8 คนอันตราย

1770 Words
เบลินดาเดินตามอลันออกมาจากลิฟต์ หญิงสาวเลี่ยงการสบตาจากผู้คนที่เดินสวนไปมา พยายามทำตัวเป็นปกติเพื่อไม่ให้คนรอบข้างสงสัยว่าไปทำอะไรมา “เอ่อคือว่า…” เธอพูดพร้อมเอื้อมมือไปจับแขนของเขาที่เดินอยู่ข้างหน้า ทำให้เขาหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง “เดี๋ยวเบย์กลับเองก็ได้ค่ะ” “ตามใจ” มาเฟียหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะตวัดสองเท้าเดินออกไป ทิ้งให้เบลินดายืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว หญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่หลงรักมาหลายปีจนกระทั่งเขาหายลับสายตาไป เธอเดินออกมาทางประตูหน้าของโรงแรมด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่ประเดประดังเข้ามา แม้เรื่องราวเมื่อคืนจบลง หากแต่ความรู้สึกจากการโดนเขาสัมผัสยังไม่หายไป ยังจดจำได้ทุกอย่างไม่ลืมเลือน ครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์ช่วยฉุดดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดจากเรื่องราวเมื่อคืน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรมา พอรู้ว่าเป็นน้องชาย จึงปัดหน้าจอแล้วยกขึ้นแนบใบหู “ว่าไงไบรท์” (เมื่อคืนพี่หายไปไหนทั้งคืน ผมไลน์หาก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับอีก) น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากปลายสายทำให้เธอรับรู้ได้เลยว่าน้องชายเป็นห่วงมากแค่ไหน เพราะเมื่อคืนไม่ได้บอกว่าไม่ได้กลับบ้าน “ได้โทรไปหาพี่มิลไหม?” (โทร พี่มิลบอกว่าพี่เบย์นอนค้างด้วย แต่ผมไม่เชื่อเพราะพี่ติดต่ออะไรไม่ได้เลย) “เมื่อคืนพี่ทำงานดึก แถมยังเหนื่อยมากๆ เลยขอพักกับพี่มิล ส่วนเรื่องไม่ได้ตอบไลน์และไม่ได้รับสาย พี่ขอโทษนะ” (ผมเป็นห่วงพี่แทบแย่ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น) “พี่กำลังกลับบ้าน แล้วนี่อยู่ไหน?” (โรงเรียน ผมทำกับข้าวไว้เผื่อด้วย อย่าลืมกินล่ะ) “อืม แค่นี้แหละ ไปเรียนได้แล้ว” พอไบรท์กดวางสาย เธอก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพายดังเดิม ตวัดสองเท้าเดินออกไปจากตรงนี้เพื่อเรียกแท็กซี่กลับบ้าน แกร๊ก เธอเปิดประตูห้องนอนออกหลังจากมาถึงบ้าน จากนั้นเดินกะเผลกตรงไปยังเตียงนอน วางกระเป๋าสะพายลงแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลามองเพดานสีขาวตรงหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงลอยวนเวียนในหัวตั้งแต่ตอนอยู่โรงแรมไม่หายไปไหน ทุกอย่างจบ แต่ทว่าทุกอย่างที่อลันกระทำเอาไว้ มันถูกเก็บไว้ในความทรงจำของเธอ… ไม่เคยคิดว่่าวันหนึ่งจะต้องมาทำเรื่องบนเตียงกับชายหนุ่มที่แอบรักมานานหลายปี อีกทั้งเขายังดูเหมือนช่ำชองมากประสบการณ์อีกต่างหาก ยอมรับว่าไม่กล้าไปเจอหน้าเขาอีก ถ้าหากเขารู้ว่าเธอรักเขา…เขาจะมองเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนนะ ติ้ง… เสียงข้อความจากไลน์ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิด เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ามาเปิดอ่านว่าใครแชตมา หมั่นโถว : พรุ่งนี้สี่โมงเย็นว่างไหม ไปดูผู้ชายแข่งรถเป็นเพื่อนหน่อยสิ เบลินดา : ที่ไหน หมั่นโถว : เดี๋ยวพาไป สรุปพรุ่งนี้แกตกลงไปเป็นเพื่อนฉันใช่ไหม? เบลินดา : ก็ได้ เธอตอบตกลง ที่ผ่านมาหมั่นโถวช่วยเหลือเธอมามากมาย แต่ไปนั่งดูรถแข่งเป็นเพื่อนเฉยๆ ไม่ได้ลำบากอะไรเธอหรอก หมั่นโถวตอบสติกเกอร์กลับมา พร้อมเสริมอีกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ ความจริงตอนนี้สภาพร่างกายเธอไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร แถมยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายกับจะเป็นไข้อีกด้วย ‘เมื่อใดก็ตามที่เงินออกจากบัญชีฉันไปแล้ว…ฉันไม่รับคืนทุกกรณี’ ‘แต่นี่มันมาก…’ ‘ถ้าเธออยากชดใช้คืน ก็ใช้อย่างอื่นจ่ายแทนเงินสิ’ ‘ใช้อะไรจ่ายแทนเหรอคะ?’ ‘ร่างกายของเธอไง…’ คำพูดเหล่านั้นของอลันที่ดัังก้องในหัวพานทำให้ใบหน้าเธอร้อนเห่อขึ้นมาอัตโนมัติ ถ้าหากเธอต้องการค*****นที่เขาโอนเกินมาให้ เธอจะต้องจ่ายเป็นอย่างอื่นเท่านั้น “เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ…” เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับพึมพำกับตัวเอง ยิ่งได้รู้จักผู้ชายคนนี้ ยิ่งรู้สึกว่าเขาลึกลับและเดาอะไรได้ยากมาก เบลินดาสะบัดไล่ความคิดในหัวออก ก่อนจะพาร่่างกายบอบช้ำไปยังห้องน้ำเพื่อดูร่องรอยจากการกระทำของอลันเมื่อคืน “….” เธอมองรอยแดงช้ำบนร่างกาย พลางใช้มือสัมผัส รอยเหล่านี้เป็นฝีมือของอลัน ไม่ว่าจะสัมผัสไปจุดไหนก็รู้สึกเจ็บระบมไปหมด @ไนต์คลับ “มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวหืมเบย์” เสียงของมิลทำให้เบลินดาที่นั่งกุมขมับอยู่มุมหนึ่งของไนต์คลับเงยหน้าขึ้นมอง “ปวดหัวนิดหน่อยค่ะพี่มิล” “กินยารึยัง” “กินแล้วค่ะ” “ไปพักก่อนไหม ท่าทางของเบย์ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรเลยนะ” “นั่งพักสักแป๊บคงหายแล้วค่ะ” เธอพูดแล้วยิ้มให้คนตรงหน้า เพิ่งทานยาไปก่อนหน้านี้ คิดว่านั่งพักอีกสักแป๊บอาการปวดหัวคงดีขึ้น “แน่ใจนะ เกิดวูบขึ้นมาตอนทำงานจะทำยังไง” “เบย์ไหวค่ะ” “ถ้าไม่ไหวรีบบอกพี่นะเข้าใจไหม” “ขอบคุณพี่มิลมากๆ นะคะที่เป็นห่วง” “อืม พี่มีประชุมต่อ ถ้ามีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ” เธอพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม มองตามพี่มิลที่เดินออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปทำงานต่อ ทว่าสายตากลับมองเห็นเสี้ยวหน้าคุ้นเคยที่เดินสวนไปอีกทางพร้อมชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่หิ้วปีกใครบางคนไปด้วย “เหมือนพี่อลันเลย…” เธอพึมพำกับตัวเอง ตัดสินใจเดินตามไปดูเพื่อให้หายข้องใจว่าผู้ชายคนนั้นใช่อลันหรือเปล่า ตุ้บ! แกร๊ก! “!!!!” ดวงตาคู่สวยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ภาพชายคนหนึ่งถูกเหวี่ยงลงแล้วมีปลายกระบอกปืนจ่อใส่หน้า และเจ้าของปืนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน…อลัน “ยะ…อย่าทำอะไรผมเลยนะครับคุณอลัน ผะ…ผมไม่ได้ตั้งใจจะบิดหนี้เลยนะครับ” “….” นัยน์ตาดำขลับเต็มไปด้วยความเย็นชามองลูกหนี้นิ่งๆ ไม่ได้ขยับเรียวปากตอบโต้อะไรกลับไป ความเงียบของมาเฟียหนุ่มพลอยทำให้ชายที่เป็นลูกหนี้หวาดกลัวหนักขึ้น “พี่อลัน…” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะได้เห็นอีกมุมของเขา…ทำไมเขาถึงดูน่ากลัวขนาดนี้ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบทันทีที่อลันพลันมาสบตา เบลินดาเริ่มทำตัวไม่ถูก ตัดสินใจหนีไปจากตรงนี้ทันที แต่ทว่าก้าวเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวเสียงปืนก็ได้ดังขึ้น