5. สร้างภาพ

866 Words
ร้านอาหารหรูแห่งนึง "คิดถึงเราเหรอติณณ์ ถึงชวนมากินข้าวทุกวันเลยเนี้ย" ลูกปัดพูดแซว เธอรู้จุดประสงค์ของเขาดี และเธอก็อยากให้เป็นเช่นนั้น พวกนักข่าวกำลังจับจ้องเธออยู่ พอมีข่าวว่าเดทกัน งานละครมากมายเลยรุมเข้าหา "คงงั้นมั้ง...ลูกปัดลองทานทูน่าที่นี่ดูสิ ร้านนี้เขาว่ามันสดมากนะ" ชายหนุ่มบอก พลางจับช้อนส้อมจิ้มเนื้อทูน่าสีแดงอมชมพู โรยด้วยผงทองคำตกแต่งหรูหรา เขาชอบเล่นละครวัยใสคู่กับหญิงสาว ไม่เน้นบทเลิฟซีนเปลืองตัว จนรู้สึกว่ามีเกียรติในอาชีพตัวเอง บรรยากาศดื่มด่ำจากดนตรีบรรเลงเบาๆ ทำให้พวกเขาดูเหมือนคู่รักทั่วไป และคงไม่พ้นพวกแฟนคลับ แอบตั้งกล้องถ่ายกดชัตเตอร์ เก็บภาพประทับใจไปพูดคุย "อื้ม...หวานอร่อย งั้นติณณ์ลองสเต็กเนื้อแกะของเราบ้าง ซอสฉ่ำมาก" เธอจับด้ามส้อมกับมีดค่อยๆหั่นลงชิ้นเนื้อตามคำพูด แล้วจ่อใส่ปากให้อีกฝ่าย เธอกับเขาอายุเท่ากัน เรียนจบมหาวิทยาลัยเดียวกัน เลยค่อนข้างสนิทชิดเชื้อรวมถึงเพื่อนสาวอีกคน ป่านนี้คงติดถ่ายละครที่ไหนสักแห่ง "อร่อยจริง" "มากินกันเลยเนอะ หิวจะแย่แล้ว กว่าจะมาถึง" น้ำเสียงใสบอก เธอเริ่มบรรเลงการทานค่ำคืนนี้ทันที ส่วนสุกี้ปล่อยให้ลงข้างทาง รีบไปเคลียร์งานละครให้ดาราในสังกัดคนอื่นต่อ "เอาสิ อิ่มแล้วเราไปส่งเอง" ผับ SK ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของชายบุรุษสี่คน ณ สถานที่แห่งสีสัน ทว่าภายในห้องวีไอพีกลับไม่ชอบความสนุก พวกเขาเน้นความเป็นส่วนตัว จ้องมองจากในห้องกระจงลงมาซะมากกว่า "เครื่องที่จะส่งของไปอเมริกา ใครเป็นคนขับอ่ะเฮีย" ลาไคเอ่ยถาม เขาคือทายาทเจ้าของท่าเรือชื่อดัง ถ้าไม่ติดว่าลูกค้ามีปัญหาเรื่องขนส่ง เขาคงไม่ติดต่อให้ไปสายการบินด้วยราคาแพงสูงลิ่ว แต่ถึงอย่างไรค่าเสียหายก็ไม่เข้าตัว เพราะก่อนหน้านี้ประเมินมูลค่าเผื่อไว้แล้ว "เครื่องดื่มครับนาย" เสียงบอดี้การ์ดเขาบอก ตอนวางแก้วเหล้าสีอำพัน ตรงเบื้องหน้าบรรดามาเฟียทุกคน แม้ค่ำคืนนี้ยังไม่ครบกลุ่ม "คนเก่า แต่มึงต้องเคลียร์ค่าผ่านทางเอาเองนะ กูไม่จ่ายเด็ดขาด" ไลเกอร์บอกเสียงเข้ม จู่จู่สั่งปุ๊บจะเอาปั๊ปเขาย่อมเสียหาย หากลูกค้าคนอื่นรู้ว่าถูกตัดหน้าไปก่อน ปลายนิ้วชี้ยาวตวัดก่นขี้บุหรี่ตรงปลายมวน แล้วยกขึ้นสูบจนแก้มตอบเป่าพ่นควันสีเทาโชย ต่อให้ถูกบรรยากาศรุมเร้าขนาดไหน ก็ไม่มีอารมณ์จะลงไปสุงสิงร่วมบรรดาพีอาร์สาวสวย "ค่าผ่านทางของเฮียจะเข้าตัวผมอีกหรือเปล่า" ลาไคยังเอ่ยต่อ ลอบมองคู่สนทนาอย่างใจจดใจจ่อ "จะเข้าไม่เข้าก็ต้องยอมปะว่ะ แมร่งเล่นสั่งปุ๊บจะเอาด่วนๆ ดีแค่ไหนแล้วที่เฮียเกอร์รับหน่ะ" คราวนี้คือเสียงของคาเรนบอก ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้พูด ขนาดเขาเป็นน้องชายของลาไค ยังเห็นต่างเลย "มึงนี่นะไอคาเรน! เข้าข้างทุกคนยกเว้นพี่ตัวเอง" ลาไคพูดเอ็ดน้องชายอย่างหมั่นไส้ ใครต่างก็ชอบตั้งฉายาว่าคู่หูนรก แต่ไหงถึงกัดกันตลอดเวลา ส่วนคนอื่นนั้นญาติดีด้วยเสมอ "สมควรว่ะ ลองกูเป็นเฮียเกอร์บ้างนะ หักต้นหักดอกจนถึงที่เลย" พาเรนพูดขึ้น เขาเป็นถึงทายาทสนามแข่งรถชื่อดัง ยังไม่รวมธุรกิจในเครือมากมาย จับแก้วชนกระทบกับคาเรนอย่างครึกครื้น "เอาไงดีว่ะ น้องทั้งคนเฮียคงไม่เอาเรียกเยอะหรอกเนอะ ไว้ชวนแฟนเฮียไปล่องเรือก็ได้ รอบหน้าผมให้ฟรี" ลาไคพูดเย้าแหย่ พยามจับขวดเครื่องดื่มเทเอาใจรุ่นพี่หนุ่ม "ก็ไม่เยอะหรอก มึงสบายๆ อยู่แล้ว" คนบอกอมยิ้มกริ่ม ปลายนิ้วชี้เรียวยาวสวมแหวนแสตนเลส เคาะลงโต๊ะกระจกใส ส่วนเรื่องหญิงสาวที่ถูกกล่าวอ้าง ไม่รู้ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมตกลงคบกันสักที ยังรักสนุกในอาชีพแอร์โฮสเตส จนนานๆครั้งถึงเจอกัน "ยิ้มแบบนี้ ผมหลอนนะจะว่าไป" ลาไคพูด "เฮียออกจะยิ้มเป็นมิตร ช่างน่ารักน่าชัง" แต่แล้วเสียงคาเรนพูดแทรก ทว่ารอบนี้สายตาทุกคู่เหลียวมองมาทางเขาเสียหมด ทำเจ้าตัวรีบกระดกเครื่องดื่มราวร้อนรน "กูว่าล่ะ ไม่พ้นว่าแดกกูหรอก" ลาไคระบายบอก พลางส่ายหน้าสลับไปมา "พวกมึงก็น่ารักน่าชังนะ น่าเอ็นดู" ไลเกอร์บอกเสียงเรียบ รอบนี้รอยยิ้มดูเป็นมิตรมากกว่า แม้ว่าดวงตาคู่สีเทายังไร้ความหมาย ...................... น่าเอ็นดูจริงๆเนอะ @@@อย่าลืมกดไลค์ให้กันทุกวันที่เข้าอ่านนะครับ@@
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD