“ไอ้เมฆเปิดเทอมวันแรกพาหลานไปส่งโรงเรียนด้วย” ทันทีเมื่อรับสายเสียงของพี่ชายฝาแฝดก็ดังขึ้น
“มึงเป็นพ่อทำไมไม่ไปส่งลูก” เมฆหมอก ถามกลับไปเพราะเปิดเทอมวันแรกคนเป็นพ่อคนเป็นแม่ยังไงก็ต้องไปส่งลูกผู้เป็นดั่งดวงใจไปโรงเรียน
“กูกับแก้มหอมต้องบินไปคุยธุรกิจ” พี่ชายฝาแฝดอย่างฟ้าครามตอบกลับมาตามตรง
“ทั้งๆที่เมียท้อง”
แน่นอนในตอนนี้เมฆหมอกสงสัยไม่น้อย ทั้งๆที่น้องแก้มหอมภรรยาของพี่ชายฝาแฝดกำลังท้องแต่ทว่ากลับต้องบินไปคุยธุรกิจกับสามี
“เจ็ทส่วนตัว”
“แล้วพี่เฟรชจะยอมไหม”
เมฆหมอกได้แต่เอ่ยถามถึงหลานสาวเพราะเปิดเทอมวันแรกเด็กๆคงจะหวังให้คุณพ่อคุณแม่ไปส่งแต่สำหรับหลานสาวของเขากลับกลายเป็นคุณอา
“กูคุยกับพี่เฟรชแล้ว พี่เฟรชบอกว่าให้คุณอาไปส่งเพราะยังไงคุณอาก็หน้าเหมือนคุณพ่อ”
“วันไหน”
“พรุ่งนี้แต่คืนนี้มึงมานอนที่บ้านก็ได้เพราะกูบินสายๆกลัวยุ่งๆเตรียมตัวพี่เฟรชไม่ทัน”
“ถ้าไม่มีกู มึงจะทำยังไงไอ้คราม”
แน่นอนว่าเมฆหมอกสงสัยไม่น้อย หากไม่มีเขาอยู่ตรงนี้พี่ชายฝาแฝดจะทำยังไงก็คงไม่พ้นให้คุณพ่อคุณแม่มาดูหลานหากธุรกิจที่ต้องคุยมันสำคัญจนเลื่อนไม่ได้
“เพราะรู้ว่ามีมึงไงกูเลยไม่เดือดร้อน ยังไงก็ฝากพี่เฟรชด้วยดูแลให้เหมือนลูกตัวเองนะไอ้เมฆ”
สำหรับเมฆหมอกเขาดูแลหลานสาวดีอยู่แล้วเพราะเขาประคบประหงมมาตั้งแต่แรกเกิดจนตอนนี้สามขวบเตรียมจะขึ้นเรียนในชั้นอนุบาลหนึ่งแล้ว
“กูจะเข้าไปตอนเช้า”
คืนนี้ปล่อยให้หลานสาวใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ไปก่อนก็แล้วกัน หลังจากนั้นตัวของเขาที่เป็นคุณอาก็จะรับหน้าที่แทนทั้งหมด
“ตามใจมึง กูไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ยังไงก็ฝากด้วยนะ” ฟ้าครามพูดเพียงแค่นี้ก็วางสายไป ในเมื่อน้องชายอย่างเมฆหมอกจะเข้ามาในตอนเช้าก็ไม่มีอะไรต้องคุยต่อ ถือว่ารับรู้และเข้าใจกันแล้ว
“ไอ้สัส ! ตัดสายกูอีก” ส่วนเมฆหมอกก็ได้แต่สบถถ้อยคำด่าตามหลังไปเพราะเขาไม่คิดว่าพี่ชายจะไปนานถึงหนึ่งอาทิตย์
ตัวของเมฆหมอกไม่อะไรหรอกแต่หลานสาวจะมีปัญหาหรือรู้สึกอะไรหรือเปล่าที่ต้องห่างคุณพ่อคุณแม่นานถึงหนึ่งอาทิตย์
“นัดเมื่อกี้ยกเลิก” เมฆหมอกบอกกับเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้วยกันทันที
“ทำไมวะ” กอล์ฟถามขึ้นเพราะเขาสงสัยไม่น้อย เมื่อกี้ก็นัดกันดิบดีแต่ทว่าตอนนี้เพื่อนสนิทกลับยกเลิก
“พรุ่งนี้เช้ากูต้องไปส่งหลานไปโรงเรียนหากไปดื่มกลัวว่าจะไม่ตื่น”
“ขาดมึงไปสาวๆคงหายหมด”
“พูดเหมือนกูสนใจพวกผู้หญิง”
แน่นอนว่าเมฆหมอกไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย แม้จะไปดื่มสังสรรค์ที่คลับกับเพื่อนอยู่บ่อยๆแต่ข้างกายก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้
“มึงไม่สนใจแต่ผู้หญิงสนใจมึงไง เข้าหามึงจนหัวใจกูกระชุ่มกระชวย”
เป็นจริงตามที่กอล์ฟพูดออกมาเพราะผู้หญิงทุกคนล้วนให้ความสนใจกับเมฆหมอก ต่างเข้าหาพากันเข้ามาขอชนแก้วไม่หวาดไม่หวั่น
“พูดมาก”
“ว่าแต่ไม่ไปจริงๆหรอไอ้เมฆ”
“งดออกหนึ่งอาทิตย์ กูต้องรับบทเป็นคุณพ่อให้หลานเพราะพ่อมันไม่อยู่” เมฆหมอกตอบกลับไปตามตรงเพราะหลังจากนี้เขาคงต้องทำหน้าที่คุณพ่อแทนพี่ชายฝาแฝด
“โอเคๆ ถือว่าเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นคุณพ่อ”
“เมียยังไม่มีจะไปมีลูกได้ยังไง”
“ก็เปิดใจสักทีจะได้มีลูก”
“จะเปิดได้ยังไงในเมื่อกูไม่เคยลืมเขา”
เป็นจริงตามที่เมฆหมอกพูดออกมา ในหัวใจของเมฆหมอกมันมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ตลอดแม้เวลาจะผ่านพ้นไปนานแต่เมฆหมอกก็ไม่เคยลืมเลือน
“หกปีแล้วไอ้เมฆมันนานมากพอให้มึงมูฟออนได้แล้ว”
“ไม่ได้หรอกเพราะกูยังไม่รู้เลยว่าเขาทิ้งกูไปทำไม”
สำหรับเมฆหมอกเขาไม่เคยมูฟออนได้เลย หกปีมันนานมากก็จริงแต่เมฆหมอกไม่เคยลบเด็กผู้หญิงผมเปียออกไปจากใจได้ มันมีแต่ความคิดถึงและคำถามเดิมๆว่าเธอทิ้งเขาและหายไปไหนหายไปทำไม
“ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง”
“มึงจะกลับยัง กูจะกลับแล้วนะ” ในตอนนี้เมฆหมอกไม่อยากคุยเรื่องนี้อีกแล้วเพราะมันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดเลยได้แต่ถามเพื่อนสนิทเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“พูดแบบนี้กูคงจะอยู่หรอก บริษัทตัวเองแท้ๆ” กอล์ฟได้แต่พูดขึ้นเพราะรู้ดีว่าตอนนี้เพื่อนสนิทคงเอ่ยไล่เป็นกลายๆจึงไม่รอช้าที่จะเดินออกมา
“ไว้เจอกัน” เมฆหมอกก็ไม่ลืมที่จะบอกลาก่อนจะเก็บของและกลับคอนโดของตัวเองไปทันที
วันต่อมา
“ตื่นเต้นไหมคะ วันนี้พี่เฟรชไปโรงเรียนวันแรกเลย” เมื่อขี้นมาอยู่บนรถเมฆหมอกก็ไม่รอช้าที่จะถามหลานสาวคนสวยขึ้น
เด็กน้อยที่เห็นตั้งแต่แรกเกิดจนตอนนี้สวมใส่ชุดนักเรียนน่ารัก คนเป็นคุณอาอย่างเมฆหมอกก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้ม
ฟอด
“เย๊ย ! คุณอาหอมแก้มเฟรช” หลานสาวคนสวยพูดขึ้นทันทีพร้อมทำท่าเขินอายกับการโดนคุณอาหอมแก้ม
“แล้วตื่นเต้นไหมคะกับการไปโรงเรียนวันแรก” เมฆหมอกถามขึ้นอีกครั้งเพราะอยากรู้ความรู้สึกของหลานสาวในตอนนี้
“เฟรชตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะคุณอา” หลานสาวคนสวยตอบกลับมาเพราะการไปโรงเรียนวันแรกมันน่าตื่นตาและตื่นใจจนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
“เสียดายไหมคะ วันแรกคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มาส่ง”
“มีคุณอามาส่ง เฟรชก็โอเคแล้วเพราะคุณอาหน้าเหมือนคุณพ่อ” หลานสาวตอบกลับมาตามตรง
แน่นอนเฟรชไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเข้าใจดีว่าคุณพ่อคุณแม่ไปทำงาน ถึงคุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้มาส่งเข้าโรงเรียนในวันแรกแต่ก็ยังมีคุณอามาส่ง แค่นี้มันสามารถทดแทนกันได้และไม่มีอะไรเสียหายเลย
“ฮ่าๆ คุณอาจะส่งให้ถึงห้องเรียนเลย”
เมื่อได้ยินคำตอบของหลานสาวเมฆหมอกก็พอสบายใจได้บ้างเพราะอย่างน้อยหลานสาวของเขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
“อุ้มๆได้ไหมคะ เฟรชอยากให้คุณอาอุ้ม” เมื่อถึงโรงเรียนหลานสาวตัวน้อยก็ไม่รอช้าที่จะพูดขึ้น
“ตามบัญชาเลยค่ะคนสวยของคุณอา” เมฆหมอกไม่ขัดอะไรอุ้มหลานสาวของตัวเองไว้ในอ้อมแขนและเดินเข้าไปยังห้องเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง
“พี่เฟรชของคุณอาจะร้องไห้ไหม”
“เฟรชไม่ร้อง เฟรชโตจนเป็นพี่สาวแล้วน้า”
ในตอนนี้เมฆหมอกไม่มั่นใจเลยเพราะเด็กน้อยหลายๆคนกำลังร้องไห้กอดแข้งกอดขาคุณพ่อคุณแม่ บางคนก็กำลังสะอึกสะอื้น ให้ตายสิ ! หากพี่เฟรชเป็นแบบนั้นมีหวังคนเป็นคุณอาอย่างเขาต้องตายแน่ๆ
“เก่งมากค่ะคนสวย ใกล้ถึงห้องเรียนแล้ว พี่เฟรชพร้อมหรือยังคะ”
“อยู่ๆเฟรชก็กลัว ฮือ…คุณอาขาเฟรชจะร้องไห้”
ใบหน้าจิ้มลิ้มของหลานสาวพูดขึ้นพร้อมเบะลงทำท่าจะร้องไห้ทำเอาเมฆหมอกใจแป้วกลัวว่าหลานจะร้องไห้
“โถ่ ! หลานคุณอา ไม่ร้องนะคะคุณอาอยู่ตรงนี้ไง ยังอุ้มพี่เฟรชอยู่เลย” เมฆหมอกได้แต่พูดปลอบเพราะในตอนนี้เขายังไม่ไปไหน ยังคงโอบอุ้มหลานสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน
“แต่เดี๋ยวเฟรชต้องเข้าไปในห้องคนเดียว”
“คนเดียวที่ไหนเพื่อนเยอะแยะเลย”
“เฟรชจะร้องไห้”
“ถ้าวันนี้พี่เฟรชไม่ร้องไห้ ตอนเย็นคุณอาจะพาไปซื้อแคร์แบร์”
สำหรับตุ๊กตาแคร์แบร์เป็นสิ่งที่พี่เฟรชชอบมาก เมฆหมอกจึงไม่รอช้าที่จะเอาตุ๊กตาตัวโปรดมาหลอกล่อเพราะอย่างน้อยมันคงทำให้หลานสาวของเขาไม่ร้องไห้
“ให้กี่ตัวคะ”
“สองตัวเลยค่ะ”
“เฟรชจะไม่ร้องไห้ค่ะคุณอา ฮึบๆ เฟรชจะสู้” ใบหน้าจิ้มลิ้มยกยิ้มออกมา ได้ตุ๊กตาแคร์แบร์ถึงสองตัวคงต้องฮึบๆเอาไว้ห้ามร้องไห้ออกมาเด็ดขาด
“ฮ่าๆ สู้ๆนะคะ ตอนเย็นคุณอาจะมารับโอเคไหมคนสวย” เมฆหมอกพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมปล่อยหลานสาวลงพื้นเพื่อเตรียมเข้าห้องเรียน
“เฟรชจะพยายามโอเคนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณพ่อ ทางเราจะดูแลน้องอย่างดีเลยค่ะ” คุณครูประจำชั้นที่ยืนรอพูดขึ้นทันทีเพราะสำหรับเด็กๆทุกคนก็จะได้รับการดูแลอย่างดีจากเหล่าคุณครู
“คนนี้คุณอาค่ะ ไม่ใช่คุณพ่อพอดีว่าคุณอาหน้าเหมือนคุณพ่อค่ะคุณครู” เฟรชไม่รอช้าที่จะพูดแก้ต่างให้กับคุณอาเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
“เอ่อ…ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ พอดีผมเป็นแฝดคุณพ่อเขา ยังไงฝากคุณครูดูแลหลานสาวผมด้วยนะครับ”
“จะดูแลอย่างดีเลยค่ะ”
“แคร์แบร์สองตัวนะคะคุณอา” เฟรชไม่ลืมที่จะเอ่ยทวงตุ๊กตา ตอนนี้เขาไม่ร้องไห้เพราะพยายามคิดถึงแต่ตุ๊กตาที่คุณอาจะพาไปซื้อ
“ถ้าเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน คุณอาจะพาไปกินไอศกรีมด้วย” เมฆหมอกยื่นข้อเสนอให้อีกหนึ่งอย่างเพราะอย่างน้อยทุกอย่างก็ถือเป็นกำลังใจสำหรับหลานสาวตัวน้อยในวันนี้
“คุณครูขา ตอนเย็นยืนยันกับคุณอาให้เฟรชด้วยน้า”
“ฮ่าๆ ค่ะๆ”
“คุณอาไปก่อนนะพี่เฟรช ตอนเย็นจะมารับ”
“บ๊ายบ่ายค่ะคุณอา”
หลังจากส่งหลานสาวคนสวยเข้าห้องเรียนไปได้เรียบร้อย เมฆหมอกก็ไม่รอช้าเดินตรงมายังลานจอดรถแต่ทว่าสายตาคมกลับมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่ท่าทางละม้ายคล้ายกับใครคนหนึ่งที่อยู่ในใจเมฆหมอกมาตลอดหกปี
ร่างกายใหญ่ที่แสนกำยำยืนตัวเกร็งแทบจะไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้าคือคนที่เขาพยายามตามหามาตลอดหกปีแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอ ถึงแม้ตอนนี้จะมั่นใจแค่ไหนว่าใช่แต่ทว่าปากที่เอ่ยเรียกกลับไม่มั่นใจกลัวว่าสายตาจะผิดเพี้ยนมองผิดคน
“พราว พราวมุก ใช่พราวจริงๆด้วย”
“พะ…พี่เมฆ”
“พราวหายไปไหนมาพราวทิ้งพี่ไปทำไม”
❤️
ขะ…เขาเจอกันแล้ว