วันนี้ เราจะร่วมหอกันในวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ส่วนวันอื่นข้าจะไม่แตะต้องเจ้า” หมิงหลันมองที่ใบหน้าของท่านจอมมารอย่างไม่พอใจ “วันพระจันทร์เต็มดวงกว่าจะถึงก็อีกนานหลายเดือน แถมหนึ่งปีมีเพียงไม่กี่ครั้ง เรื่องพวกนี้หากมิทำบ่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ข้าถึงจะให้กำเนิดลูกของท่านได้” ไม่ว่าอย่างไร หมิงหลันก็จะลองเอาแต่ใจดูสักหน่อย เพราะท่านเจ๋อฮั่นบอกกล่าวเอาไว้แล้วว่าท่านจอมมารไม่มีทางทำร้ายนางอย่างเด็ดขาด “ข้าจะมิพูดซ้ำ..กลับห้องของเจ้าไปเสีย” หมิงหลันกำมือแน่น นางลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความโมโห ดวงตาของหลี่เจ๋อเชี่ยนพลันเข้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่เขาเห็นชุดที่เทพบุปผาสวมมา ใบหน้าของเขาก็นิ่งอึ้งราวกับกำลังทำอะไรไม่ถูก เป็นอย่างที่ท่านเจ๋อฮั่นบอกเอาไว้จริงๆ ด้วยสินะ…ว่าชุดนี้มันมีประโยชน์ ท่านจอมมารโยนเสื้อคลุมของเขาให้คลุมทับร่างของหมิงหลันเอาไว้ “นี่เจ้าเดินมาในสภาพที่สวมชุดเช่นนี้งั้นหรือ?” หมิงหลันส่ายหน้า “ตอนที่ข้าเดินมาท่านเจ๋อฮั่นมาส่งเจ้าค่ะ…” ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้าระรื่นของท่านเจ๋อฮั่น “ขออภัยท่านพี่ด้วย ข้าลืมของเอาไว้ที่นี่…” “เจ้าควรจะทำตัวให้เหมาะสมกับเทพบุปผาไป๋หมิงหลันด้วย!!” เขารู้ถึงนิสัยเรื่องสตรีของเจ๋อฮั่นดีว่าเจ้าน้องชายตัวดีคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องสตรีมากแค่ไหน “….หากจะนับกันจริงๆ นางยังมิได้เป็นภรรยาของท่านพี่ด้วยซ้ำ นางคือเทพบุปผาที่ลงมาเพื่อให้กำเนิดองค์รัชทายาทของเผ่าจอมาร ใครจะไปรู้นางอาจให้กำเนิดลูกของข้าก็ได้!!” “เจ๋อฮั่น!!” หลังจากนั้นท่านจอมมารก็ไล่ท่านเจ๋อฮั่นออกไป ตอนนี้ในห้องก็เลยเหลือเพียงเธอและเขา “เจ๋อฮั่นมิใช่คนที่เจ้าควรยุ่งเกี่ยว หากว่าเด็กที่เจ้าให้กำเนิดคือลูกของเจ๋อฮั่นมันก็จะไร้ประโยชน์ เพราะข้าก็จะต้องไปพาตัวเทพบุปผาคนใหม่มาให้กำเนิดลูกของข้า….” “เช่นนั้นแล้วท่านก็ควรจะร่วมหอกับข้าสิเจ้าคะ เหตุใดท่านถึงต้องรอเวลาวันพระจันทร์เต็มดวงที่เนิ่นนานเช่นนั้น….” “เจ้า คือเทพบุปผาที่เดินทางมาให้กำเนิดลูกของข้า หน้าที่ของเจ้ามีเพียงเท่านั้น ข้ามิใช่สามีของเจ้า และเจ้าก็มิใช่ภรรยาของข้า!! การแอบเข้ามาให้ห้องของข้าเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD