" หิวเหรอ ก้มหน้าก้มตากินไม่คิดจะทักทายฉันสักนิด "
พริบพันดาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทักทายอะไรกัน เขาสนใจเธอด้วยเหรอ เธอส่งยิ้มแห้งๆไปให้แล้วก้มหน้ากินต่อไม่สนใจ ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป
" คุณทักบอกว่าตอนเย็นจะกลับบ้านไว ให้เตรียมอาหารไว้เผื่อด้วย คุณพริบจะทำอาหารไว้รอคุณทักไหมคะ ถ้าคุณพริบทำอาหารด้วยตัวเอง คุณทักต้องติดใจแน่เลยก็คุณพริบของป้าหน่ะทำอาหารอร่อยที่สุด"
พริบพันดาวโบกมือปฏิเสธ บอกว่าเธอไม่ว่าง เย็นนี้เธอรับปากแพรไหมเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอแล้ว ว่าจะไปธุระเป็นเพื่อน ไม่รู้จะกลับดึกหรือเปล่า
เธอทำงานอยู่ที่ร้านดอกไม้ ที่ร้านมีลูกจ้าง3คน มีเธอ แพรไหม และภูมินทร์เป็นคนส่งดอกไม้ เจ้าของร้านชื่อแก้วกัญญา ใจดีกับเธอมากไม่รังเกียจที่เธอเป็นใบ้ เธอกับแก้วกัญญาเจอกันโดยบังเอิญ ตอนนั้นแก้วกัญญาเป็นลม เธอช่วยพาไปโรงพยาบาลและเฝ้าเธอจนฟื้น เมื่อได้ทำความรู้จักกัน แก้วกัญญารู้ว่าเธอหางานอยู่ จึงชวนไปทำงานด้วย ซึ่งเธอกำลังจะเปิดร้านดอกไม้ จึงถือว่าพริบพันดาวเป็นพนักงานคนแรก
ต่อมาเธอก็ได้รู้จักแพรไหม แพรไหมเรียนมหาวิทยาลัยRซึ่งเป็นมหาลัยเปิด ที่นั่นส่วนมากเป็นคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยและมีผู้พิการหลายคนที่เข้าเรียน แพรไหมอายุเท่ากันกับเธอ และเป็นคนแนะนำเธอให้ลงเรียนที่มหาลัยR ทั้งยังพาเธอไปสมัครเรียนอีกด้วย
เธอคิดอยากเรียนต่อมาตลอด แต่พอ
คุณย่าเสีย เธอแต่งงานกับทักขินัย ศจีก็ขัดขวางไม่ให้เธอเรียน ต่อว่าเธอว่าเป็นใบ้เรียนไปก็ไม่รู้เรื่อง สั่งให้เธออยู่แต่บ้านห้ามออกไปให้ใครเห็นหน้า เธออายที่ต้องมีสะใภ้เป็นใบ้ และยังสั่งห้ามเธอไม่ให้ท้องเพราะกลัวว่าเด็กที่ออกมาจะเป็นใบ้เหมือนแม่ เธอได้แต่แค่นหัวเราะในใจ จะท้องได้ยังไงในเมื่อทักขินัยไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลย
วันนี้ร้านดอกไม้ปิดเร็ว พริบพันดาวแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร คิดว่าแก้วกัญญาคงมีธุระหล่ะมั้ง แพรไหมพาเธอมาที่ร้านอาหารแก้วกัญญากับภูมินทร์นั่งโบกมือให้พวกเธอ ที่แท้ที่ปิดร้านเร็ว ที่แพรไหมบอกว่าชวนมาทำธุระ ก็เพื่อเซอร์ไพรซ์วันเกิดให้เธอนี่เอง เธอคิดว่าไม่มีใครรู้วันเกิดของเธอซะอีก สงสัยแก้วกัญญาคงดูในเอกสารสมัครงานของเธอแน่ๆ เธอยิ้มดีใจ ในชีวิตของเธอนี่คืองานเลี้ยงวันเกิดครั้งแรก
หลังกินอาหารเสร็จ พนักงานก็ถือเค้กมาร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้เธอ เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อสายตาของคนในร้านมองมาที่เธอ เธอหลับตาอธิษฐานก่อนจะรีบเป่าเทียนให้ดับ แล้วจัดการตัดเค้กแจกทั้ง3คน แล้วยังมีน้ำใจแบ่งให้พนักงานอีก2คนที่ถือเค้กมาด้วย
