เธอเดินตามอลันมายังสถานที่แห่งหนึ่งไม่คุ้นเคย สายตาพลางกวาดมองไปรอบๆ บริเวณในที่แห่งนี้ โดยมีลูกน้องของเขาคอยเดินตามประกบ บอกตามตรงว่าไม่ชินกับอะไรแบบนี้เอาเสียเลย
อย่างที่พี่คนหนึ่งเคยบอกเธอ สำหรับอลันนี่ถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนธรรมดา ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ
แกร๊ก
ชายฉกรรจ์ที่ยืนเฝ้าประตู เมื่อเห็นเจ้านายมาจึงทำการเปิดประตูให้ เบลินดาไม่รอช้า รีบแทรกตัวเข้าไปในห้องนั้นก่อนอลันอย่างรวดเร็ว ชายฉกรรจ์ที่กำลังพุ่งไปจับตัวเบลินดาถูกห้ามไว้โดยอลัน
“ไม่ต้อง ปล่อยเธอไป”
“ครับนาย”
หญิงสาวพุ่งตรงไปหาคนเป็นพ่อที่ถูกขังเอาไว้ด้วยกรงเหล็กราวกับนักโทษต้องคดี เห็นสภาพแวดล้อมที่พ่อตัวเองได้รับก็อดเวทนาไม่น้อย
“พ่อ…” เธอเอื้อนเอ่ยเรียกพ่อที่นั่งอยู่มุมหนึ่งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอมองพ่อได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เพราตรงที่พ่อนั่งค่อนข้างมืด
“มาทำไม” เบลินดาจับกรงเหล็กเอาไว้ สายตามองพ่อตัวเองที่แสดงท่าทางเย็นชาใส่ด้วยความเจ็บปวด ดวงตาเริ่มปริ่มไปด้วยน้ำสีใส
“เบย์มาหาพ่อ เบย์จะทำทุกทางเพื่อให้พ่อเป็นอิสระ พ่อไม่ต้อง…”
“ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน”
“….” เธอพูดอะไรไม่ออก รู้สึกจุกที่กลางอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อพูดจาไม่รักษาความรู้สึก เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วกรอกกลิ้งดวงตาไปมาเพื่อบังคับไม่ให้น้ำตาไหลลงมา
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก”
“แต่ว่าเบย์เป็นห่วงพ่อ”
“ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉัน”
ท่าทางเย็นชาของพ่อทำให้เธอรู้สึกปวดหัวใจทุกครั้งที่ได้สัมผัส ไม่รู้เธอทำอะไรให้นักหนา ทำไมพ่อถึงเกลียดเธอมากขนาดนี้ พ่อไม่เคยทำแสดงความรักกับเธอ ไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ซึ่งแตกต่างจากน้องชายมาก จนบางครั้งแอบคิดว่า…เธอใช่ลูกของเขาไหม
“ไสหัวกลับไปซะ”
“พ่อ…”
“บอกให้ไปไง!”
เธอสะดุ้งเมื่อพ่อตวาดเสียงใส่ น้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้ไหลพรากอาบสองพวงแก้มอัตโนมัติ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เสียงสะอื้นไห้ของเบลินดาดังเล็ดไปตลอดทาง มือเล็กยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม ทว่ามันกลับไม่ยอมหยุดไหล เบลินดาหยุดอยู่มุมหนึ่ง เธอนั่งย่อตัวลงเพื่อร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ฮึก…” หลายปีที่ผ่านมาเธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดจากการกระทำที่คนเป็นพ่อปฏิบัติด้วย ยอมรับว่าไม่เคยได้รับความรักจากอีกฝ่าย แม้กระทั่งคำชมเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่เคยได้รับ
ตอนเด็กๆ ทำอะไรไม่ถูกใจ พ่อเธอก็ลงโทษโดยการตี จนบางครั้งทะเลาะกับแม่เพราะเรื่องที่พ่อตีเธอ มีแค่แม่เท่านั้นที่คอยอยู่ข้างๆ และมอบความรักให้เสมอมา
เธอเคยคุยกับแม่เรื่องชีวิตหลังการหย่า แม่บอกว่าจะพาเธอและน้องชายกลับไปอยู่ที่ประเทศจีนด้วยกันเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เธอและน้องชายค้านว่าขออยู่ที่นี่ ถึงพ่อไม่เคยแสดงออกว่ารักเธอ แต่เธอก็ไม่เคยแสดงท่าทางเกลียดพ่อ เพราะถึงยังไงก็ขึ้นชื่อว่าพ่อและเลี้ยงดูเธอมา
“ได้เจอพ่อสมใจรึยังทีนี้”
“….” เธอไม่ได้ตอบโต้อลัน
มาเฟียหนุ่มมองเบลินดาที่นั่งร้องไห้จนเนื้อตัวสั่นเทาแล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแขนเล็กให้ร่างบางของเธอลุกขึ้น
พรึ่บ
“ฮึก ปล่อยเบย์…” น้ำเสียงเธอแผ่วลง เมื่ออลันใช้นิ้วมือเกลี่ยเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ สัมผัสอ่อนโยนจากเขาช่วยปลอบประโลมความรู้สึกเจ็บปวดของเธอให้ทุเลาลง หัวใจกระตุกวูบวาบไปกับสัมผัสนี้
ไม่ยักรู้ว่าปีศาจร้ายอ่อนโยนเป็นด้วยเหมือนกัน…
“ไหนบอกอยากเจอพ่อไง แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงวิ่งร้องไห้ออกมา” เขายืนดูเบลินดาและพ่อพูดคุยกัน ในขณะที่คนเป็นพ่อเอาแต่แสดงท่าทางเย็นชาและพูดจาไม่รักษาน้ำใจ สิ่งที่เบลินดามอบให้มันกลับเต็มไปด้วยความห่วงใยและเป็นห่วง
“พี่อลันไม่ต้องรู้หรอกค่ะ” เขาไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกันกับเธอ เขาคงไม่เข้าใจเธอหรอก “อ๊ะ! พี่อลันจะพาเบย์ไปไหนคะ”
เบลินดาร้องท้วงเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มลากออกไปจากตรงนี้ อลันไม่ได้พูดอะไร ลากคนตัวเล็กมายังรถหรูที่จอดรออยู่ ก่อนจะผลักเธอเข้าไปนั่งเบาะหลังแล้วตามเข้าไปนั่งข้างๆ
“ทำไมต้องลากด้วยคะ บอกกันดีๆ ก็ได้นิ” เธอก้มมองข้อมือตัวเองซึ่งกำลังแดงเถือกจากการกระทำของอลัน ชมว่าอ่อนโยนได้ไม่ทันไร กลับมาป่าเถื่อนกับเธออีกแล้ว
“ออกรถ”
“นายจะไปไหนครับ”
“คอนโด”
คนสนิทอลันตอบรับคำสั่งจากเจ้านายสั้นๆ ก่อนจะเริ่มสตาร์ตรถแล้วขับออกไปจากสถานที่แห่งนี้
“แล้วเบย์ล่ะคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้ เพราะประโยคนั้นของเขาไม่มีคำพูดไหนที่บอกให้ไปส่งเธอที่บ้าน
“ไปคอนโดฉัน”
“ปะ…ไปทำไมคะ เบย์จะกลับบ้าน”
“ไปเซ็นสัญญา” เขาพูดพร้อมเบือนใบหน้าไปมองเบลินดา “สัญญาของนางบำเรอ”
“ทำไมต้องเซ็นสัญญาด้วยคะ?”
“ข้อผูกมัดและกฎต่างๆ ที่เธอต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”
“มีกฎด้วยเหรอคะ?”
“มี และเธอต้องทำมันให้ได้”
เธอเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อจากนั้น ปล่อยประโยคนั้นของอลันเป็นตัวการตัดบทสนทนา ระหว่างทางไปคอนโด เธอเบือนใบหน้ามองออกไปนอกกระจกรถ ตอนนี้มีสายฝนกำลังโปรยปรายลงมา
ระหว่างมองสายฝน ในหัวก็พานนึกถึงคำพูดแสนเย็นชาของคนเป็นพ่อจนรู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจ พยายามไม่คิดแล้วแต่กลับทำไม่ได้
@คอนโดอลัน
แกร๊ก
อลันเปิดประตูคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองของตัวเองเข้ามาโดยมีเบลินดาก้าวตามมาติดๆ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบที่พักขนาดใหญ่และกว้างขวางของชายหนุ่ม
“เซ็นสัญญาเสร็จ เบย์กลับได้เลยใช่ไหมคะ?”
สายตาคมเข้มตวัดมองหญิงสาว คำตอบของคำถามถูกตอบผ่านแววตาคู่นั้น ทำให้เบลินดารู้ทันทีว่าคำตอบคือ…ไม่
“อ่านทำความเข้าใจกับกฎและเซ็นซะ” เขาวางสัญญาลงให้เบลินดา
หญิงสาวนั่งลงโซฟาพลางเอื้อมมือไปหยิบเอกสารบนโต๊ะมาอ่านทำความเข้าใจอย่างละเอียด กฎแต่ละข้อที่อลันเขียนไว้ไม่ได้เยอะมากแต่ก็ดูเคร่งพอสมควร
ตุ้บ
“ปากกา”
เธอดึงสายตามองเขาที่โยนปากกามาให้ วางลงดีๆ ให้ไม่ได้หรือไง ถึงต้องโยนมาให้แบบนี้ ทำได้เพียงบ่นเขาภายในใจ เดี๋ยวพอบ่นออกเสียงให้ได้ยินด้วยก็หาว่าอวดดีด้วยอีก
“กำลังนินทาฉันในใจอยู่เหรอ”
“พูดเหมือนอ่านใจเบย์ออก”
“สายตาเธอมันฟ้องแบบนั้น”
“ทำไมเบย์ต้องนินทาพี่อลันด้วยล่ะคะ” เธอดึงสายตากลับมาอ่านกฎบนกระดาษในมือต่อ กฎที่เขาตั้งเอาไว้ดูเห็นแก่ตัวพอสมควร แต่ก็นะ เธอไม่มีสิทธิ์เลือกได้อยู่แล้ว
เบลินดาหยิบปากกามาแล้วจรดลายเซ็นอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองอลันที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
“เสร็จแล้วค่ะ…” น้ำเสียงแผ่วลง สายตาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้รอมร่อด้วยความหวั่นไหว ทั้งตกใจและหัวใจเต้นแรงกับการกระทำของเขาในเวลาเดียวกัน “พะ…พี่อลันจะทำอะไรคะ”
“นอกจากเซ็นด้วยลายมือแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการยืนยันตัวตนเป็นนางบำเรอของฉัน”
“มะ…มีการยืนยันตัวตนด้วยเหรอคะ”
“มีสิ…” ริมฝีปากหยักได้รูปฉีกออกอย่างร้ายกาจเช่นเดียวกับแววตาคมเข้ม
อลันโน้มใบหน้าไปยังลำคอระหงหอมกรุ่น ปลายจมูกโด่งสันที่สัมผัสลงผิวเนื้อสีขาวพานทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวไหววูบและหายใจไม่ทั่วท้อง
“อ๊ะ…” เธออุทานเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่ออลันใช้ริมฝีปากดูดลำคออย่างรุนแรงจนรู้สึกเสียวและเจ็บสลับกันไป
เขาถอนริมฝีปากออกจากคอฝั่งนี้มาดูดอีกฝั่ง เธอทำได้เพียงเบือนใบหน้าไปอีกทางเพื่อให้เขาทำในสิ่งที่ต้องการ มือเล็กจับขอบเบาะโซฟาไว้แน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่กำลังเล่นงาน
“อ๊ะ…” อลันถลกเสื้อเธอขึ้นแล้วใช้ริมฝีปากหยักได้รูปดูดลงบริเวณหน้าท้องแบนราบ ระหว่างที่เขากำลังสร้างรอย เธอก็พลอยเกร็งหน้าท้องตามไปด้วย
มันเสียววูบวาบบริเวณท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก…
“พะ…พอแล้ว” ราวกับเหมือนกำลังถูกเขากลั้นแกล้งให้ทรมานเล่นอย่างไรอย่างนั้น เธอรีบปรามเมื่อเขากำลังเคลื่อนใบหน้าไปทำรอยไว้บนต้นขา
“นี่ยังยืนยันตัวตนไม่เสร็จเลยนะ”
“คะ…แค่นี้ก็พอแล้วมั้งคะ”
อลันไม่ฟัง เขาก้มใบหน้าลงไปหาต้นขาขาวเนียน ใช้ริมฝีปากดูดลงแรงๆ จนเบลินดารู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย เพราะจุดที่เขากำลังสร้างรอยใกล้กับบริเวณจุดสงวน
เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันพร้อมเบือนใบหน้าไปทางอื่น เขาไม่เพียงทำรอยไว้เพียงขาข้างเดียว แต่ยังสลับไปทำอีกข้าง ราวกับต้องการแกล้งให้เธอทรมานเล่นทางอ้อม
“พอแล้วใช่ไหมคะ”
“ยังเหลืออีกที่”
“ตะ…ตรงไหนอีกคะ”
สายตาคมเข้มหลุบลงมามองหน้าอกขนาดใหญ่ ก่อนจะเอื้อมมือไปฉีกเสื้อเบลินดาจนกระดุมข้างบนหลุดออกสองเม็ด
“อื้อ…” เธอร้องเสียงหลงอีกครั้ง เมื่อถูกเขาใช้ริมฝีปากดูดบนเนินอก มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับไหล่กว้างหมายจะดันตัวเขาออก แต่ทว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดกลับอ่อนระทวยลงไปกับสัมผัสชวนวาบหวามจากเขา
“ยืนยันตัวตนเสร็จแล้ว”
“ค่ะ…” เธอพยักหน้ารับพร้อมตอบสั้นๆ แม้ว่าเขาหยุดการกระทำดังกล่าวลง หากแต่ร่องรอยที่เขาทำทิ้งไว้บนร่างกายยังคงทำให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกตอนที่เขากำลังทำรอยไว้ร่างกายของเธอ