เดียร์ Talk
แกร้ก~
ฉันใช้คีย์การ์ดแตะเข้าคอนโดตามปกติที่เคยทำ แต่หางตาเหลือบไปมองเห็นใครบางคนกำลังยืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ตรงบันไดหนีไฟ ท่าทางของผู้ชายคนนั้นดูมีพิรุธมากเลย และชั้นบนนี้มีแค่ไม่กี่ห้องและเท่าที่จำได้ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย
หลายวันมานี้ฉันรู้สึกแปลกๆ กับตัวเองมาก เหมือนมีใครคอยมองฉันอยู่ตลอดเวลาเลย แต่พอมองไปรอบๆ ตัวมันก็ปกติดีไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัยเลย แต่ความรู้สึกของฉันมันไม่ได้บอกแบบนั้น
ขวับ!
ผู้ชายคนนั้นเหลียงหลังมามองฉันแปลกๆ ฉันเลยรีบเข้าไปในห้องแล้วล็อคกลอนไว้อย่างแน่นหนา แต่ก็ยังไม่ได้เดินเข้าไปฉันมองอยู่ที่ตาแมวจะดูว่าผู้ชายคนนั้นเดินออกไปหรือยัง
ไม่นานผู้ชายคนนั้นก็เดินผ่านห้องฉันไปช้าๆ เขาใส่หมวกแก๊ปเดินก้มหน้าต่ำฉันเลยมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่คนท่าทางแบบนี้ฉันไม่เคยเห็นที่นี่มาก่อนเลยนะ
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ฉันหยิบโทรศัพท์โทรลงไปที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง อย่างน้อยๆ แจ้งพนักงานให้รู้ให้เขาส่งรปภ.ขึ้นมาตรวจดูอีกครั้ง จะได้อุ่นใจกันทั้งชั้นด้วย เจอแบบนี้ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ฉันเองก็ตัวคนเดียวอยู่คอนโดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย
( ได้เลยค่ะคุณเดียร์ เดี๋ยวทางเราจะให้รปภ.ขึ้นไปตรวจให้นะคะ ถ้าเจอผู้ชายตามที่คุณเดียร์บอกเราจะรีบจัดการให้เขาออกไปจากตึกเลยค่ะ )
“ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ”
( ยินดีค่ะ ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่ปล่อยให้คนนอกเข้าไปด้านในได้ )
คอนโดนี้เป็นคอนโดปิด ใครที่จะเข้าออกต้องเป็นเจ้าของห้องหรือมีการซื้อห้องคอนโดอยู่ที่นี่ แต่ถ้าจะมาหาเพื่อนต้องมีเพื่อนที่คอนโดลงมารับก่อนถึงจะอนุญาตให้ขึ้นไปได้
และการที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในคอนโดแบบนี้มันก็น่าสงสัยเหมือนกันแหละ ว่าผู้ชายคนนั้นจะมาทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า
แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยฉันก็แจ้งพนักงานไปเรียบร้อยแล้ว ห้องก็ล็อคกลอนด้านในอย่างแน่นหนาแล้วด้วย
ซ่า~
น้ำจากฝักบัวไหลรินรดตั้งแต่หัวฉันลงมาทันทีที่ฉันเปิดน้ำ มือเล็กยื่นไปกดสบู่เหลวมาถูไถตามร่างกายของตัวเอง กลิ่นหอมของมันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นทุกครั้ง ฉันชอบกลิ่นหอมจากพวกดอกไม้มาก ในห้องของฉันมักจะมีดอกไม้ใส่แจกันวางไว้ตลอดโดยเฉพาะดอกกุหลาบ สีแดง สีขาว สีชมพู ฉันชอบมาก
ปึก!