ทักขินัยได้ยินเสียงร้องเพลงแฮบปี้เบิร์ดเดย์ดังมาจากโต๊ะข้างหลัง ก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังไปดู เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเจ้าของวันเกิดคือพริบพันดาว เธอยิ้มแย้มอย่างมีความสุขก่อนหลับตาอธิษฐานแล้วเป่าเทียน
" ทักคะ ทัก ทักคะ "
ทักขินัยจ้องมองพริบพันดาวอยู่นาน จนบุษบงไม่พอใจเรียกเขาอยู่หลายรอบ กว่าเขาจะหันกลับมา
" อยากไปร่วมอวยพรวันเกิดกับเมียใบ้ของคุณเหรอค่ะ เห็นจ้องอยู่ได้ บุษเรียกคุณตั้งหลายรอบก็ไม่หันมาสักที "
บุษบงทำหน้าเง้างอ ทักขินัยเรียกพนักงานมาเช็คบิลแล้วเดินออกจากร้านไปไม่สนใจบุษบงที่รีบเดินตามมา และเขาก็ไม่ชายตามองพริบพันดาวแม้แต่น้อย เธอรู้ว่าเขาต้องเห็นเธอแต่ทำเป็นไม่สนใจ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาเจอกันข้างนอก เธอเป็นคนอื่นสำหรับเขา เขาไม่รู้จักเธอ เขาคงจะอายคงจะกลัวคนอื่นรู้ว่ามีเมียใบ้อย่างเธอ แต่เขายินดีที่จะควงบุษบงนางแบบชื่อดังคนรักของเขา ออกงานนู้นงานนี้ไปทั่ว เธอได้แต่ยิ้มขมขื่น มองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปจนลับตา
" นี่จ๊ะของขวัญของพี่ เปิดดูสิชอบไหม "
แก้วกัญญายื่นกล่องของขวัญให้ พริบพันดาวรับมาเปิดดูเป็นเดรสสีชมพู สวยหวานมาก เธอเอาทาบตัวดูน่าจะใส่ได้
" พี่กะขนาดดูแล้วพริบน่าจะใส่ได้นะ "
พริบพันดาวยกมือไหว้ขอบคุณแก้วกัญญา
แพรไหมหยิบเอาของขวัญกล่องเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพาย
" นี่ของฉัน เปิดเลย"
เธอเปิดดูเป็นกำไลข้อมือมีตุ้งติ้งรูปดาว น่ารักจัง ภูมินทร์ยื่นกล่องของขวัญของเขามาให้ พริบพันดาวเปิดออกดู เป็นพวงกุญแจกระต่ายเรซิ่น เขารู้ได้ไงว่าเธอชอบกระต่ายนะ เธอยิ้มแกว่งพวงกุญแจไปมาแล้วเอาแขวนกระเป๋าไว้
" ชอบไหม เราเห็นพริบชอบใช้อะไรที่มีกระต่าย เลยคิดว่าพริบน่าจะชอบ "
พริบพันดาวก้มมองตัวเอง เธอใส่เสื้อยืดสีขาวลายกระต่าย ผมก็ติดกิ๊บกระต่ายตัวน้อย กระเป๋าสะพายยังมีพวงกุญแจกระต่ายขนปุยสีขาวห้อยอีก เธอส่งยิ้มไปให้ภูมินทร์ ไม่คิดว่าเขาจะช่างสังเกตุขนาดนี้
" ทักคะ เมื่อไหร่คุณจะหย่ากับเมียใบ้ของคุณซักที "
" ผมว่าผมเคยบอกคุณเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้วนะ "
" แต่คุณรับปากย่าของคุณว่าจะแต่งงานดูแลเธอแค่4ปี นี่มันก็ครบ4ปีแล้ว คุณรออะไร ไม่ใช่ว่าคุณรักมันหรอกนะ "
" เหลวไหล ผมแค่สงสารเธอ ถ้าหย่าแล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน คุณก็รู้ว่าเธอพูดไม่ได้ใช้ชีวิตก็ลำบาก "
