ตอนที่ 8
“กรี๊ด!” สิ้นเสียงแสบหู มัลลิกาก็ใช้โอกาสที่อีกคนเผลอหยิกข่วนไปตามร่างกายคนฉวยโอกาส
“หยุดทำร้ายผม แล้วก็เงียบเดี๋ยวนี้” ไรอันสั่งอย่างคนหัวเสีย เพราะทนเจ็บจากแรงหยิกข่วนของหญิงสาวไม่ได้อีกต่อไป
“ไม่หยุด! ไอ้บ้ากาม ไอ้ลามก ไอ้คนฉวยโอกาส กล้าดียังไงถึงมาลวนลามฉัน”มัลลิกาไม่ยอมหยุดตามคำสั่งอีกฝ่าย ซ้ำยังส่งเสียงต่อว่าพร้อมเสียงกรีดร้องดังกึกก้องทั่วบริเวณนั้น
“เงียบ!” สิ้นคำห้วนจัดไรอันก็จัดการผลักหญิงสาวเบียดชิดไปกับผนังแล้วยื่นท่อนขาแข็งแกร่งแทรกหว่างขาเรียวอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าตัวจะยกมันเตะเข้าจุดยุทธศาสตร์ของเขา อดีตนายตำรวจหนุ่มกัดฟันกรอด สันกรามหนาบดเข้าหากันเป็นสัน แก้วหูของเขาระบมไปหมดเพราะเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ซ้ำตามแขนของเขาก็มีเลือดซึมเพราะแรงข่วนจากหญิงสาวอีกเช่นกัน
“ไม่หยุด! ไอ้คนลามก กล้าดียังไงถึงมาจูบฉัน ไอ้หน้าลิง ไอ้คนทุเรศ! ไอ้...อ๊ะ!...กรี๊ด!” มัลลิกาหวังจะต่อว่าให้หายโมโหเพราะเจ็บใจที่ถูกปล้นจูบแรกในชีวิตไปแบบหน้าด้านๆ แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นกรีดร้องสุดเสียงแทนเมื่อมือใหญ่ตะปบเข้าที่สะโพกงามงอนของเธอเต็มแรง
“ผมเตือนคุณแล้วใช่ไหม” พูดจบไรอันก็ยกมือฟาดที่สะโพกงามงอนไม่ยั้งและไม่มีการเบามือแม้แต่น้อยเพราะเขาก็โกรธเป็นเหมือนกัน ผู้หญิงปากเสีย มารยาทก็สุดจะแย่ มันต้องเจอแบบนี้ คบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ด้วยความโมโหพร้อมทั้งกระหน่ำทำโทษด้วยฝ่ามือจนพอใจแล้ว เจ้าของฝ่ามือพิฆาตก็เดินจากไปทันที ส่วนคนถูกทำร้ายก็ทรุดลงบนพื้นทันทีเช่นกัน ก่อนใช้มือตบตีลงไปบนพื้นปูนด้วยความเจ็บใจ หลังถูกกระหน่ำตีสะโพกแบบไม่ยั้ง
‘อย่าให้ฉันเจออีกนะ คราวหน้าตายแน่ ไอ้คนลามก ไอ้คนฉวยโอกาส เกลียดนัก!’ มัลลิกาอาฆาตแค้นคนที่เดินจากไปด้วยความขุ่นเคืองใจ ตากลมสวยจ้องมองไปยังแผ่นหลังกว้างใหญ่ที่ห่างออกไปทุกทีด้วยความแค้น
เช้าวันถัดมา ภายในห้องพักของโรงแรมสุดหรู ไรอันนั่งทำหน้าเมื่อยใส่เพื่อนรักที่กำลังยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์ สบายเสียจนคนนั่งมองหมั่นไส้กับท่าทีสบายเกินเหตุของเพื่อนรัก ส่วนเขาน่ะหรือว้าวุ่นตั้งแต่เข้าไปช่วยผู้หญิงปากเสียให้รอดจากระเบิด แล้วพอจากมาเขาก็เอาแต่หงุดหงิดอยู่คนเดียวทั้งคืน โดยไม่รู้สาเหตุ
“เฮ้! เพื่อนรัก ไปกินรังแตนที่ไหนมา ถึงได้ทำหน้าตาบูดบึ้งแต่เช้า หรือว่าแกคิดถึงบ้านป่าบ้านสวน” เอเรส เจ้าพ่อกาสิโนถามด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม พลางลอบสังเกตสีหน้าเพื่อนรักไม่วางตา เพราะเมื่อคืนก็หนหนึ่งแล้ว ที่เจ้าหมอนี่โทรศัพท์มาบอกว่ามาหาไม่ได้ด้วยเสียงหงุดหงิดแบบสุดๆ แล้วมันก็วางสายไปทันทีหลังพูดจบ ไอ้เขาก็ได้แต่อ้าปากค้างและไม่คิดจะโทรกลับไปหาให้เพื่อนหงุดหงิดใจมากขึ้น แต่ดูท่าเจ้าหมอนี่ยังไม่หายอารมณ์เสียเป็นแน่ เพราะหน้าตาไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
“เบื่อนิดหน่อย ว่าแต่แกเรียกให้ฉันมาหาถึงฮ่องกง มีเรื่องด่วนอะไรนักหนา แล้วทำไมต้องนัดมาเจอที่ฮ่องกงด้วย ฉันต้องทำไร่ทำสวนนะโว้ย ไม่ได้มีเวลาบินไปบินมาเหมือนแก” ไรอันถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ พร้อมคำเหน็บแนม หวังจะบรรเทาอารมณ์หงุดหงิดของตนลงบ้าง ที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกหงุดหงิดเหมือนคนบ้านับตั้งแต่เดินหนีผู้หญิงปากเสียคนนั้นมา ก่อนจะหันไปยกถ้วยกาแฟยกขึ้นดื่ม แต่ปรากฏว่ามันร้อนจึงกระแทกลงที่รองแก้วเหมือนเดิมด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์หนักกว่าเก่า
“ไอ้นี่ เป็นเอามากนะแก ไปหงุดหงิดใครเข้าล่ะ บอกฉันมา เดี๋ยวฉันจะสั่งลูกน้องไปกระทืบให้ โทษฐานทำให้เพื่อนรักของฉันหงุดหงิด เหมือนหมาบ้า” เอเรสสัพยอก ก่อนเอนตัวหนีหมัดของเพื่อนรักที่เหวี่ยงเข้าใส่
“ไรอัน! นี่แกจะฆ่าฉันหรือไง อย่านะโว้ย ลูกฉันยังเล็กอยู่ แถมอีกคนยังไม่ได้ลืมตาออกมาดูโลกเลยด้วย เพราะงั้นแกห้ามทำร้ายฉันเด็ดขาด” คุณพ่อลูกสองวัยกำลังซนและอีกหนึ่งอยู่ในครรภ์ค้านเสียงกลั้วหัวเราะ สักพักแก้วตาดวงใจทั้งสองก็วิ่งออกมาจากห้อง หลังมารดาจับอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสวยหล่อแบบไม่มีใครยอมใคร
“แด็ดดี้” สองหนูน้อยชายหญิงขานเรียก ก่อนโผเข้าสู่อ้อมกอดของบิดา แล้วพากันยื่นหน้าหอมแก้มคนละฝั่งของบิดาสุดที่รักฟอดใหญ่ จากนั้นสองหนูน้อยวัยกำลังน่ารักน่าชังก็หันไปมองเพื่อนรักของบิดาแล้วพากันฉีกยิ้มแก้มปริ
“ลุงไรอัน” สองหนูน้องขานเรียกพร้อมกัน จากนั้นก็ยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แล้วผละจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ วิ่งเข้าไปหอมแก้มของคุณลุงและทำแบบเดียวกับบิดาตน ก่อนพากันฉีกยิ้มจนตาหยี หลังคุณลุงสุดหล่อหอมแก้มของหนูน้อยทั้งสองคืนบ้าง ลุงหลานส่งยิ้มให้กันและพากันหัวเราะคิกคัก ไม่นานสองหนูน้อยก็รีบวิ่งไปรับมารดาที่กำลังอุ้มท้องน้องของพวกตน
“หม่ามี๊เดินระวังนะครับ” หลังพี่ชายพูดจบ คนเป็นน้องสาววัยก็รีบพูดขึ้นบ้างด้วยคำลอกเลียนแบบพี่ชายเป๊ะ จากนั้นทั้งสองก็เดินจับมือมารดามานั่งข้างคุณพ่อสุดที่รักที่กำลังเฝ้ามองภรรยาและแก้วตาดวงใจทั้งสองด้วยความรัก
เอเรสยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากสวยและส่งยิ้มหวานจนมดแทบขึ้น ส่วนคนมองอย่างไรอันถึงกับถอนใจ แต่เป็นการถอนใจแบบมีความสุขและดีใจกับเพื่อนรักมากกว่า เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่เห็นเพื่อนจุ๊บภรรยาสาวบ่อยๆ จนผ่านมาหลายปี เจ้าเพื่อนรักของเขาก็ยังทำเหมือนเดิมและยังหน้าด้านหน้าทนแบบไม่แคร์สายตาคนมองเช่นเขา ที่ครองตัวโสดมาหลายปีอีกตามเคย
“สวัสดีค่ะคุณไรอัน คุณสบายดีนะคะ” ปัญญาวีร์ หรือหม่ามี๊ของสองหนูน้อยหันไปยิ้มและทักทายเพื่อนสนิทของสามีก่อนหันไปยิ้มหวานให้สามีสุดที่รัก เพราะหาไม่แล้วเธอคงถูกทำโทษแน่ โทษฐานยิ้มให้ชายอื่นแม้ชายอื่นที่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของสามีของตาม