ลมพัดกรรโชกแรง สายฟ้าแลบแปลบปลาบสักพักฟ้าก็ร้องคำราม พร้อมฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทักขินัยยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง ในใจก็คิดว่าตอนนี้พริบพันดาวจะไปอยู่ที่ไหน ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นถ้าตากฝนอีกเธอจะป่วยไหมนะ
" ทักคะ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน เข้ามาเถอะยืนตรงนั้นถูกละอองฝนเดี๋ยวไม่สบายนะ "
เขาโยนบุหรี่ทิ้ง แล้วเดินตามแรงจับจูงของบุษบงเข้าห้องไป บุษลงขึ้นคร่อมตัวเขาลูบไปที่เป้ากางเกง เขาปัดมือเธอออก
" คุณนอนเถอะดึกแล้ว นอนดึกไม่ดีต่อลูกในท้อง ผมเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน "
พูดจบก็เอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงแล้วหลับตานอน ไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจของบุษบง
แสงไฟจากเสาไฟฟ้า สาดส่องไปที่ร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่ป้ายรอรถ โทมัสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องหันกลับไปมอง
" จอดรถ "
เคิร์กเหยียบเบรคแทบไม่ทันเมื่อได้ยินคำสั่ง เขาไม่รู้ว่าโทมัสสั่งให้จอดทำไม ได้แต่ทำตามคำสั่งทันที โชคดีที่ดึกแล้วจึงไม่มีรถผ่านมาสักคันจึงจอดได้กระทันหัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีรถคันหลังชนท้าย
โทมัสเปิดประตูลงจากรถ สาวเท้าไปยังป้ายรอรถเมล์ เขายืนมองหญิงสาวตัวเล็กที่นอนคุดขู้หนาวสั่น ในใจเกิดความรู้สึกแปลกๆทั้งสงสารหดหู่ เธอเป็นใครทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ ถ้าหากเจอคนไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง
ตั้งแต่พ่อเขาตาย ก็สั่งให้เขาออกตามหาน้องสาวที่อยู่เมืองไทย เขามาที่เมืองไทยได้3เดือนแล้ว ส่งลูกน้องออกไปตามหาเบาะแสจนทั่วแต่ก็ไร้วี่แวว เขาเห็นเธอก็เลยอดคิดไม่ได้ ว่าถ้าน้องสาวของเขาอยู่ในสภาพแบบนี้จะปวดใจแค่ไหน
" คุณ คุณ "
เขาพยายามเรียกเธอ แต่กลับสัมผัสได้ว่าตัวของเธอร้อนเหมือนไฟ เคิร์กเดินมากางร่มให้
" คุณโทมัสครับผมว่าอย่ายุ่งกับเธอดีกว่า พวกคนเร่ร่อนไว้ใจไม่ได้ เธออาจจะเป็นนกต่อเรียกร้องความสงสาร บางทีพวกเธออาจจะซุ่มอยู่แถวนี้ แล้วเข้ามาทำร้ายมาปล้นเราก็ได้นะครับ "
โทมัสตวัดสายตามองดุร้าย
" เธอไม่สบายตัวร้อนจัด เธอจะเป็นนกอะไรได้ยังไง "
โทมัสอุ้มพริบพันดาวขึ้นมา ในอ้อมกอดมีตุ๊กตากระต่ายที่กอดเอาไว้แน่น เคิร์กรีบกางร่มให้โทมัสเปิดประตูรถให้ พอโทมัสพาเธอเข้าไปในรถเรียบร้อย เขาก็วิ่งกลับไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่ป้ายรถเมล์แล้วรีบขึ้นรถขับออกไป
พริบพันดาวลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล จึงรีบลุกขึ้นอย่างไว แล้วครุ่นคิดว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก็เมื่อคืนเธอจำได้ว่าฝนตกหนักจึงโบกรถ แต่ไม่มีคันไหนจอดรับเธอเลย เธอจึงได้แต่นั่งหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ คงเพราะตากฝนเลยทำให้ปวดหัวแล้วก็ไม่สบายขึ้นมาอีก
ประตูห้องถูกผลักออก เธอรีบหันไปดู ก็พบผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่น่าจะสูงราว185 ผมสีน้ำตาล นัยตาสีเทาอมฟ้า ผิวขาวจัด เขาสวมเสื้อเชิตสีขาวกางเกงสแลคสีดำ พริบพันดาวจ้องตาของเขา ดวงตาของเขาสวยมากมีเสน่ห์ดึงดูดดีจริงๆ เขาคงจะเป็นลูกครึ่ง แล้วก็คงเป็นคนที่พาเธอมาที่นี่
" ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง "
น้ำเสียงทุ้มนุ่มฟังดูอ่อนโยนเอ่ยถามเธอ เธอได้สติทำไม้ทำมือถามเขาว่าพาเธอมาส่งที่นี่เหรอ เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
" คุณพูดไม่ได้เหรอ "
พริบพันดาวพยักหน้าหงึกๆ โทมัสแสดงสีหน้าไม่ดี เธอคิดว่าเขาคงรังเกียจไม่ก็กำลังสมเพชเธออยู่แน่ๆ
" ผมเห็นคุณนอนอยู่ที่ป้ายรอรถ กลัวว่าจะมีอันตราย เลยจอดรถลงไปดู เห็นว่าคุณมีไข้เลยพามาส่งที่โรงพยาบาล "
เธอยกมือไหว้ขอบคุณเขา
" คุณจะให้ผมโทรหาญาติให้มาที่นี่ไหม "
เธอส่ายหน้า เขาเดาว่าเธอคงมีปัญหากับทางบ้าน ถึงได้มานอนอยู่ที่ป้ายรอรถแบบนั้น ก็ไม่คิดจะถามอะไรอีก เธอชี้ไปที่กะเป๋า เขาเดินไปหยิบส่งให้เธอ เธอพิมพ์ข้อความลงบนมือถือส่งให้เขาอ่าน
" ขอบคุณมากที่ช่วยฉัน ฉันไม่มีบ้านหรอกเมื่อก่อนฉันอาศัยอยู่กับคนอื่น แต่ตอนนี้ตกงานก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคืนฝนตกหนักเรียกรถคันไหนก็ไม่จอดรับ เลยหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์"
โทมัสมองหน้าเธอแล้วถามต่อ
" แล้วคุณไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องเหรอ"
พริบพันดาวพิมพ์ข้อความส่งให้โทมัสอ่าน
" พ่อกับแม่ฉันเสียไปนานแล้ว ฉันถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า จนอายุ18ก็มีคนมาอุปการะแต่พอท่านจากไป ฉันก็ไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นั่นอีก "
โทมัสรู้สึกเศร้าใจในชะตาชีวิตของเธอ เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างแผ่วเบาปลอบโยนเธอ พริบพันดาวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมือหนาคู่นั้น ได้แต่กระพริบตาปริบๆให้เขาลูบหัวของเธอ
รถแล่นเข้ามาจอดในเพ้นเฮ้าส์หรู พริบพันดาวลงจากรถมองไปรอบๆตัวเธอ ที่นี่หรูหรามากจริงๆ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อชายชุดดำนับสิบเดินตรงมา
" ไม่ต้องกลัวพวกนี้เป็นคนของพี่ "
โทมัสโอบกอดพริบพันดาวเข้าไปข้างใน เมื่อนั่งลงที่โซฟาเธอก็ชี้มือไปที่เขา ถามว่าทำไมถึงดีกับเธอแถมยังแทนตัวเองว่าพี่อีก
โทมัสเปิดมือถือส่งภาพชายคนหนึ่งให้เธอดูเธอพิจารณาดู ทำไมชายคนนี้คล้ายเธอจัง
" นี่เป็นพ่อของเรา "
พริบพันดาวอ้าปากค้างปฏิเสธว่าไม่ใช่พ่อของเธอ พ่อของเธอตายไปแล้วพร้อมกับแม่ แล้วเปิดมือถือเอาภาพพ่อกับแม่ให้เขาดู เขารับไปดูแล้วยิ้ม ก่อนบอกกับเธอ
"ในภาพนี้เป็นพ่อที่เลี้ยงพริบมา แต่ในภาพนี้เป็นพ่อที่ให้กำเนิดพริบ พริบไม่สังเกตุเหรอว่าพ่อในภาพนี้เหมือนพริบมาก "
พริบพันดาวดูอีกที ผู้ชายในภาพนี้ก็เหมือนเธอจริงๆนั่นแหละ เธอมองหน้าเขา เขาเล่าเรื่องในอดีตให้เธอฟัง
" พ่อกับแม่ของพริบแยกทางกันเพราะอะไรพี่ไม่รู้ แต่ต่อจากนั้นพ่อไปทำงานเป็นบอดี้การ์ดที่อังกฤษ แล้วได้แต่งงานกับแม่ของพี่ ส่วนแม่ของพริบก็คงแต่งงานใหม่เช่นกันตอนนั้นพริบคงอยู่ในท้อง พอแม่พี่จากไปพ่อก็ให้คนออกตามหาแม่ของพริบ จนรู้ข่าวว่ามีพริบ นับจากอายุแล้วก็รู้ว่าพริบเป็นลูกของท่าน แต่พอพ่อมาเมืองไทยแม่ของพริบก็พาพริบย้ายที่อยู่ไปก่อน เลยไม่ได้เจอกัน พ่อตามหาอยู่เป็นปีก็ไม่มีวี่แวว พอกลับอังกฤษไปอาการป่วยก็กำเริบ ก่อนจากไป พ่อสั่งให้ตามหาลูกสาวของท่านให้เจอ หลังเสร็จงานศพพ่อ พี่ก็เลยออกตามหา จนได้เจอกับพริบ "
พริบพันดาวทำหน้างง จะเป็นไปได้ยังไง โทมัสส่งยิ้มมาให้แล้วเล่าต่อ
" พี่เอะใจตั้งแต่ตอนที่พริบบอกว่าอยู่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็กแล้ว มันตรงกับข้อมูลที่สืบได้ก่อนหน้า ยิ่งได้มองหน้าพริบดีๆก็ยิ่งคล้ายกับพ่อ พี่เลยถือวิสาสะแอบเอาเส้นผมของพริบ ตอนที่พริบหลับไปตรวจดีเอ็นเอ "
โทมัสส่งผลตรวจให้เธอดู เธอตาโตเมื่อผลตรวจระบุว่าเธอกับผู้ชายชื่อเอ็ดเวิร์ดเป็นพ่อลูกกัน
" ที่จริงพ่อชื่ออรรนพ แต่เปลี่ยนชื่อเป็นเอ็ดเวิร์ดตอนที่ไปอยู่อังกฤษ "
เธอมองหน้าเขาขมวดคิ้ว คิดยังไงก็ยังงงอยู่ดี เขาบอกเป็นพี่ชายของเธอ แต่ตอนที่พ่อกับแม่แยกทางกันตอนนั้น เธอก็อยู่ในท้องแม่แล้ว แล้วพ่อไปเจอกับแม่เขาหลังจากนั้น ทำไมเขาถึงกลายมาเป็นพี่เธอได้หล่ะ หรือว่าพ่อของเธอจะแอบมีความสัมพันธ์กับแม่ของเขาจนมีเขา แล้วแม่ของเธอจับได้เลยเลิกกัน ใช่ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ โทมัสรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่จึงพูดขึ้นมา