" แล้วคุณจะดูแลเธอไปตลอดชีวิตรึไง คุณต้องมีชีวิตของคุณเอง นัง เธอก็เหมือนกัน คุณก็ให้เงินเธอไปสักก้อนหนึ่ง เธอจะไปทำอะไรก็เรื่องของเธอ "
เมื่อเห็นทักขินัยยังคงนิ่งเฉย บุษบงจึงพูดขึ้นมาอีก
" ถ้าวันนึงบุษท้องลูกของเรา "
" จะเป็นไปได้ไง ผมป้องกันทุกครั้ง "
"ถึงจะใส่ถุงทุกครั้ง ก็ไม่ได้ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซน แล้วคุณเองก็กระแทกบุษทุกวันวันละหลายรอบ "
ทักขินัยครุ่นคิดหนัก ถ้าถึงวันนั้นจริงๆเขาก็คงต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
ตอนเย็นทักขินัยกลับมาที่บ้าน ถือถุงใส่ของมาถุงใหญ่ สอดส่ายสายตาหาพริบพันดาว คนรับใช้รีบเดินเข้ามาจะช่วยถือของ เขาเบี่ยงหลบ
" ไม่ต้อง พริบอยู่ข้างบนใช่ไหม "
" เอ่อ คือว่าคุณพริบยังไม่กลับมาเลยค่ะ "
ทักขินัยขมวดคิ้วก้มลงดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นี่มัน6โมงครึ่งแล้วทำไมยังไม่กลับ
" คุณพริบบอกว่าวันนี้เธอมีธุระจะกลับดึกค่ะ ให้ป้าตั้งโต๊ะเลยไหมค่ะ "
ป้าเจียงเดินเข้ามาสมทบและบอกเรื่องพริบพันดาว
" ไม่ต้อง ฉันไม่หิว "
ทักขินัยเดินขึ้นไปข้างบน เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องของพริบพันดาว หยิบเอาตุ๊กตาตัวใหญ่สีฟ้าออกมาวางไว้บนที่นอนและเอาพวงกุญแจกระต่ายตัวน้อยมาวางไว้ใกล้ๆกัน
เขารู็ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเธอ เลยบอกกับป้าเจียงไว้ว่าจะกลับเร็ว ให้ทำอาหารไว้มากหน่อย เพื่อจะได้มาฉลองวันเกิดให้เธอ 3ปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้สนใจวันเกิดเธอ ไม่เคยมีของขวัญให้ ปีนี้เลยคิดจะให้อะไรเธอซักหน่อย ตอนกลางวันเขานัดคุยงานกับลูกค้าเสร็จ กำลังจะออกจากร้านก็เจอบุษบง เธอเลยชวนเขาเข้าไปในร้านอีกรอบเพื่อกินข้าว พอแยกจากบุษบงเขาก็แวะร้านตุ๊กตา ตั้งใจซื้อตุ๊กตากระต่ายไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เธอ ทั้งที่เขาอุตส่าห์รีบกลับบ้านไวเพื่อมาอยู่กับเธอ แต่เธอดันไม่อยู่ซะงั้น เขาเดินออกจากห้องปิดประตูเสียงดังด้วยความโมโห
สี่ทุ่มรถแท็กซี่จอดหน้าบ้าน พริบพันดาวลงจากรถมองขึ้นไปข้างบนเห็นไฟในห้องทักขินัยเปิดอยู่ มองไปที่ระเบียงเขากำลังสูบบุหรี่จ้องมองเธออยู่ เธอก้มหน้ารีบเดินเข้าบ้าน ทันทีที่เข้ามาในบ้านป้าเจียงก็เดินมารับ
" หิวไหมคะคุณพริบ ทานอะไรมาหรือยัง "
เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ทำไม้ทำมือบอกว่าไม่หิวเธอกินมาแล้ว
" คุณทักกลับมาตั้งแต่6โมงแล้วค่ะ ถามหาคุณพริบด้วย "
พริบพันดาวขมวดคิ้วชี้ใส่ตัวเอง เขาเนี่ยนะถามถึงเธอ เขาสนใจเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน