“ คุณพายุครับอุบัติเหตุในวันนั้นมันไม่ใช้อุบัติเหตุครับ แต่เป็นการฆ่าตกรรม “ เสียงของนักสืบที่ชายหนุ่มในวัย30ปีทหารรับจ้างขององค์กรลับสุดยอดที่อยู่ต่างประเทศ นักสืบโทรมารายงานเรื่องที่พายุให้เขาไปสืบมาเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่และพี่เลี้ยงของเขา คำพูดที่ยืนยันเรื่องที่ตำรวจสรุปว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้เขารู้ว่าคนฆ่าหรือว่าวางแผนต้องเป็นคนมีอำนาจอย่างแน่นอน พายุได้ยินสิ่งที่เขาสงสัยยืนยันจากนักสืบที่เขาจ้างด้วยเงินที่เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควร เขากำโทรศัพท์ไว้แน่นพร้อมกับความโกรธแค้นที่ฝั่งอยู่ในอกมาตลอด11ปี
“ ผมยังรู้มาอีกว่าพอพ่อแม่ของคุณเสียชีวิตเงินส่วนหนึ่งและผลประโยชน์ส่วนหนึ่งอยู่ๆดีๆ ก็ตกไปอยู่ในมือของครอบครัว บริบูรณ์ครับ “ เมื่อพายุได้ยินนามสกุลที่นักสืบพูดถึงพายุรู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของการตายของพ่อแม่ของเขาเมื่อ11ปีที่แล้วเป็นฝีมือของใคร
สนามบิน สุวรรณภูมิ
วู๊ด…….วู๊ด….วู๊ด
เสียงรถวีลแชร์ไฟฟ้าวิ่งมาตามทางออกของสนามบินโดยมีพนักงานของสนามบินเดินเข็นกระเป๋าสัมภาระมาส่ง
“ คุณพายุครับทางนี้ ครับ “ เสียงของดนัย คนที่เกิดและโตคู่กันมากับพายุเพียงแต่ว่าโตมาคนละตำแหน่งดนัยเป็นลูกชายของแม่บ้านแต่ด้วยความที่พายุมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในชีวิตของเขา เขาเลยให้ดนัยลูกชายของแม่บ้านไปเรียนต่อที่จีนเพื่อที่จะมาบริหารโรงแรมที่พ่อกับแม่เขาสร้างมาเองกับมือ แต่ด้วยกลโกงของคนชั่วทำให้ โรงแรมที่กรุงเทพ และหัวหินตกไปเป็นของครอบครัวบริบูรณ์ ส่วนของที่เป็นของครอบครัววายุนั้นเหลือแค่ภูเก็ต เกาะช้างและที่แม่ฮ่องสอนเท่านั้น
“ เอ้อ…ว่าแต่….” ดนัยงงเป็นอย่างมากที่เห็นพายุเจ้านายของตนเองนั่งรถวีลแชร์มาทั้งที่ตอนคุยโทรศัพท์หากันยังดีๆอยู่
“ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง “ พายุบอกดนัยแบบนั้นก่อนจะบังคับรถวีลแชร์ออกมาจากทางออก พร้อมกับสัมภาระที่รับมาจากพนักงานของสนามบิน
รถหรูอัลพาสบ้านวายุ
บรื้น…บรื้น…บรื้น
“ เอ้อ….นาย..ว่าแต่…” เมื่อออกรถมาได้แล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะถามคนเป็นเจ้านายว่าทำไม เจ้านายถึงได้นั่งรถเข็นพายุ
พอเห็นว่าดนัยใคร่อยากรู้มากก็เลยยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบออกมา
“ ฉันจะทำให้ครอบครัวบริบูรณ์ได้ชดใช้สิ่งที่มันทำกับฉันและครอบครัวฉันไว้ “ พายุเมื่อพูดจบเขาก็นั่งเงียบอยู่ภายในรถหรู ดนัยเมื่อรู้จุดประสงค์ของคนเป็นเจ้านายแล้วเขาก็เลยเงียบและไม่มีอะไรจะถามอีกต่อไป นอกจากจะไม่ถามแล้วต่อจากยี้ไปเขาจะต้องเป็นคนปฎิบัติตามที่เขาสั่งนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
บรื้น…บรื้น…บรื้น
ไม่นานรถหรูอัลพาสก็วิ่งมาจอดที่คฤหาสน์หรูวายุ โดยมีแม่บ้านพ่อบ้านต่างก็มารอให้การต้อนรับแต่ทุกคนต้องตกใจเมื่อเจ้านายที่ทุกคนไม่ได้เห็นตั้งแต่อายุ20ปีลงมาจากรถแต่มากับวีลแชร์
“ คุณ คุณ พายุ คุณพายุเป็นอะไรคะทำไมขาของคุณพายุถึงได้เป็นแบบนั้น “ แม่บ้านคนเก่าแก่ ถามเจ้านายออกมาด้วยความตกใจที่เห็นว่าพายุเดือนไม่ได้ น้ำใสๆไหลออกมาด้วยความที่เวทนาคนเป็นเจ้านายมาก นอกจากจะเสียพ่อแม่ที่เป็นที่รักไปแล้วยังต้องมาเสียขาไปอีก ด้วยความที่ชายหนุ่มอยากให้สมจริงต่อให้เขาอยากบอกทุกคนมากแค่ไหนแต่ก็ต้องเก็บไว้ไม่อย่างนั้นความลับก็จะไม่เป็นความลับ แล้วถ้าความลับเปิดแผนที่จะทำลายครอบครัวของ บริบูรณ์ก็ต้องเป็นอันพังไป
“ ดนัยนายช่วยโทรไปบ้านบริบูรณ์ที แล้วทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ตอนที่พ่อกับแม่ฉันยังมีชีวิตอยู่ บอกเขาว่าเรื่องที่จะให้ลูกสาวของเขามาแต่งงานกับฉัน ออ้แล้วก็อย่าลืมเรื่องขาของฉันที่เดินไม่ได้ด้วยนะ ขอบใจ “ พายุเมื่อมาถึงห้องเขาก็สั่งให้ดนัยโทรไปหาบ้านบริบูรณ์เรื่องที่ทางครอบครัวของวายุและบริบูรณ์ที่จะเกี่ยวดองกัน ดนัยก้มหัวลงน้อมรับคำสั่งก่อนจะเดินออกมาเพื่อไปทำตามคำสั่งของคนเป็นเจ้านาย
“ หึหึหึ ถึงเวลาที่พวกแกต้องชดใช้กรรมที่ทำไว้กับพ่อแม่ฉันแล้วสินะ พวกบริบูรณ์” พายุยกยิ้มมุมปากอย่างเยียดหยามเมื่อนึกถึงวันที่บริบูรณ์จะเอาลูกสาวของตนมาให้เขาแก้แค้นเพราะเขาสืบรู้มาว่าบริบูรณ์มีลูกสาวสองคน คนโตชื่อแน๊ตคนี้แรดสุด กินเล่ยเที่ยวอย่างกับว่าเป็นคนผลิตเงินเองได้ ส่วนคนเล็กเขาไม่เคยเห็นหน้าว่าหน้าแต่เป็นยังไง อายุเท่าไหร่ หน้าตาเป็นยังไง หรือแม้แต่อะไรเขาก็ไม่รู้เพราะหญิงสาวเป็นคนเก็บตัว สายสืบบอกมาแบบนั้น
ตู๊ด….ตู๊ด….ตู๊ด
“ สวัสดีครับผมดนัยเลขาของคุณพายุ คุณพายุให้ผมโทรมาทวงสัญญาพวกคุณเรื่องที่บ้านของคุณเคยสัญญาไว้ว่าจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับตะกูลวายุ ตอนนี้เจ้านายของผมได้ให้ผมมาทวงสัญญานั้นจากพวกคุณแล้วครับ “ ดนัยพูดออกมาด้วยเสียงแข็งเรียบนิ่ง คุณหญิงพิกุลทองเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก้รู้สึกเนื้อเต้นเป็นอย่างมากเพราเธอรู้ว่าสมบัติมากมายที่พวกเธอเอามาไม่หมดยังเหลืออยู่กับลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัววายุ เมื่อคุณหญิงพิกุลทองได้ยินแบบนั้นเธอก็ไว้เชิ่งนิดหนึ่งเพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอเห็นแก่เงินของเขา ทั้งๆที่ใช้
( สวัสดีคะจำได้สิคะ ทำไมจะจำไม่ได้ว่าแต่เมื่อไหร่ดีคะฉันจะให้ลูกสาวของฉันไปเจอและทำความรู้จักกับคุณพายุ) พิกุลทองพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่อาการของเธฮตอนนี้รู้สึกเนื้อเต้นเป็นอย่างมาเมื่อสื่งที่เธอรอคอยมานานได้มาถึงแล้ว ต่อให้ชายหนุ่มไม่ติดต่อมาเธอก็กระว่าเธอจะโทรไปทวงสัญญาอยู่ดีเพราะลูกสาวเธฮตอนนี้ใช้เงินเก่งมาก
“ วันนี้เลยก็ได้ครับ แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่คุณหญิงและครอบครัวคุณต้องรู้ด้วยนะครับว่านายท่านพิการเดินไม่ได้ เพื่อเป็นการให้เกียรติทางบริบูรณ์ พวกเราไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้ได้ครับ เราอยากให้คุณหญิงได้รู้ก่อนว่านายท่านของพวกเราเป็นคนพิการ แต่ว่าค่าสินสอดและค่าเลี้ยงดู นายท่านจะดูแลให้เป็นอย่างดี” ดนัยบอกหญิงสาวไปตามที่เจ้านายได้สั่งไว้ คุณหญิงพิกุลทองเมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มเป็นคนพิการเธอก็เงียบเหมือนกับทำท่าคุ้นคิดอยู่ เธออยากได้สมบัติก็จริงแต่เธอก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แล้วเรื่องอะไรเธอจะให้ลูกสาวของเธอไปแต่งงานกับคนพิการต่อให้เธอไม่มีเงินหรือว่ามีสมบัติอะไรเลย ถ้าลูกสาวของเธอต้องไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวคนอื่นเธอคงไม่ยอมเด็ดขาด