บทที่ 8
หนึ่งเดือนต่อมา..นักศึกษาปีที่สี่ใกล้จบการศึกษาหลายร้อยคนนั่งประชุม ซึ่งทางคณะได้จัดนิทัศการศึกษาออกค่าย..
“โอเคๆ ทุกคน แนะนำตัวด้วยว่ามีใครบ้างที่จะไปเข้าค่ายที่เขาใหญ่” อาจารย์หญิงยืนถือแฟ้มรายชื่อของนักศึกษาปีที่สี่
“เริ่มกลุ่มหนึ่งก่อนละกัน” อาจารย์ชายบอก ชี้มือไปยังนักศึกษาชาย ซึ่งทุกคนก็มองตามนิ้วมือของอาจารย์
“สวัสดีครับผมชื่อ ‘กิตติ’ ครับ” เขาแนะนำตัว แล้วก้มหัวให้เพื่อนทุกคนที่มองมาทางเขา ด้านนิสาที่นั่งประกบแสงเหนือ หล่อนยิ้มให้กิตติ แล้วเอ่ยแนะนำตัว “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนิสา เรียก นิสา หรือสาก็ได้ค่ะ”
และนักศึกษาทั้งหมดยี่สิบกว่าคนแนะนำตัวจนมาถึง แสงเหนือ ซึ่งชายหนุ่มดันแขนของสุนิสาออกแล้วบอกทุกคนว่า
“สวัสดีครับ ผมแสงเหนือครับ” แสงเหนือโปรยยิ้มให้สาวๆทุกคน จนนักศึกษาสาวพากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด
และคนสุดท้ายที่นั่งหลังสุด ซึ่งเธอพยายามอยู่ให้ห่างแสงเหนือให้มากที่สุดพูดว่า “สวัสดีค่ะ ฉันแพรพรรณ ชื่อเล่นพรรณค่ะ”
เป็นเพราะหน้าตาสวยเซ็กซี่ ทำให้กิตติมองแพรพรรณอย่างสนใจ ซึ่งเขายิ้มและพยักหน้าให้เธอเล็กน้อยเมื่อได้สบตากัน ซึ่งแพรพรรณก็ยิ้มเบาๆให้กิตติ..
ในรถบัส.
แพรพรรณเลือกที่จะนั่งคนเดียวเพราะหัวใจของเธอในตอนนี้เจ็บร้าวเพราะคำพูดของแทนไทแฟนหนุ่ม
ย้อนไปเมื่อสองวันก่อน..
“พี่แทนคะ”
“พรรณ” แทนไทเหลือบตามองแฟนสาวเล็กน้อย แล้วเดินไปยังห้องพักที่อยู่มุมสุด
“พี่เป็นอะไรคะ ทำไมพี่ไม่รับสายและไม่อ่านแชทของพรรณเลย”
แพรพรรณแทรกตัวเข้าไปยืนตรงหน้า เมื่อเห็นเขากำลังไขกุญแจห้อง
“ถอยไป” แทนไทสั่งทั้งเสียงและการกระทำ เขาจับแขนเล็กดึงให้เธอออกจากหน้าประตูห้อง เพื่อเขาจะได้ไขกุญแจ
แพรพรรณดันประตู เมื่อเขาจะปิด พลางถามเขาเสียงสั่นเครือว่า
“พี่แทนมีคนใหม่เหรอคะ”
แทนไทลูบหน้าชาหนึบแรงๆแล้วพูดสวนกลับ
“คำพูดนี้น่าจะถามเธอมากกว่าถามพี่นะ”
“พี่แทนพูดอย่างนี้หมายความว่าไงคะ” แพรพรรณเมื่อเข้ามาในห้องของชายหนุ่ม เธอก็สำรวจทุกมุมห้องง่ามีใครที่เขาซุกซ่อนไว้หรือไม่
“อยากรู้เหรอ ดูซะ” แทนไทเปิดมือถือ แล้วเอาให้เธอดู
“..” แพรพรรณมือไม้สั่น น้ำตาไหลออกมาอย่างอัตโนมัติ เมื่อเห็นภาพตัวเองเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมกอดของแสงเหนือ
“เธอหรือพี่ที่มีคนใหม่” แทนไทเจ็บหัวใจมาก แต่เขาก็ยังมีสติถามเธอเสียงแข็งกระด้าง
“พี่แทน พรรณอธิบายได้นะ” แพรพรรณเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วเดินเข้าไปยืนตรงหน้าของแฟนหนุ่ม
“เธอจะแก้ตัวว่าในภาพไม่ใช่เธอกับไอ้เหนือเหรอ” แทนไทยิ้มเยาะความโง่ของตัวเอง เมื่อได้สบตาของแฟนสาว
“พรรณโดนไอ้เหนือมัน..มันวางยาสลบพรรณ พรรณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรกับไอ้สารเลวนั้นหรือเปล่า ฮืออ” แพรพรรณร้องไห้โฮ เมื่อนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอโดยที่ไม่มีใครรู้
“เธอคิดว่าจะหลอกพี่ได้เหรอ พี่ไม่โง่นะพรรณ” แทนไทจับบ่าของเธอเขย่าไปมาแล้ว ลากเธอให้ออกจากห้อง..
“ไอ้แทนมันเห็นภาพที่ฉันส่งให้มันดูแล้วใช่ไหม”
เสียงพูดเยาะเย้ยและที่นั่งข้างๆยุบลง ทำให้แพรพรรณเช็ดน้ำตาออกอย่างรีบๆ แล้วขยับตัวนั่งชิดขอบหน้าต่าง
“แกเองเหรอที่เอารูปอุบาทว์นั้นให้พี่แทนดู ทำไมแกถึงทำอย่างนี้ แกจะจองเวรจองกรรมกับฉัน หรืออยากให้ฉันตายจากโลกนี้ใช่ไหม แกถึงจะพอใจ” แพรพรรณกัดฟันพูดเสียงเบาเพราะกลัวคนในรถได้ยิน
“ใช่! ฉันต้องการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อเธอรัก แกและน้องของเธอด้วย พวกเธอจะต้องเป็นที่ระบายความใคร่ของฉันไปตลอดชีวิต”
“ไอ้คนสารเลว”
“หึ! ถ้าเธอไม่อยากเป็นนางบำเรอของฉัน โทรบอกน้องของเธอให้กลับมาสิ ฉันสัญญาว่าฉันจะปล่อยเธอไป และจะบอกแฟนเธอว่าเธอกับฉันไม่เคยมีอะไรกัน”
“ไอ้ชั่วไอ้เลว นี่แกอย่าหวังว่ายัยพายจะกลับมา ฉันไม่ยอมให้แกทำอะไรน้องฉันแน่”
“ตามใจเธอสิ อยากเป็นนางบำเรอของฉันก็ตามใจ”
แสงเหนือทำหน้าทะเล้นยักคิ้วให้แพรพรรณแล้วลุกขึ้นไปนั่งข้าง สุนิสา…
เมื่อมาถึงที่หมาย ทุกคนต่างก็พากันขนข้าวของสัมภาระของใครของมันออกจากรถ แล้วช่วยกันกางเต็นท์ ซึ่งผู้ชายจะอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนผู้หญิงจะอยู่ฝั่งขวา
“พรรณ?”
“มีอะไรเหรอนิสา” แพรพรรณถาม แต่ไม่ได้วางมือจากการจัดพื้นที่หน้าเต็นท์ของตัวเอง
“กิตติมองเธอใหญ่เลย สงสัยเขาสนใจเธอนะ” นิสากระซิบกระซาบเสียงเบาบอกกับแพรพรรณอย่างมีแผน
“มานอนด้วยกันไหมนิสา”
แพรพรรณหันไปมองกิตติยิ้มเบาๆให้ชายหนุ่ม แล้วเอ่ยชวนนิสา ซึ่งเธอไม่ได้กลัวกิตติเลย แต่คนเธอกลัวคือแสงเหนือต่างหาก เธอหวังจะใช้นิสาเป็นโล่กำบังกันเธอออกจากแสงเหนือ แต่ทำตอบที่ได้รับรู้คือ...
“โนๆ คืนนี้ฉันจะมุดมุ้งเข้าไปนอนกับเหนือเขาน่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรนะ”
นิสายิ้มเจ้าเล่ห์ถามเพื่อนไปแบบนั้น เพราะรู้ว่าแสงเหนือและ แพรพรรณเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เด็กและทั้งสองบอกว่าเป็นญาติกันด้วย
“ตามสบายเลยจ้า อยากจะทำอะไรกับมันก็เชิญเลย”
แพรพรรณอยากจะจัดแสงเหนือใส่พานทองยกให้นิสาเลย…
เวลาสองทุ่ม..
ทุกคนก็พากันมานั่งล้อมรอบกองไฟ บ้างก็จับคู่เต้นรำรอบกองไฟ บ้างก็นั่งคุยกัน บ้างก็นั่งเผามาร์เมลโล่กินกัน
“เหนือไปเต้นกับนิสาหน่อยสิ”
นิสาที่นั่งกระแซะแสงเหนือ เธอชวนชายหนุ่ม ซึ่งหล่อนไม่รอฟังคำตอบจากเขา ก็ลุกขึ้นดึงมือให้ชายหนุ่มลุกตาม
ด้านกิตติเห็นแพรพรรณนั่งคนเดียวเขาก็เข้าไปหาทันที
“ให้เกียรติเต้นรำกับผมได้ไหมครับ”
แพรพรรณละสายตาจากนิสาที่เต้นรำอยู่กับแสงเหนือ หันมองและพูดว่า “ฉัน..// สักเพลงก็ยังดีครับ นะครับ”
ซึ่งแพรพรรณไม่ทันได้ปฏิเสธ กิตติก็ยื่นมือให้เธอจับ พร้อมพูดอย่างสุภาพเสียงทุ้ม จนเธอหมดทางที่จะปฏิเสธ
“ก็ได้ค่ะ” แพรพรรณไม่ยอมจับมือของกิตติ เธอลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าไปยืนโยกย้ายส่ายสะโพกเต้นตามจังหวะเพลง
“คุณเหนือเป็นแฟนคุณพรรณหรือครับ”
กิตติเต้นอ้อมหน้าอ้อมหลังแพรพรรณ สายตาเจ้าเล่ห์เหมือนมีแผนอยู่ในใจ เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึ่งพอใจ
“ไม่ใช่ค่ะ เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กค่ะ เลยสนิทกัน”
แพรพรรณถึงจะไม่ชอบสายตาของชายหนุ่ม แต่เธอก็ยิ้มให้
“โล่งอกไปที งั้นผมก็มีสิทธิ์จีบคุณได้สิครับ”
ครั้งนี้กิตติลุกหนัก ยื่นมือไปจับมือของแพรพรรณ
“จบเพลงแล้ว ฉันขอตัวนะคะ”
แพรพรรณไม่พอใจที่กิตติถึงเนื้อถึงตัว เธอจึงเดินหนี และช่วงเวลาที่เธอจะเดินไปยังเต็นท์ของเธอนั้น แสงเหนือเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างระหว่างแพรพรรณและกิตติ ซึ่งเขามองตากิตติก็รู้ว่าต้องการอะไร
“เธอจะไปไหน”
เสียงของแสงเหนือ ทำให้แพรพรรณหยุดเดิน เธอเหนื่อยใจมากจึงผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันหลังไปถามเขาว่า
“นี่เหนือ หยุดจองเวรกับฉันสักวันได้ไหม วันนี้ฉันเหนื่อยมาก”
“มากับฉันเดี๋ยวนี้” แสงเหนือไม่ตอบคำถาม เขาคว้ามือเธอมากุม แล้วลากเธอให้เดินตาม
“นี่นายจะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” แพรพรรณไม่ยอม จึงสะบัดมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ
“คืนนี้เธอต้องนอนนี่” เมื่อมาถึงเต็นท์ แสงเหนือก็ผลักให้เธอเข้าไปในเต็นท์ของตนเอง
“ไอ้เหนือ นี่แก” แพรพรรณอยากจะร้องไห้ เมื่อเห็นแสงเหนือพาเธอมายังเต็นท์ของเขา เธอคิดไปในทางที่ไม่ดี กลัวเขาทำมิดีมิร้ายเธอ แต่คำตอบที่ได้ทำให้เธอชะงักไป
“ถ้าเธอไม่อยากเสร็จไอ้กิตติ ก็ทำตามที่ฉันบอก”
แสงเหนือชี้หน้าแพรพรรณอย่างคาดโทษ
“แต่ว่าฉัน..// ไม่ต้องห่วงหรอกคืนนี้ ฉันจะปล่อยเธอไปสักวัน”
แพรพรรณได้พูดอะไร แสงเหนือก็ยิ้มเยาะ พร้อมพูดเสียงกวนประสาทขึ้นมาก่อน ทำให้เธอสะบัดหน้าใส่เข้า
“ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ”
แพรพรรณย่นหน้าใส่ เพราะเธอไม่ค่อยไว้ใจไอ้สารเลวนี้เลย ถึงแม้ว่าทุกคืนที่อยู่บ้านเดียวกันสองต่อสอง แสงเหนือก็ไม่เคยเข้ามานอนด้วยก็ตาม ส่วนมากชายหนุ่มมักพูดสองแง่สองง่ามกับเธอเท่านั้นเอง
“หึ! จำไว้ว่าอย่ากลับไปนอนที่เต็นท์ของเธอเด็ดขาด ถ้าไม่อยากมีผัวชื่อกิตติ”
แสงเหนือกำชับแพรพรรณ แล้วมองซ้ายมองขวาแล้วรีบออกจากเต็นท์ เดินไปหานิสาที่ยังอยู่ในงานเลี้ยง
“เหนือ เธอหายไปไหนมา แล้วนี่พรรณล่ะไปไหน” นิสายิ้มหวานเมื่อเห็นแสงเหนือเข้ามานั่งใกล้ๆ เธอเกะแขนเขาเหมือนชะนีเกาะต้นไม้
“ฉันเห็นพรรณเดินไปที่เต็นท์ของกิตติโน้น”
แสงเหนือบอกพลางมองกิตติ ซึ่งกิตติก็มองเขาเช่นกัน
“ฮ่ะ เหนือว่าอะไรนะ ยะ ยัยพรรณอยู่เต็นท์นายกิตติเหรอ”
นิสาอุทานตกใจ เพราะหล่อนคิดเสมอว่า แพรพรรณเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่าจะพาตัวไปถวายกิตติถึงที่แบบนี้
“ซู่วว อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวคนได้ยิน”
แสงเหนือยกมือป้องหูของนิสา พลางกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน
“แหม ยัยพรรณนี่ไวไฟเหมือนกันนะ เห็นหงิบๆแบบนี้นี่สนิมกินในก็ไม่บอก” นิสาพูดเบาๆ พลางมองกิตติ ซึ่งเขาก็พยักหน้าให้เธออย่างรู้กัน
“เธอง่วงยัง” แสงเหนือถามนิสาเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
“ทำไมเหรอ” นิสาแกล้งถามกลับแบบสาวที่รักนวลสงวนตัว
“ก็จะไปนอนกันน่ะสิ นี่ฉันง่วงแล้วด้วย” แสงเหนือชวนด้วยเสียงทุ้ม สายตาสีเข้มก็เปล่งประกายมองหน้าสวยของนิสาด้วยสายตาเจ้าชู้
“นิสาเกรงว่า..” นิสาทำเป็นเขินอายหน้าแดงอย่างกับสาวน้อยใสซื่อ
“หรือเธอไม่อยากนอนกับฉัน งั้นฉันไปนะ”แสงเหนือแกล้งถาม
แสงเหนือยิ้มมุมปาก พลางแกล้งจะลุกขึ้นยืนและเดินจากไปช้าๆ
ด้านนิสา เมื่อเห็นแสงเหนือเดินไปแล้ว เธอก็รีบลุกขึ้น เรียกเขาทั้งที่วิ่งตาม “เหนือรอนิสาด้วย”
“ก็แค่เนี่ย” แสงเหนือหัวเราะหึๆในลำคอ เมื่อนิสาวิ่งมาเกาะแขน
“เหนือ นี่มันเต็นท์ของพรรณนี่”
นิสาถามทันทีเมื่อแสงเหนือพามาที่เต็นท์ของแพรพรรณไม่ใช่เต็นท์ของเขา
“ก็ใช่น่ะสิ ไหน ๆ พรรณก็ไม่อยู่ที่นี่ เราก็ใช้ที่นี่ได้นิ เธอเข้าไปรอฉันในนั้นนะ อีกห้านาทีฉันจะเข้าไปหา”
แสงเหนือบอกเหตุผลกับนิสาและสั่งให้เธอเข้าไปรอในเต็นท์
“นายจะไปไหนล่ะ” นิสาไม่ยอมปล่อยแขนของแสงเหนือ
“ฉันจะไปเอาเครื่องป้องกันที่เต็นท์ของฉันน่ะสิ ฉันไม่ชอบสดกับใคร หรือเธอไม่กลัวท้อง ”
แสงเหนือหาเหตุผลมาบอกเธอและแกะมือของนิสาออกจากแขน เมื่อเห็นเพื่อนกลุ่มหนึ่งเดินผ่าน
“ทำไมนายไม่พาฉันไปนอนที่เต็นท์ของนายล่ะ”
นิสาโบกมือให้เพื่อน แล้วกระซิบถามแสงเหนือเสียงเบา
“ฉันไม่อยากให้เธอเสียหายไง มันคงไม่ดีแน่ถ้ามีคนเห็นเธอเข้าออกเต็นท์ผู้ชาย เข้าไปรอฉันข้างในเดี๋ยวนี้ปิดไฟด้วยนะ เดี๋ยวฉันมา”
“ทำไมต้องปิดไฟด้วยล่ะ” นิสาถามขึ้นมาอีก แต่แสงเหนือก็พยายามควบคุมอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นมาเพราะความหงุดหงิด
“ก็ฉันไม่อยากให้ใครเห็นตอนที่ฉันย่องเข้าหาเธอไงล่ะ ฉันไม่อยากให้เธอเสียหาย ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน ถ้าเธออยากให้ฉันมานอนด้วย แต่ถ้าฉันมาถึงแล้วเธอยังเปิดไฟอยู่ ฉันจะไม่เข้าไปนอนกับเธอนะ ทำตามที่ฉันบอกดีกว่า เดี๋ยวฉันมา”
พูดจบแสงเหนือก็ดันให้สุนิสาเข้าไปในเต็นท์
ด้านนิสาชะโงกหน้าออกจากเต็นท์บอกเขาว่า
“นายอย่าไปนานนะ”
“อื้อ”
แสงเหนือพยักหน้าอย่างรำคาญแล้วรีบเดินหายไปในความมืด…