Chapter 17 ก็แค่คู่นอน
“ขอบคุณนะพี่สน เอากับข้าวมาฝากอีกแล้วหรือคะ?” ใบหน้าสดสวยเปื้อนยิ้มทักทายชายร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตสีขาวกางเกงแสล็คสีดำ ครอบครัวของชายหนุ่มแต่งตัวดีมีภูมิฐาน ต่างคนหยุดยืนอยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ มีผู้คนนุ่งขาวห่มขาวและฆราวาสมากหน้าหลายตาเดินลงจากบันไดสูงชัน หลังมานั่งฟังเทศก์สวดมนต์กันในตอนเช้า
“พี่พาพ่อแม่มาทำบุญอยู่แล้วครับแม่ชี เดี๋ยวจะไปถวายสังฆทานกัน ขับรถผ่านทางบ้านยายราตรี เลยแวะเอาปิ่นโตมาฝาก”
“ขอบคุณมากนะคะ ทางนี้เพิ่งทำวัตรเช้าเสร็จ กำลังจะกลับกุฏิชีพอดี”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าคงเดินไปส่งไม่ได้นะ มันจะไม่งาม” พูดพลางยิ้มอ่อนมองวงหน้าหวาน ขณะที่คุณพ่อคุณแม่เดินเลี่ยงไปให้ทั้งสองได้คุยกัน กันยนาคงไม่รบกวนให้ใครต้องเดินไปส่ง มืออุ้มปิ่นโตไว้ ยังนึกถึงน้องสาว
“ชีว่าจะรบกวนพี่เป็นธุระเรื่องยัยแก้ว เพิ่งมาอยู่เมืองไทยคงไม่ชิน ฝากดูแลด้วยนะคะ”
“พี่ดูแลน้องให้อยู่แล้ว ตอนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัท งานเยอะทุกวันสบายใจได้ ไม่มีเวลาไปเถลไถลที่ไหน”
แม่ชียิ้มบาง ยังเว้นระยะห่างจากชายหนุ่มไม่ให้น่าเกลียดในสายตาคนอื่น เรียกได้ว่ายืนห่างเอามาก ๆ จนต้องพูดคุยกันดัง
“คนนั้นเป็นเด็กดีมาตั้งนานแล้วค่ะ กลับบ้านดึกมากสุดคือปาร์ตี้ดินเนอร์กับเพื่อน ตอนเรียนเมืองนอกด้วยกัน ใคร ๆ ก็บอกว่ายัยกันเรียนเก่ง เรียนไปทำงานไปหาเงินแบ่งเบาภาระที่บ้าน”
“ฟังดูดีนะครับแต่พี่ว่าดื้ออยู่ ดื้อเงียบ หัวสูงเพราะว่าเคยลำบากมาก่อน เงินออกทีพี่เห็นไปช็อปปิงกับเพื่อน ไม่น่าจะอยู่ถึงสิ้นเดือนเห็นนั่งซดมาม่ากันเป็นแถว พี่เลยโทรคุมอยู่ครับ เอ๊ะ วันก่อนมาค้างกุฏิชีหรือเปล่า?”
แม่ชีขมวดคิ้วนิ่วหน้านึกไม่นาน “ออ เอาข้าวมาให้แล้วก็กลับนะคะ เอาเงินมาให้พี่สาวด้วย”
“ช่วงนี้ยายราตรีบอกพี่ว่าบ้านช่องไม่ค่อยกลับ ยังไงพี่จะคอยดูพฤติกรรมให้นะแม่ชี”
“ดีเลย ขอบคุณมากนะคะ ชีคงวางใจปฏิบัติธรรมได้เต็มที่”
“สาธุครับฝากบุญด้วย แม่ชีไม่ต้องเป็นกังวลนะ”
ไกรสรรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ด้วยแน่ใจว่าดูแลทั้งสองคนได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม ยิ่งธุรกิจฟาร์มเป็นงานครอบครัว โดยมีเขาเป็นลูกชายคนโตสุด มีอำนาจหน้าที่ให้การบริหารทั้งหมด คำว่าควบคุมพฤติกรรมลูกน้องในความดูแลคงไม่น้อยไป
กระทั่งสมควรแก่เวลา พูดคุยกันนานไปกว่านี้คงไม่เหมาะ เขาจึงยกมือประนมแนบอกอย่างนอบน้อม
“พี่ลานะครับแม่ชี”
“สวัสดีค่ะพี่สน เดินทางปลอดภัย ขอบคุณที่ไม่ลืมเรื่องยัยแก้วนะพี่สน ขอบคุณจริง ๆ”
แม่ชียกมือรับไหว้ลาด้วยรอยยิ้มระรื่น พอวางใจเรื่องน้องสาวไปได้เปราะหนึ่ง ก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายกันไป
หน้าโต๊ะทำงานไม้สักโบราณ ที่ปรึกษาสถาปนิกมีงานกองโตที่เขาจะต้องจัดการมันให้เสร็จ ทว่าพอแขกคนสำคัญมา เขาจึงบอกให้นั่งรอบนโซฟารับรองแขกในห้องทำงานของเขาเอง โดยมีนายคล้าวนำชากลิ่นหอมดอกกุหลาบที่ปลูกเองกับมือมาเสิร์ฟ