นั่นทำให้หญิงสาวหยุดการเคลื่อนไหวไปโดยอัตโนมัติ สองมือยกขึ้นมาอุดหูตามสัญชาตญาณ ปัง! เฮือก! เธอสะดุ้งเฮือก เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าค่อยๆ หันกลับไปมองจุดกำเนิดเสียงปืน ภาพชายคนนั้นนอนแน่นิ่งทำให้ขาทั้งสองของเธออ่อนแรงลงอัตโนมัติ พี่อลันฆ่าชายคนนั้นด้วยมือของเขาเอง… สายตามองอลันซึ่งกำลังเดินเข้ามาหาพร้อมกระบอกปืนในมือที่เพิ่งปลิดชีพคนไป ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเย็นชา เมื่อได้สติกลับคืนมา เธอรีบก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยไม่รอให้เขาเข้าใกล้ หมับ! “กรี๊ดดด…!!!” เธอร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ในตอนกำลังวิ่งหนี แขนเล็กถูกมือใหญ่ของอลันตะปบจับไว้แน่น ก่อนจะถูกเขาจับกระแทกร่างกายใส่ผนังห้องหนาจนรู้สึกเจ็บไปทั่วแผ่นหลัง เสียงร้องดังเล็ดลอดไม่นานก็มีมือหนาของเขาปิดปากเอาไว้ “ถ้าไม่อยากตาย ก็หุบปาก” เธอเหลือบมองปลายกระบอกปืนที่เขาเลื่อนมาจ่อหน้าท้องด้วยความหวาดกลัว เขาน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้… อลันค่อยๆ คลายมือที่ปิดปากเบลินดาออก มองดวงตากลมโตคู่สวยซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เหตุการณ์เมื่อกี้คงทำให้เธอขวัญเสียไม่น้อย “มาทำอะไรตรงนี้” “แค่ผ่านมาค่ะ…” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “แน่ใจ?” “นะ…แน่ใจค่ะ” สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอต้องเลือกโกหกเขา หากพูดความจริงไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่า ยอมรับว่าตอนนี้กลัวเขามาก ทำไมเขาเมื่อก่อนและตอนนี้ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ราวกับนี่ไม่ใช่อลันคนเดิมที่เคยรู้จัก “ถ้าเธอโกหก จุดจบเธอจะเป็นแบบมัน” เขาพูดแล้วใช้ปลายกระบอกปืนชี้ไปยังร่างไร้วิญญาณของลูกหนี้ “เบย์บังเอิญผ่านมาเห็นจริงๆ นะคะ” “หึ…ฉันจับพิรุธคนโกหกออก” “….” เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันพร้อมหลบสายตาไปจากอลัน หลายคนที่บอกว่าเธอไม่เก่งเรื่องโกหกท่าจะจริงเพราะตอนนี้เธอถูกอลันจับได้แล้วว่ากำลังโกหก “ถ้ารู้ว่าโกหกไม่เนียน คราวหลังก็อย่าโกหก” “เบย์กลัว…” เธอตัดสินใจพูดความในใจออกมากับเขาตรงๆ “กลัวว่าถ้าพูดความจริง พี่อลันจะทำกับเบย์เหมือนผู้ชายคนนั้น” “เธออยากมีจุดจบแบบนั้น?” “มะ…ไม่ค่ะ ไม่อยากมีจุดจบแบบนั้น” เธอรีบปฏิเสธทันควันโดยไม่มองหน้าเขา ภาพรุ่นพี่หนุ่มในช่วงมัธยมปลายที่เธอเคยหลงรัก บัดนี้กลับกลายเป็นใครก็ไม่รู้ มีเพียงใบหน้าที่ละหม้ายคล้ายกัน หากแต่นิสัยใจคอกลับแตกต่างราวกับคนละคน นี่ใช่เขาหรืือเปล่านะ… ทำไมถึงดูไม่เหมือนอลันคนเดิมเลย… “ทำไมต้องฆ่าเขาด้วยคะ” “เรื่องของฉัน” มาเฟียหนุ่มตอบกลับด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ท่าทางของอลันทำให้เบลินดาเริ่มคิดแล้วว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเรื่องแบบนี้ เพราะสีหน้าและแววตาดูไม่มีความรู้สึกอะไร “หวังว่าสิ่งที่เธอเห็นวันนี้จะไม่หลุดไปถึงหูใคร ถ้าฉันรู้…เธอตาย” แววตาคมเข้มยามขยับเรียวปากพูดประโยคหลังเต็มไปด้วยความน่ากลัว จนพลอยทำให้เบลินดารู้สึกเสียวสันหลังวาบตาม เธอไม่สบสายตากับอลัน ยิ่งรู้จักเขามากขึ้นเท่าไรยิ่งรู้สึกว่าเขา…คือบุคคลอันตรายที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD