หนึ่งเดือนผ่านไป และแล้วก็มาถึงวันที่คุณวิโรจน์และคุณนายพริมารอคอย นั่นก็คือวันนี้จะเป็นวันที่พาพี่เมฆไปดูตัวว่าที่เจ้าสาว คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคุณหญิงพริมาเพราะว่าดูจะปลื้มกับว่าที่เจ้าสาวคนนี้มากซึ่งทุกอย่างก็ยังคงเป็นความลับระหว่างคุณวิโรจน์และคุณนายพริมานั่นแหละ ลูกๆไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอกแล้วก็ไม่ตื่นเต้นอะไรสักนิดเลยโดยเฉพาะพี่ชายของฉันตอนนี้ดูหน้าสิเหลือแค่สองนิ้วเองมั้ง
" พี่เมฆทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิวันนี้เป็นวันนัดดูตัวว่าที่เจ้าสาวของพี่เลยนะ "
ฉันอดที่จะแซวพี่ชายไม่ได้เรื่องทุกอย่างเขาจัดการได้หมด ยกเว้นเรื่องของคุณพ่อและคุณแม่จริงๆ
" จะลองมาเป็นพี่ไหมล่ะ "
" ฮ่า ฮ่า ไหนทีแรกพี่บอกว่าแค่ลองไปดูตัวไม่ชอบก็จะบอกพ่อกับแม่ไปตรงๆไงล่ะ "
" แกก็ดูคุณหญิงพริมาออกตัวสิ ลองได้ปลื้มขนาดนั้นแกว่าพี่จะขัดใจแม่ได้หรอวะ "
ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนคิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ความจริงแล้วผมมีคนที่ผมแอบชอบมาตลอดอยู่แล้วนั่นก็คือเพื่อนของน้องสาวตัวแสบของผม ที่ตอนนี้เธอมีอาชีพเป็นดาราดังเป็นนางร้ายสุดฮอตอยู่ในตอนนี้แต่ที่ผมยังไม่กล้าบอกเธอหรือเผยความในใจออกไปเป็นเพราะว่าเธอเป็นเพื่อนของน้องสาวผม และตัวผมเองก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะไปบอกความในใจกับเธอ เธอสวยและรวยมากมีความมั่นใจตรงสเต็ปสาวไฮโซครบสูตร เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆมากมาย ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมแอบชอบเธออยู่เพราะว่าผมไม่เคยแสดงอาการใดๆออกมาเลยส่วนมากผมจะชอบซื้อกินนางเอกดังซะมากกว่า
ณ ร้านอาหารสุดหรู
" คุณพ่อคะเมื่อไหร่ว่าที่พี่สะไภ้ชาจะมาหรอคะ ชาอยากเห็นหน้าเจ้าหล่อนเต็มทีแล้วค่ะว่าจะน่ารักสักแค่ไหน สวยถูกใจพี่เมฆรึเปล่า ถึงได้ทำให้คุณหญิงพริมาปลื้มหนักขนาดนี้ "
ฉันพูดแล้วก็ยิ้มให้กับคุณแม่แล้วหันมองไปยังพี่ชายที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตอนนี้
" อีกสักพักก็ถึงแล้วล่ะลูก พอดีวันนี้น้องมีถ่ายละครก็เลยจะมาสายนิดนึงเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ของน้องก็จะมาถึงก่อน "
คุณหญิงพริมาเอ่ย
" ติดถ่ายละครหรอคะ แสดงว่าจะต้องเป็นนางเอกคนใดคนนึงแน่ๆเลยใช่ไหมคะ คุณแม่ "
" ไม่ใช่หรอกจ่ะ ไม่ใช่นางเอกละครที่ไหนหรอกเป็นคนใกล้ๆตัวเรานี่แหละ "
ยิ่งคุณแม่พูดแบบนี้ก็ยิ่งเกิดความสงสัยให้กับฉันและพี่เมฆแต่ความสงสัยนั้นไม่นานก็กระจ่าง เมื่อคุณพ่อและคุณแม่ของยัยปุยฝ้ายปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของพวกเราแล้วฉันก็อึ้งไปสักพักนึงเหมือนกันแต่เหมือนพี่เมฆจะยังไม่รู้ตัวเพราะว่ายังไม่เคยเจอคุณพ่อคุณแม่ของยัยฝ้ายเลย
" คุณลุงพิรัช คุณน้ากมลสวัสดีค่ะ ชาไม่คิดว่าจะเจอคุณลุงกับคุณน้าที่นี่ อย่าบอกนะคะว่าที่นัดกันมาคือครอบครัวของคุณลุง "
ฉันเอ่ยถามอย่างเสียมารยาททันทีเพราะรู้สึกตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำไมยัยฝ้ายไม่เคยเล่าถึงเรื่องนี้หรือว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกัน อะไร ยังไง ชาไทยงงไปหมดละ
" ยัยชา หยุดพูดได้แล้วลูก ให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน "
คุณหญิงพริมาได้เอ่ยปรามจนทำให้ฉันนั่งเงียบๆต่อไป
" รอยายหนูก่อนสักหน่อยนะครับกำลังเดินทางมาเห็นว่ารถติดมาก "
คุณลุงพิรัชบอกกับคุณพ่อด้วยความเกรงใจ
" ผมรอได้ครับ นี่ลูกชายของผม ตาเมฆ เมฆา รัตนโสภณกุล ส่วนนี่คุณพิรัชและคุณกมลคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว ยัยชาไทย "
" สวัสดีครับคุณลุง คุณน้า....สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณลุง คุณน้ากมล "
พี่เมฆหันมามองหน้าฉันแต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรเพราะว่าเกรงใจผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเลยได้แต่นิ่งเฉยไว้เท่านั้น ส่วนฉันเองก็ยิ้มร่าออกมาเพราะว่ารู้เลยว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรถึงแม้ว่าพี่เมฆจะไม่ชอบการคลุมถุงชนแต่ฉันเชื่อว่ายัยฝ้ายจะทำให้พี่เมฆรักได้ไม่ยากและฉันก็ปลื้มว่าที่พี่สะใภ้คนนี้มาก
" งั้นเราสั่งอะไรมากินกันก่อนเลยแล้วกันนะครับ "
คุณพ่อตัดบทไป จากนั้นพวกเราทุกคนก็สั่งอาหารมากิน และไม่นานเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเมื่อยัยฝ้ายเดินกึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน แต่ทันทีที่มาถึงเหมือนเพื่อนของฉันก็ช็อคไปสักพักอยู่เหมือนกัน
" อ้าว มาแล้วหรอลูก นี่คุณลุงวิโรจน์แล้วก็คุณป้าพริมา ส่วนนี่พี่เมฆ "
คุณลุงพิรัชรีบแนะนำให้รู้จักกันทันที
" เอ่อ...สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้า ฝ้ายไม่คิดว่าคนที่จะต้องมาเจอคือคุณลุงกับคุณป้า เอ่อ...ฝ้ายขอโทษนะคะที่มาสาย "
" ไม่เป็นไรจ้ะหนูฝ้ายนั่งลงก่อนสิลูก "
คุณหญิงพริมาพูดจาต้อนรับอย่างเอ็นดู
" ยัยฝ้าย มานั่งข้างฉันนี่มา "
ฉันที่เอ่ยชวนเพื่อนสาว ก็ตอนนี้รู้สึกว่ามันกำลังทำตัวไม่ถูก สงสัยกำลังเขินพี่เมฆอยู่ แล้วมันก็มานั่งลงข้างฉันข้างซ้ายเป็นฉันที่นั่งอยู่ข้างขวาคือพี่เมฆที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตอนนี้
เมฆ
ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกตกใจไม่น้อยที่เจอสาวน้อยคนนี้ตรงหน้า ทีแรกผมคิดไม่ตกว่าจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไงแต่พอมาเจอเธอนางในฝันที่ผมไม่กล้าแม้กระทั่งจีบผมก็คงต้องกลับคำและคิดใหม่แล้วล่ะ ผมอยากให้การคลุมถุงชนในครั้งนี้สำเร็จ ใจจริงผมอยากจะเลื่อนมาแต่งงานมันวันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ คุณวิโรจน์และคุณหญิงพริมาช่างรู้ใจผมซะจริงๆ