บทที่4
หลังจากสอบเสร็จเรียบร้อย นาเดียก็พาพี่เลี้ยงไปช๊อปปิ้งซื้อของใช้มากมาย บอดี้การ์ดที่ตามมาอีกสองคนช่วยถือจนล้นมือ กว่าจะขนขึ้นเรือได้ เล่นเอาผู้ชายตัวโตสองคนลิ้นห้อย ให้ฝึกต่อสู้ยิงปืนยังไม่เหนื่อยเท่ากับเดินตามผู้หญิงช๊อปปิ้ง
นาเดียรีบขึ้นเรือ เธอซื้อของใช้มากมายตุนไว้สำหรับ 3-4เดือนเลยทีเดียว เพราะสอบคราวนี้คือการสอบครั้งสุดท้ายแล้ว ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้เข้าเมืองอีก เธอไม่ชอบอยู่ในเมืองที่มีแสงสีเสียงมากมาย รู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเธอ ไม่ใช่โลกที่เธอควรจะอยู่ สงสัยจะอยู่บนเกาะ อยู่กับธรรมชาติมากจนเกินไป
นาเดียนั่งเรือเรือยอร์ชกลับไปยังเกาะ ร่างบางนั่งอยู่ท้ายเรือชมวิวท้องทะเลสีฟ้าอ่อนที่สะท้อนสีของท้องฟ้าแต่อยู่ๆผมของเธอก็ชี้ตั้งราวกับไฟฟ้าสถิต ผมยาวชี้ออกไปคนละทิศคนละทาง เพียงแค่อึดใจเดียว แสงสีขาวก็สว่างวาปจนตาพร่า
ร่างบางนั่งมองสีฟ้าของทะเลที่ทอดไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา เธอหมดแรงนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตรงกับศีรษะ จนตอนนี้พระอาทิตย์คล้อยต่ำ เธอฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนชายหาดเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าตัวเองมาเกยตื้นบนหาดได้อย่างไร สลบไสลไปนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เรือที่โดยสารมาถูกฟ้าผ่าเข้ากลางลำ เธอจำเหตุการณ์ได้เพียงแค่นี้ พยายามเดินตามชายหาดหวังว่าจะเจอคนที่รอดชีวิตคนอื่นๆ แต่เดินจนหมดแรงก็ไม่พบใครเลย จึงทำได้เพียงนั่งมองพื้นทะเล
“ม๊า ป๊า ตามหาเดียให้เจอนะคะ เดียจะรอป๊ากับม๊ามาช่วย” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมา เป็นครั้งแรกที่นาเดียร้องไห้ ไม่ว่าจะทุกข์เศร้าเพียงใด ก็ไม่มีใครเคยเห็นน้ำตาของเธอเช่นเดียวกับรอยยิ้มสดใส เธอหวังว่าหากวันนี้เธอยังกลับไม่ถึงเกาะ ป๊ากับม๊าจะต้องรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุ และจะต้องส่งคนออกมาตามหาเธอกับพวกพี่ๆ ในใจลึกๆก็หวังให้ทุกคนรอดชีวิตเหมือนกับเธอ
นาเดียกอดเขานั่งอยู่ริมชายหาดจนตะวันลับขอบฟ้าไป ร่างกายเธอขาดน้ำมาหลายชั่วโมงแล้ว
“เจ้ามานั่งทำอะไรมืดแบบนี้มันอัตราย” เสียงหญิงชรา เอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง
นาเดียได้ยินเสียงนั้นชัดเจน รีบหันกลับไปมอง หญิงชราถือโคมไฟดวงน้อย ท่ามกลางความมืดมิด นาเดียได้ยินชัดเจนเมื่อครู่นี้คุณยายคนนี้พูดภาษาจีนกับเธอ
“คุณยายค่ะ หนูประสบอุบัติเหตุเรือคว่ำค่ะ คุณยายช่วยหนูได้ไหมค่ะ พาไปส่งในเมือง หรือพาไปพบใครที่พอจะช่วยหนูได้” นาเดียรับลุกแล้ววิ่งเข้าไปในแสงสว่างของโคมไฟ รีบพูดรัวภาษาแม่ของครอบครัวทันที แม้ว่าที่ผ่านมาจะพูดเพียงภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ภาษาจีนเธอก็ไม่เคยลืม
หญิงชราหรี่ตามองสาวแปลกหน้า เนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าแปลกตา คำพูดคำจนแปร่งหู ราวกับไม่ใช่คนท้องถิ่น แต่เมื่อคนมาขอความช่วยเหลือ ใยเลยจะมองข้าม จึงพยักหน้าให้เดินตามเข้าไปในป่า ค่อยๆห่างจากชายหาดไปเรื่อยๆ แม้นาเดียจะกังวลว่าหากมีเรือมาตามหาจะไม่พบเธอ แต่เวลานี้ตามคุณยายไปคงจะเป็นการดีสำหรับตัวเธอมากที่สุด
“ข้าคือแม่เฒ่าม่านม่าน ข้าอยู่ที่นี่คนเดียว หากจะเข้าเมืองคงต้องรออีกวันสองวัน พายุฝนทำให้เดินเข้าเมืองลำบาก” หญิงชรา พานาเดียเดินตรงมายังกระท่อมกลางป่าที่นางใช้อยู่อาศัย หยิบเสื้อผ้าป่านเก่าๆสีมอซอส่งให้หญิงสาวเปลี่ยน นิ้วเหี่ยวย่นชี้ไปยังตุ่มใส่น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆกระท่อม
“ขอบคุณค่ะ หนูชื่อหยางจื่อค่ะ” นาเดียรีบรับเสื้อผ้ามาอย่าไม่รู้สึกรังเกียจแม้สีของมันจะดูเก่า แต่ก็สะอาดกว่าชุดที่เธอใส่อยู่ในตอนนี้ แนะนำตัวด้วยชื่อจีนที่บิดามารดาตั้งให้ หอบเสื้อผ้าทั้งหมดเดินมาใกล้ตุ่มน้ำ ถอดเสื้อออกมาซักให้สะอาดแล้วน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว ผลัดเปลี่ยนเป็นชุดที่หญิงชรามอบให้ แล้วเดินตามเข้ามานั่งในกระท่อม เห็นหญิงชรากำลังนำอาหาร2-3 อย่างวางบนโต๊ะ จึงรีบวิ่งกุลีกุจอเข้าไปช่วย
“หนูช่วยค่ะ” ถามว่าในชีวิตนี่เท่าที่จำความได้เคยทำแบบนี้ไม่ ตอบเลยว่าไม่ มีคนคอยดูแลหาอาหารตั้งโต๊ะไว้เรียบร้อยทุกมื้อ แต่ตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว นาเดียต้องอาศัยหญิงชราให้ช่วยเหลือ