เมฆหมอกทวงรัก | 8

1921 Words
“คุณแม่อย่าร้องไห้เลยน้า เช็ดน้ำตาหนูเช็ดให้” ลูกสาวคนสวยได้แต่พูดขึ้นพร้อมกับยกมือน้อยๆเช็ดน้ำตาบนใบหน้าสวยของพราวมุก “ฮึก…ขอบคุณค่ะของขวัญ” “หนูเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตคุณแม่เลยรู้ไหม” เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดออกไป ลูกสาวของเธอของขวัญตัวน้อยคนนี้เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอเลย ถึงจะมาเร็วไปหน่อย มาด้วยความไม่พร้อมหรือจะเรียกอีกอย่างว่าพลาดแต่เมื่อวินาทีแรกที่รู้ เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเขา เพราะของขวัญคือของขวัญชิ้นเดียวในชีวิตที่เธอได้จากผู้ชายที่ชื่อว่าเมฆหมอก แน่นอนว่าของขวัญชิ้นนี้มีค่ากับพราวมุกมาก มากเสียจนพราวมุกก็ไม่รู้เลยว่าหากไม่มีของขวัญเธอจะอยู่ยังไง “แล้วหนูจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคุณพ่อไหมคะ” ลูกสาวตัวน้อยได้แต่ถามขึ้นเพราะเธอไม่เคยได้ยินคำพูดนี้จากคุณพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากได้ยินบ่อยๆก็คงเป็นคุณแม่ที่พูดให้รับรู้ในทุกๆครั้ง “หนูเป็นแน่นอนค่ะ หนูเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณพ่อคุณแม่เลย” พราวมุกตอบกลับไป ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอีกคนจะรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า แต่ก็นะ ! หมามันยังรักลูก แล้วนับประสาอะไรกับคนที่จะไม่รักลูก “หนูดีใจที่จะได้เจอคุณพ่อแล้ว ต่อไปนี้หนูจะได้กล้าบอกเพื่อนๆว่าหนูก็มีคุณพ่อเหมือนทุกคน” “อดทนมานานมากเลยใช่ไหมคนเก่งของคุณแม่ คุณแม่ขอโทษจริงๆนะคะ ขอโทษที่ทำให้หนูต้องรู้สึกขาดและตั้งคำถามแบบนี้” ที่ผ่านมาพราวมุกไม่เคยรู้เลยว่าความเจ็บปวดและความเสียใจของลูกสาวมันมากขนาดไหน จนกระทั่งวันนี้ที่เธอได้รับรู้ทำเอาหัวใจของเธอแทบแตกสลายเพราะความเห็นแก่ตัวเธอแท้ๆทำให้ลูกสาวต้องรู้สึกแบบนี้ “ตอนนี้หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ แค่ได้รู้ว่ามีคุณพ่อเหมือนคนอื่นๆหนูก็ดีใจมากแล้ว” “หนูรอหน่อยนะคะของขวัญ คุณแม่ให้สัญญาว่าอีกไม่นาน” พราวมุกไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดกับเมฆหมอกยังไง เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนมากเพราะมีความรู้สึกของลูกเข้ามาเกี่ยว “หนูรอได้ค่ะว่าแต่คุณแม่ขาร้านเราจะเปิดตอนไหนคะ” “เปิดพรุ่งนี้ค่ะ ไว้เลิกเรียนของขวัญค่อยมาช่วยคุณแม่นะคะ” “ได้เลยค่ะ หนูดีใจจังคุณพ่อก็จะได้เจอ ส่วนร้านก็จะได้เปิดแล้ว” ใบหน้าที่แสนจิ้มลิ้มยกยิ้มออกมาทำเอาพราวมุกได้แต่ยิ้มตาม เธอรับรู้เลยว่าตอนนี้ลูกสาวของเธอมีความสุขมากจริงๆ “ฮ่าๆ หนูชอบป้ายชื่อร้านไหมคะ” “ชอบมากๆเลยค่ะคุณแม่” “คุณแม่ตั้งใจพาหนูมาดูเลยนะเนี่ย” แน่นอนว่าก่อนจะเปิดร้านจริง ก็ต้องพาเจ้าของร้านอย่างของขวัญมาดูงานสักหน่อย เจ้าของร้านชอบป้ายชื่อร้านขนาดนี้ก็ไม่มีอะไรต้องรออีกแล้ว สามารถเปิดร้านได้เลยในวันต่อไป “ดูเสร็จแล้วยังไงต่อหรอคะ” เด็กน้อยถามขึ้นอีกครั้งเพราะร้านคาเฟ่ของตัวเองกับคุณแม่ก็ดูเหมือนจะพร้อมทุกอย่าง “กลับบ้านกันค่ะ คุณตาคุณยายรอเราสองคนจะแย่แล้ว” พราวมุกตอบกลับไปตามตรงเพราะในตอนนี้คุณตาคุณยายคงรอหลานสาวของตัวเองไม่ไหวแล้ว “ไปค่ะคุณแม่กลับบ้านกัน หนูไม่อยากให้คุณตาคุณยายรอนาน” แน่นอนว่าหลังจากที่คุยกันเสร็จ พรากมุกก็พาลูกสาวของตัวเองกลับบ้านในทันทีเพราะคุณพ่อคุณแม่ของเธอก็ตั้งตารอหลานสาวตั้งแต่โรงเรียนเลิกแต่ทว่าตอนนี้กลับเย็นมากแล้ว “ของขวัญขึ้นไปอาบน้ำนะลูก เสร็จแล้วลงมานะคะคุณแม่กับคุณยายจะเตรียมอาหารเย็นรอ” พราวมุกบอกลูกสาวขึ้นทันทีเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน แน่นอนว่าลูกสาวของเธออย่างของขวัญสามารถอาบน้ำแต่งตัวเองได้แล้ว เธอเลยไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องนี้มากมายเท่าไหร่ “ได้ค่ะคุณแม่ขา” “คุณแม่ หนูมีเรื่องจะปรึกษา” เมื่อของขวัญขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน พราวมุกก็ไม่รอช้าที่จะพูดขึ้น “มีอะไรหรือเปล่าพราว สีหน้าหนูดูไม่ดีเลยนะ” คุณแม่ที่จับสังเกตได้ก็ถามขึ้น สีหน้าของลูกสาวตอนนี้ไม่ดีเลย บนใบหน้าสวยฉายแววความกังวลออกมาอย่างชัดเจน “ของขวัญถามถึงคุณพ่อของเขาค่ะ” “พะ…พราว” คนเป็นคุณยายตกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะเด็กวัยนี้มีความคิดแล้ว คงไม่แปลกที่จะตั้งคำถามกับเรื่องแบบนี้ “หนูไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้สึกยังไงหากเขารู้ว่าตัวเองมีลูกแล้วหนูก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะรับของขวัญเป็นลูกหรือเปล่า” แน่นอนว่าพราวมุกกังวล ผู้ชายอย่างเมฆหมอกไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย ในตอนที่ผ่านมาเขาเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว พราวมุกเลยไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ “แล้วพราวล่ะ พราวบอกของขวัญไปว่ายังไง” “หนูบอกไปตามตรง บอกว่าของขวัญมีคุณพ่อเหมือนคนอื่นและอีกไม่นานจะได้เจอแต่หนูไม่มั่นใจเลยค่ะคุณแม่” “ไม่มั่นใจอะไร” “หนูไม่มั่นใจว่าเขาจะทำหน้าที่พ่อได้ดีหรือเปล่า” เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดเพราะแค่หน้าที่คนรักเขายังทำไม่ได้ เฮ้อ ! แต่จะพูดว่าคนรักก็ไม่ถูกก็ที่ผ่านมาพราวมุกกับเมฆหมอกไม่ได้มีสถานะต่อกัน จะมีก็แค่ความสัมพันธ์ทางกายที่เรียกว่าอะไรนะ คู่นอนหรอ ? หากไม่ใช่ก็คงใกล้เคียง “เราไม่มีทางรู้หรอกพราว สิ่งที่เขาทำกับพราวในตอนนั้นมันผ่านมาหกปีแล้ว พราวอย่าเอาเรื่องตอนนั้นมาตัดสินเขาเลยนะ” แน่นอนว่าคนเป็นคุณยายไม่เห็นด้วย เวลาผ่านพ้นมาถึงหกปี ลูกสาวคนเดียวของเธอยังโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นแม่ที่ดีแล้วนับประสาอะไรกับผู้ชายคนนั้นที่เขาจะดีขึ้นไม่ได้ “หนูคิดว่าคงไม่ปิดกั้นพ่อกับลูก” เพราะน้ำตาของลูกสาวรวมถึงคำพูดต่างๆของลูกสาวทำให้พราวมุกคิดได้ ที่ผ่านมาเธอเห็นแก่ตัวมากพอแล้วและในตอนนี้เธอไม่ควรทำแบบนั้นอีก ความสุขของเธอคือของขวัญหากของขวัญมีความสุข เธอเองก็มีความสุขไปด้วยและความสุขของของขวัญก็คงไม่พ้นการได้เจอคุณพ่อของตัวเอง “แม่ดีใจที่พราวคิดแบบนี้เพราะแม่เองก็ไม่อยากให้หลานขาดพ่อ หกปีมันนานมากแล้วนะพราว ถึงหนูจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับเขาไม่ได้แต่มันไม่ใช่กับของขวัญ” “หนูไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไง อยู่ๆให้เดินไปบอกว่าของขวัญคือลูกมันจะแปลกๆหรือเปล่า” แน่นอนว่าพราวมุกคิดเรื่องนี้ไม่ตก มันไม่ง่ายเลยเพราะทุกอย่างมันยากขึ้นไปตั้งแต่ที่พรากมุกบอกเมฆหมอกว่าเธอแต่งงานมีสามีแล้วรวมถึงมีลูกกับสามีอีก ถึงเมฆหมอกจะดูสงสัยและไม่เชื่อแต่เขาก็คงคิดไม่ถึงหรอกว่าของขวัญคือลูกสาวของเขาเพราะยัยเด็กคนนี้หน้าตาไม่ได้คนเป็นพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว “ตรงนี้มันก็ยาก เขาจะมีครอบครัวแล้วยังเราก็ไม่มีทางรู้เลย” “เขายังไม่มีครอบครัวค่ะคุณแม่” พราวมุกตอบกลับไปตามตรงเพราะข้อมูลนี้เธอก็ได้มาจากเมฆหมอกเลย เขาบอกกับเธอเองว่าเขายังไม่มีครอบครัว ส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หลานสาวของเขา “เคยเจอกันแล้วหรอพราว” “บังเอิญเจอกันที่โรงเรียนค่ะ” หลังจากที่บอกคุณแม่ไปแบบนี้ พราวมุกก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับคุณแม่ฟัง “ตายจริง ! พราวบอกเขาไปแบบนั้นจริงๆหรอ” คนเป็นคุณยายแทบจะเป็นลมล้มลงเพราะไม่คิดว่าลูกสาวของตัวเองจะโกหกออกไปแบบนี้ “จริงค่ะคุณแม่ ที่พราวบอกไปแบบนี้เพราะพราวไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาแต่เมื่อของขวัญถามพราววันนี้มันทำให้พราวรู้ว่าพราวเห็นแก่ตัว” “ถึงแม่จะไม่โอเคกับสิ่งที่เขาทำกับพราวแต่สำหรับของขวัญแม่ว่าเราไม่ควรปิดกั้นพ่อกับลูก” ของขวัญไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย เรื่องของคุณพ่อคุณแม่ของขวัญไม่ได้มารับรู้ด้วยเพราะฉะนั้นแล้วลูกสาวของเธออย่างพราวมุกไม่ควรปิดกั้นลูก เด็กกับพ่อของเขาควรได้เจอกันเพราะหกปีที่ผ่านมามันคงสร้างบาดแผลให้หลานสาวคนเดียวของเธอมากพอแล้ว “คุณแม่ช่วยพราวคิดหน่อยสิคะ ว่าพราวควรบอกเขายังไง” “เฮ้อ ! ยากจังพราว” “ไม่ต้องบอก” น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้น ทำพราวมุกกับคุณแม่ต้องรีบหันไปมอง “คุณคะ” คุณแม่ได้แต่เอ่ยเรียกสามีของตัวเอง “คุณพ่อ” ส่วนพราวมุกก็ได้แต่เอ่ยเรียกคุณพ่อ เพราะสิ่งที่คุณพ่อพูดออกมามันไม่ได้ตรงกับสิ่งที่พราวมุกกับคุณแม่คุยกันไว้เลยแม้แต่น้อย “มันทำเลวขนาดนั้นมันไม่สมควรเป็นพ่อใคร” ภาพจำในอดีตเมื่อหกปีที่แล้วลูกสาวอย่างพราวมุกร้องไห้เสียใจมากแค่ไหนเขายังจำได้ดี หากลูกสาวไม่ขอไว้บอกเลยว่าไอ้เวรนั่นคงไม่มีชีวิตสงบสุขแบบนี้ “แต่หลานอยากเจอพ่อนะคุณ” คุณแม่ได้แต่พูดขึ้น เธอรู้ดีสามีเกลียดชังคนรักของลูกสาวมากแค่ไหน “ของขวัญพูดเองหรอ” “ของขวัญถามหนูว่าตัวเองมีคุณพ่อหรือเปล่า” พราวมุกตอบกลับไปตามตรง เธอไม่มีอะไรต้องโกหกเพราะทุกอย่างเธอเองก็อยากได้คำปรึกษาและคำแนะนำ “พ่อไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังเลวเหมือนเดิมไหมแต่หากเป็นไปได้พ่อไม่อยากให้พราวกับของขวัญไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก” “พราวก็ไม่อยากยุ่งกับเขาแต่ติดตรงของขวัญ” เป็นจริงตามที่พราวมุกพูด หากไม่มีเรื่องอะไรเธอเองไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเมฆหมอกอีกแล้ว ที่ผ่านมาเธอบอกเขาตลอดแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว “งั้นพราวก็คอยดูมันเอาไว้หากมันดีพอและพร้อมจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆพราวก็ค่อยบอกมัน” “แต่หลานรอนะคุณ” “ผมแค่ไม่อยากให้ลูกเสียใจอีกแล้ว” เพราะลูกสาวคนเดียวที่รักและดูแลราวกับไข่ในหินกลับโดนผู้ชายที่ไหนไม่รู้ทำให้เจ็บช้ำและเสียใจ เขาเองก็ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “งั้นหนูจะดูพฤติกรรมของเขาก่อนเพราะตอนนี้มันเหมือนกับว่าเขาอยากกลับเข้ามาในชีวิตหนูอีกครั้ง” “ทั้งๆที่พราวบอกมันว่าแต่งงานมีลูกแล้วน่ะหรอ” “ก็ค่ะคุณพ่อ” “ให้ตายเถอะ ! คนดีๆที่ไหนจะเป็นแบบนี้” ❤️ เออ ! คุณดีๆที่ไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD