...คุณเชื่อในเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม.. เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้ จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดก็เกิดขึ้นในชีวิตของผม เมื่อผมได้พบกับเธอ ผู้หญิงที่เหมือนกับคนรักที่ตายจากไปแล้วถึง 21 ปีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง อายุ หรือแม้กระทั่งชื่อของเธอ ..ตะวัน..
สามเดือนก่อนหน้า
วันนี้ผมมีนัดทานข้าวกับเพื่อนซี้เพียงคนเดียวก็คือ ไอ้นีโอ ในชีวิตตั้งแต่ประถม มัธยม เข้ามหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบมารับช่วงต่อบริษัทของพ่อ ก็มีมันเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวมาตลอด วันนี้ไอ้นีโอโทรมาชวนให้ออกมาทานข้าวด้วยกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาร่วม 2 เดือน
“ไอ้เคล นี่เมื่อไหร่มึงจะคบใครเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็แต่งงานสักทีวะ แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว” และก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่มันมาเจอหน้าผม ที่มักจะพูดเรื่องเดิม ๆ อยู่ตลอดเวลา ใครจะไม่อยากก้าวเดินไปข้างหน้าหาคนมาเดินเคียงข้างกาย แต่สำหรับตัวผม ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดเคลื่อนไหวตั้งแต่ 21 ปีที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ตะวันจากผมไป
“มึงก็รู้ว่ากูคงคบใครไม่ได้หรอก ชาตินี้ให้ตายก็คงไม่มีใครมาแทนที่ตะวันได้ นอกเสียจาก..”
“นอกเสียจากอะไรของมึงวะเคล”
“นอกเสียจากตะวันจะกลับชาติมาเกิด แล้วกูก็ตามหาตะวันพบในชาตินี้” จบประโยคที่ผมพูดไอ้นีโอก็แทบจะสำลักเบียร์ที่มันพึ่งกระดกเข้าปากไป
“ไอ้เชี่ยเคล มึงอายุจะ 44 ปีแล้วนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ ยังจะมามัวงมงายเรื่องพวกนี้อยู่อีก” ก็ตามที่เพื่อนผมพูดนั่นแหละ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ตะวันจะกลับชาติมาเกิด แล้วกลับมาเป็นคนคนเดิม ถึงแม้เธอจะเกิดใหม่ได้จริง ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนอยู่ดี
“แล้วนี่มึงจะไปไหน” ไอ้นีโอถามขึ้นเมื่อเห็นผมลุกขึ้นจากเก้าอี้
“จะไปห้องน้ำ มึงจะตามไปเฝ้ากูไหมล่ะ” ผมถามกลับพร้อมส่ายหัวให้มัน ไอ้นีโอแต่งงานแล้วมีลูกชายหนึ่งคน แล้วคนที่มันแต่งงานด้วยก็คือกีตาร์ เพื่อนสนิทของตะวันนั่นแหละ ส่วนสโนได้แฟนเป็นคนต่างชาติ แต่งงานแล้วย้ายไปอยู่กับสามีที่อเมริกาได้หลายปีแล้วนาน ๆ จะกลับมาทีหนึ่ง
ปัก! ขณะที่เดินกำลังจะเลี้ยวเข้าไปทางห้องน้ำ ก็มีบางคนชนเข้ากับผมเต็มแรง
“ขอโทษนะคะ หนูขอโทษ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ตายแล้วชุดคุณเปื้อนเยอะเลย เดี๋ยวหนูเช็ดให้นะคะ” ผมก้มหน้ามองเจ้าของเสียงที่ฟังแล้วคุ้นเสียเหลือเกิน แล้วสิ่งที่ห็นอยู่ตรงหน้านั้นทำเอาผมชะงักนิ่งแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ตะ ตะวัน” ผมเอ่ยเรียกหญิงสาวที่อยู่ในชุดที่คาดว่าจะเป็นพนักงานของร้านอาหารด้วยความลืมตัว
เธอเหมือนกับตะวันไม่มีผิด ทั้งรูปร่าง หน้าตา สีผม หรือแม้แต่น้ำเสียงของเธอ
“เอ๋? คุณรู้จักชื่อหนูด้วยเหรอคะ” ใบหน้าเล็กเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“ธะ เธอชื่อตะวันเหรอ” คำพูดผมตอนนี้ติด ๆ ขัด ๆ แทบจะไม่เป็นคำพูด ไม่อยากจะเชื่อทั้งสายตาและก็หูตัวเอง