ฉันหยุดชะงักก่อนจะเลื่อนมือไปปิดน้ำฝักบัว ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีของอะไรหล่นจากด้านนอก ก่อนจะเข้ามาอาบน้ำฉันก็ไม่ได้วางอะไรไว้ตรงที่มันจะหล่นลงมาได้เลยนี่นา อีกอย่างที่นี่ไม่มีลมแน่นอนเพราะฉันไม่ได้เปิดระเบียง
มีคนข้ามาเหรอ? หรือของมันหล่นเอง แต่ห้องนี้ฉันอยู่คนเดียวนะไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลยสักตัว
“เอาวะ” ฉันหันไปหยิบผ้าขนหนูก่อนจะคว้าไม้เบสบอลที่ตั้งวางอยู่ข้างประตูห้องน้ำ พลางก้าวเดินไปอย่างช้าๆ ด้วยความกลัว ห้องนี้ก็เป็นห้องของฉันเองนะแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวได้ขนาดนี้ ตั้งแต่เห็นผู้ชายคนนั้นที่ตรงบันไดหนีไฟก่อนเข้าห้องมาแล้ว
พอออกมาฉันก็ไม่เจอใครเหมือนเดิม มีแต่นาฬิกาข้อมือของฉันที่หล่นอยู่บนพื้น แต่ฉันจำได้ว่าฉันเอาวางไว้บนโต๊ะอย่างดีนี่นาแล้วมันตกมาอยู่ที่พื้นได้ยังไง
“บ้าจริง สงสัยจะต้องติดกล้องวงจรปิดซะแล้วล่ะ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง หรือจะขายห้องนี้ทิ้งแล้วไปอยู่ห้องอื่นแทน แต่ห้องนี้ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเลยนะ ถ้ามีคนเข้ามาโดยที่ไม่ได้ใช้คีย์การ์ดมันจะมีเสียงกริ่งเตือนเป็นสัญญาณว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา
แต่ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ คงไม่มีอะไรหรอกหรือฉันวางไว้ไม่ดีเองก็ไม่รู้
“เฮ้อ…” ฉันถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน จากนั้นก็ไปนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
คลิ๊ก~ ( เสียงข้อความจากแชท )
คุณก้อง : นอนหรือยังครับคุณเดียร์
ฉัน : กำลังจะนอนแล้วค่ะ คุณก้องมีอะไรหรือเปล่าคะ
คุณก้อง : พรุ่งนี้ผมว่าจะชวนคุณเดียร์ไปทานอาหารกลางวันด้วยกันน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณเดียร์พอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า
ฉัน : ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าเดียร์มีประชุมงานพรุ่งนี้ยาวเลย คงไปไม่ได้
คุรก้อง : ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน
ฉัน : ( ฉันส่งสติกเกอร์รูปยิ้มไป )
คุณก้อง : ฝันดีนะครับ
ฉัน : ค่ะ
ฉันพิมพ์ข้อความสุดท้ายตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่หัวเตียงแล้วล้มตัวลงนอน ขนาดนี้แล้วเขายังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายแบบนี้ ไม่ว่าจะชวนไปไหนฉันก็จะปฏิเสธทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่าฉันติดงานหรือไม่ว่างแต่ฉันไม่อยากไปเลย
เขามันเป็นเพลย์บอยผู้ชายเจ้าชู้ฉันไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ และตอนนี้ฉันก็ยังไม่คิดที่จะมีใครด้วยถึงฉันจะมีอายุแล้วก็ตาม แต่การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้ทำให้ตายนี่นา
ฉันอยู่คนเดียวได้โดยที่ไม่มีใครเลย ฉันมีงานทำฉันมีเงิน ไม่เห็นจะต้องดึงใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเลยนี่นา ผู้ชายแต่ละคนที่เข้าหาฉันก็มีแต่พวกหิวเงิน บางคนมองว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงต้อยเด็กนักศึกษาหนุ่มๆ หล่อๆ เพราะบริษัทของฉันเปิดรับนักศึกษาฝึกงานใหม่เยอะ แต่ฉันก็มีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้
และอีกอย่างสเปคของฉันก็ไม่ใช่คนที่เด็กกว่าด้วย ฉันชอบคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวมีความคิดมีความรับผิดชอบเป็นที่หนึ่ง ชอบคนที่มีการวางแผนชีวิตล่วงหน้าว่าอายุเท่านั้นเท่านี้เราจะทำอะไรกันดี
เอาเป็นว่าฉันยังไม่เจอใครที่ถูกตาถูกใจเลย จะแก่จะแต่งงานอายุ30-40ก็ไม่แปลกเลย ฉันใช้เวลาช่วงวัยรุ่นเหลวไหลมาเยอะมากพอแล้ว ฉันเที่ยวเก่ง งานไม่ยอมทำกว่าจะมาเริ่มสร้างหลักปักฐานเป็นชิ้นเป็นอันได้ ก็อายุ20ปลายแล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเป็นคนที่ติดเที่ยวติดดื่มมาก ต้องได้ไปเที่ยวผับเที่ยวคลับทุกวัน ผิดกับพิงค์ที่วางแผนชีวิตตัวเองไว้ว่างหน้า แต่ตอนนี้มันก็อยู่ดีมีสุขแล้วล่ะไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้ว สมใจพ่อกับแม่มันแล้วล่ะอยากให้แต่งงานกับคนมีเงิน แต่ฉันก็ดีใจนะที่มีคนรักและเข้าใจพิงค์มันได้
นอกจากฉันที่เป็นเพื่อนสนิทก็ไม่รู้ว่ามีใครอีกหรือเปล่า ที่เข้าใจความรู้สึกของพิงค์กับการถูกบังคับมาตลอด
พิงค์คือเพื่อนสนิทของฉัน และมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป