" ยัยชาทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้วะ "
ปุยฝ้ายกระซิบถามฉันทันทีด้วยความสงสัยซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ต่างจากมันเท่าไหร่หรอก
" เออ ไม่รู้ ไม่รู้ว่าพวกผู้ใหญ่เขาไปคุยกันยังไงแล้วออกมาเป็นแบบนี้ แต่มันก็ดีแล้วหนิเดี๋ยวแกจะได้ทำคะแนนแบบลัดคิวพวกนางเอกแอ๊บแบ๊วนั่น "
" แต่การเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้มาจากความรักมันจะไปรอดหรอวะแก แถมพี่ชายของแกก็เจ้าชู้จะตายทฉันว่าฉันเอาไม่อยู่หรอก สู้รบปรบมือกับนางเอกยังไงนางร้ายอย่างฉันก็ต้องแพ้อยู่แล้วสิ "
" เฮ้ย!! แกจะมาถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มไม่ได้นะยัยฝ้าย ฉันอ่ะอยากได้แกเป็นพี่สะใภ้นะเว้ย เดี๋ยวฉันจะช่วยแกเองรับรองเอาชนะใจพี่เมฆไม่ยากอย่างที่คิดหรอก "
หลังจากที่สองสาวกระซิบกระซาบกันอยู่พักใหญ่ คุณหญิงพริมาก็ได้เอ่ยขึ้นมา
" หนูฝ้ายเพิ่งเรียนจบมาก็ได้เป็นดาราดังเลยนะลูก คุณพ่อคุณแม่คงภูมิใจน่าดูที่มีลูกสาวเก่งแล้วก็ขยันขนาดนี้ "
" ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณป้า ฝ้ายทำงานในวงการก็ไม่ได้เป็นนางเอกหรอกค่ะ หน้าเหวี่ยงขนาดนี้ได้เป็นนางร้ายก็ดีแค่ไหนแล้วค่ะ "
คุณหญิงพริมาดูจะชอบใจจากบทสนทนาเมื่อครู่นี้ไม่น้อย
" ตาเมฆเบื่อไหมลูก พวกผู้ใหญ่คงคุยกันอีกสักพัก พาน้องออกไปเดินเล่นไหม "
คุณหญิงพริมาผู้ชงเข้มรีบเอ่ยทันที
" ครับคุณแม่ เชิญครับน้องปุยฝ้าย "
ผมที่นั่งไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาพร้อมกับผายมือเชิญให้เธอลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกัน แต่คนตัวเล็กก็เหมือนยังไม่กล้าจะไปไหนได้แต่มองหน้าน้องสาวของผม
" ไปเถอะแก พี่เมฆฉีดยาแล้วฉันรับรอง ไม่กัดแกแน่นอน "
ยัยน้องสาวตัวแสบของผมเอ่ยแซวทันที
" พี่ไม่ใช่หมายัยชา เดี๋ยวเหอะ!! "
" ฮ่า ฮ่า ชาล้อเล่น รีบไปเถอะพี่สะไภ้คนนี้ชาปลื้ม "
จากนั้นปุยฝ้ายก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากร้านอาหารนั้นพร้อมกันกับผมแล้วเราก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึงร้านไอศครีม
" เราเข้าไปนั่งคุยกันในร้านนี้ไหมคะระหว่างรอผู้ใหญ่คุยกันเสร็จ ฝ้ายมีเรื่องจะคุยกับพี่เมฆพอดีเลยค่ะ "
เมื่อเราทั้งสองเดินเข้ามาในร้านไอศกรีมแล้ว
" น้องปุยฝ้ายมีอะไรจะคุยกับพี่หรอครับ "
" อุ้ย...เรียกฝ้ายเฉยๆก็พอค่ะเรียกซะเต็มยศดูจะห่างเหินเกินไปนะคะพี่เมฆ "
" ครับ "