ชาร้อนอร่อยพร้อมคุกกี้เนยอยู่ในมือหญิงสาวที่นั่งนิ่งจิบชา มือกดโทรศัพท์มือถือไม่พูดตอบ ในเดรสสีขาวกระโปรงจีบรอบตัดกับกระเป๋าสีแดงงานแบรนด์เนมดัง เรียวขาขาวยกขึ้นพาดอีกข้าง นั่งไขว่ห้างบนโซฟาหลุยส์ตัวใหม่ด้วยมาดคุณนายหญิงใหญ่
“คุณกันเธอเป็นเจ้าสาวจระเข้ตามคำทำนายของพระครูไงครับ เลยมีอารมณ์แบบเดียวกันกับพี่ สักพักคงปรับตัวได้”
คนบอกความจริงคล้ายมีจุดประสงค์แอบแฝง นายคล้าวไม่ได้สนทนากับแขก แต่จงใจพูดคุยกับเจ้านาย
“ผมว่าเธออาจค่อย ๆ เปลี่ยนไป เริ่มจากพฤติกรรม แต่ถ้าเอ่อ... หัวร้อนแบบนี้รับรองว่าไม่ดีแน่ ผมว่าเธอน่าจะตกงานเป็นอันดับแรกครับ”
ในท่าทีอึกอัก หลายคนเพิ่งจะเห็นคนยิ้มหวานใจดีขายของเก่งโมโห กัญญาวีร์สามารถทำเสียงสูงปรี้ดถามอะไรคะ? ทำไมคะ? ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นคนไม่น่ารัก จนต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากไม่ให้ฟาดฝีปากใส่ใคร
นายจันถึงกับถอนหายใจ โดยไม่ได้มองหน้าตาหญิงสาวเลย เธอหน้าตาบึ้งตึงอยู่ไม่ไกล
“จริงของแก แล้วอีกอย่าง นอกจากเรื่องควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ควรมาลงที่ผัว คอยดูจะจับตีก้นเสียให้เข็ด”
“พี่... มีความสัมพันธ์ฉันผัวเมียกับเธอแล้วหรือครับ?”
“ก็ประมาณนั้น...”
บ่าวทำตาโต เสียงดังลั่น “ฮะ! ไวมากเลยนะครับ เพิ่งรู้จักกันเองนะ พี่เพิ่งเจอหน้าเธอไม่ถึงอาทิตย์... ล่อลวงเธอไปทำมิดีมิร้ายแล้วหรือครับ?”
“มาถามอะไรเรื่องใต้เตียง ผู้หญิงเขานั่งหัวโด่อยู่นี่ มารยาทน่ะมีไหม? เป็นถึงคุณพระแท้ ๆ” เจ้าของบ้านเพิ่งเงยหน้าจากเอกสารกองโตด้วยท่าทางเอาเรื่องเอาราว บ่าวนั่งลงกับพื้นยกมือประนมแนบอก
“ขอรับประทานโทษครับคุณหลวง วันหน้าวันหลังกระผมจะระวังกิริยามารยาทมากกว่านี้”
“ฉันอยู่ปีพุทธศักราชไหนล่ะนี่? ทั้งคุณพระคุณหลวง เอาเถอะ กันไม่ถือสาค่ะ แต่ว่าขออยู่กันตามลำพังได้ไหมคะ เลิกคุยเหน็บแนมกันซะที”
กัญญาวีร์รู้ตัวว่าโดนปั่นหัวจากบ่าวตัวดี ขณะนายคล้าวอยากพิสูจน์อะไรบางอย่างจึงลุกขึ้นก้าวมาหา ดวงตาคู่สวยมองตามหนุ่มหน้าใสที่จู่ ๆ ก็ทำหน้าตาตื่น
“อุ๊ย... คุณกันเหมือนจะมีเขี้ยวงอกออกมาเลยนะครับ ลองไปหัดแปลงร่างกระโดดน้ำกับผมดูไหม? อาจจะมีหางงอกออกมา ไม่ก็... อาจจะเป็นนางเงือกไปเลยนะครับ”
“กัน... เป็นนางเงือกได้หรือคะ? กันจะว่ายน้ำได้ไหม” เธอถามอย่างซื่อตรง กัญญาวีร์ชื่นชอบนิทานเรื่องเงือกสาวแสนสวยท่องมหาสมุทร ที่คุณตาคุณยายเล่าให้ฟังก่อนนอน บ่าวหนุ่มกลับทำลายความฝันเด็กน้อย แตกเป็นเสี่ยง ๆ
“ไม่น่านะครับ... เป็นเมียแอลลิเกเตอร์ก็ต้องกลายร่างเป็นตระกูลเดียวกัน หน้าดำปากแหลมก้นปอด หางกระปี้ดนึง แต่เรื่องว่ายน้ำน่ะเป็นแน่นอน”
“คุณคลาวด์… ไอ้คุณคล้าว!”
ใบหน้างามแดงก่ำ ก่อนที่เธอจะลุกพรวดจากโซฟา เงื้อมือขึ้นกลางอากาศทว่าคงไม่ทัน นายคล้าวรีบหนีไปอย่างว่องไวทิ้งเจ้านายยืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงในห้อง
“ไอ้นี่... ลาม...” ไม่ขาดคำดี ตาคมกะพริบครั้งหนึ่ง เพราะว่าเขาเพิ่งเห็น... หางสีขาว! มันหายวับไปต่อหน้าต่อหน้า นายจันไม่ได้ทักเจ้าตัวแต่แค่ยิ้ม
ตรงข้ามกันกับอีกคน กัญญาวีร์สะบัดหน้าพรืด กระแทกก้นนั่งลงที่เดิม กัดกรามกรอด ๆ ว่า
“ถ้าในมือฉันมีหวายนะ มันต้องลงหลังไอ้บ่าวปากบอน!”