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิงค่ะ หนูชื่อดุจตะวันค่ะ ชื่อเล่นว่า ซันไชน์ ที่แปลว่าแสงอาทิตย์ แต่ส่วนมากคนอื่น ๆ จะเรียกหนูว่าซัน ที่แปลว่าดวงอาทิตย์แทนค่ะ” เสียงเล็กเจื้อยแจ้วนั้นพูดแนะนำตัวพร้อมอธิบายความหมายของชื่อตัวเองโดยละเอียด พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าตัวเองเช็ดคราบที่เลอะบนเสื้อของผมไปด้วย
“พอแล้ว ไม่ต้องเช็ดแล้ว เดี๋ยวฉันเอากลับไปซักเองได้” ผมจับข้อมือเล็กให้หยุดการเคลื่อนไหว เธอเงยขึ้นมาสบตาเล็กน้อยก่อนที่จะบิดข้อมือออกจากการถูกเกาะกุม
“แต่ว่า คุณจะไม่ฟ้องผู้จัดการใช่ไหมคะ” ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมามองด้วยแววตาอ้อนวอน ทำเอาหัวใจของผมที่ด้านชามาหลายปีแทบจะละลายลงไปเสียตรงนี้ให้ได้
“ไม่ฟ้องหรอก สบายใจได้” รอยยิ้มกว้างระบายบนใบหน้าขาวเนียนทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ เหมือน เหมือนมากจริง ๆ ยิ่งเวลาเธอยิ้มยิ่งเหมือนกับตะวัน
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าอย่างนั้นหนูไปทำงานก่อนนะคะ อ่อ แล้วก็ขอโทษอีกครั้งที่ทำชุดคุณเปื้อนนะคะ” คนตัวเล็กโค้งหัวลงพร้อมกับกล่าวคำขอโทษ
“เดี๋ยว เธอทำงานที่นี่ทุกวันหรือเปล่า” ไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร ผมยื่นมือไปคว้าข้อมือเธอเอาไว้ เธอหันมามองหน้าผมด้วยความแปลกใจเล็กน้อย นั่นทำให้ผมได้สติปล่อยมือออก
“ไม่ทุกวันหรอกค่ะ หนูมาทำแค่วันศุกร์ กับวันเสาร์ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ หายมานานแล้วเดี๋ยวโดนผู้จัดการดุค่ะ” เธอโค้งหัวให้ผมอีกครั้งแล้วก็เดินกลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ
“หายไปไหนมาวะ ห้องน้ำก็อยู่แค่นี้” เพื่อนตัวดีบ่นขึ้นมาทันทีเมื่อผมกลับมานั่งลงที่เดิม
“ก็ไปห้องน้ำมา แต่พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” ผมตอบกลับมันไปตามความจริงนั่นแหละ แต่สายตาผมตอนนี้เอาแต่มองหาผู้หญิงคนเมื่อกี้
“มองหาอะไรวะไอ้เคล ท่าทางกระวนกระวายใจตั้งแต่เมื่อกี้” ไอ้นีโอคงจะสังเกตอยู่นานจนทนไม่ไหวก็เลยทักขึ้น
“ไอ้นีโอ คืองี้นะเว้ย มึงจะว่ากูงมงาย กูเป็นบ้าหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่กูว่ากูเจอแล้วว่ะ”
“เจออะไรของมึงวะ”
“กูเจอตะวันแล้ว เมื่อกี้ที่ทางไปห้องน้ำ” จบประโยค ไอ้นีโอก็หลุดขำผมออกมาเสียงดัง พร้อมกับโบกไม้โบกมือส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอก
“ไอ้เคล เบียร์แค่ไม่กี่แก้วก็ทำให้มึงเมาแล้วเหรอ กูรู้ว่ามึงรักตะวันมาก แต่อาการขนาดนี้ มึงควรจะไปหาหมอนะ”
เป็นใครก็คงไม่เชื่อหรอกผมเข้าใจได้ แต่สำหรับผม ผมเชื่อสนิทใจว่านั่นคือตะวัน บนโลกใบนี้มันคงไม่มีเรื่องบังเอิญอะไรขนาดนั้น ทั้งรูปร่าง หน้าตา น้ำเสียง แม้กระทั่งชื่อ นอกเสียจากเธอจะเป็นตะวันจริง ๆ
//////
หลังจากวันที่ผมเจอเธอครั้งแรก ผมก็แวะเข้าไปที่ร้านอาหารนั้นอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะไปเมื่อไหร่ ผมก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นอีกเลย จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว ที่ผมพยายามตามหาเธอ ผู้หญิงที่ผมมั่นใจว่าเป็นคนรักกลับชาติมาเกิด ผู้หญิงที่ผมมั่นใจว่าเธอคือ ตะวัน..
//////////