" คือ...เอ่อ...เรื่องนัดดูตัววันนี้ความจริงฝ้ายไม่รู้จริงๆค่ะว่าคนที่จะนัดมาดูตัวคือพี่เมฆ คือฝ้ายว่าถ้าพี่เมฆไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับฝ้ายเราไปบอกผู้ใหญ่แล้วก็ยกเลิกกันก็ได้นะคะ ฝ้ายรู้ค่ะว่าพี่เมฆไม่ได้ชอบฝ้าย "
" ทำไมน้องฝ้ายถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ "
" ก็เราไม่เคยคุยกันเลยสักครั้งเพิ่งจะมารู้จักกันแบบจริงๆจังๆก็วันนี้พี่เมฆจะมาชอบฝ้ายได้ยังไงล่ะคะ จริงมั้ย? "
" เอาล่ะ ดูท่าทางแม่ของพี่จะชอบฝ้ายมากนะ พี่ว่าเราลองมาศึกษากันก่อนก็ไม่เสียหายอะไร พี่เองก็ไม่ได้มีใครที่ไหน ว่าแต่เราเถอะเรามีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า "
" ฝ้ายโสดค่ะ แต่พี่เมฆแน่ใจแล้วหรอคะที่จะลองคบกันกับฝ้าย ฝ้ายดุมากนะคะแล้วก็ขี้หึงมากด้วย พี่เมฆจะไหวหรอคะ "
" หึ!! ก็ต้องลองดูครับ พี่ชอบปราบเด็กดื้อซะด้วยสิ "
ฝ้าย
ทำไมเขาถึงพูดเหมือนกับว่าเขาสนใจในตัวของฉันนะ จริงอยู่ที่เขาไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนข้อนี้ฉันรู้ดีเลยล่ะแต่ที่น่าหนักใจอยู่ไม่น้อยคือบรรดาคู่ขาของเขานี่แหละซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงการของฉันทั้งนั้น ฉันจะรับมือไหวไหมนะ ยัยฝ้ายเอ้ยถึงเวลาที่แกจะต้องทำคะแนนแล้วนะเพื่อหัวใจของตัวเอง ต่อไปทางข้างหน้าจะเป็นยังไงแกก็ต้องสู้แล้วล่ะ
เมฆ
ผมดูจากอาการของร่างบางตรงหน้าแล้วดูเธอจะมีความสนใจผมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน การที่เธอไม่ได้แสดงอาการรังเกียจผม นั่นก็เป็นก้าวแรกที่ถือว่าดีมากๆสำหรับผมแล้ว ต่อไปผมก็จะเริ่มจีบเธออย่างจริงจัง ผมจะลองแหกกฎเหล็กของผมดูสักครั้งที่ว่าจะไม่ผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน ผมจะลองจีบเธอดูสักตั้งผมได้แต่หวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้ผลมันจะออกมาแฮปปี้อย่างที่ใจคิดก็พอ
หลังจากนั้นดูเหมือนเราจะเริ่มผ่อนคลายกันมากขึ้นแล้วเราสองคนก็แลกเปลี่ยนนิสัยใจคอของกันและกันโดยที่เธอเริ่มบอกถึงข้อดีข้อเสียของเธอและสิ่งที่เธอชอบและไม่ชอบ ส่วนตัวผมเองก็เช่นกันผมเลือกที่จะบอกเธอไปตามตรงว่าผมเองค่อนข้างบ้างานและไม่ค่อยมีเวลา การที่เธอมาคบกับผมเธอก็ต้องทำใจพอสมควรว่าผมอาจจะไม่มีเวลาตรงนี้ให้ ซึ่งเธอเองก็เหมือนจะรับได้และเข้าใจตรงนี้ของผมดี วันนี้ถือเป็นเดทแรกที่ผมมีความสุขมาก พอได้ลองคุยกับเธอ ผมก็ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมน้องสาวของผมถึงได้รักเพื่อนคนนี้นัก และคุณวิโรจน์แล้วก็คุณหญิงพริมาถึงได้ปลื้มมากขนาดนี้ ผมไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่นางร้ายที่รักของผม