นาทีต่อมา_
"เขยิบออกไป มันใกล้ไปแล้ว!!!" กลายเป็นว่าชายแปลกหน้าทำให้เธอโมโหถึงขีดสุด เขามายืนชิดเกือบจะแนบแผ่นหลังบาง ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นดารา แต่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงได้โดยเฉพาะพระเอก
"จะได้ถ่ายรูปสวยๆ ไงครับ"
"ว๊าายยย!!!ไอโรคจิตเอ๊ย!!!" ช่วงที่เขาบอกยังแอบส่งมือหยาบมาโอบเอวบาง ด้วยความตกใจทำให้เธอรีบผลักออก การกระทำแบบนี้สื่อไปด้านอื่นซะมากกว่า ก่อนใช้ข้อศอกกระทุ้งใส่ใบหน้าหน้าชายนิรนาม
ร่างบางรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งด้วยรองเท้าส้นสูงมุ่งไปทางออฟฟิตพนักงานใกล้ๆ หากไปยังลานจอดรถก็กลัวตัวเองโดนทำร้าย ถ้าตรงนั้นเปลี่ยวไม่มีใครกลายเป็นจุดบอดซะเอง
"อย่าพึ่งหนีสิว่ะ!!!จะได้จับนมอยู่แล้ว!!!" ชายนิรนามยังวิ่งตาม เขาสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ไม่ทำให้ใครพบความผิดสังเกตุสักนิดเดียว
"ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยค่ะ!!!!" ยามเธอวิ่งมาถึงออฟฟิศดั่งกล่าว รีบเปิดประตูประจกบานเลื่อนสีดำแล้วล็อคปิดทันที ทำให้ชายคนนั้นไม่สามารถเข้าข้างในได้ โดยเธอลืมไปเช่นกันว่าบรรยากาศมืดสนิท ไม่เปิดไฟสักดวงเดียว น่ากลัวพอๆกับด้านนอกไม่ต่างกัน
"เข้ามาทำไม!" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นผ่านความมืด
"ขอหลบในนี้แป๊บนึง มีโรคจิตตามฉันมา!" หญิงสาวรีบเอี้ยวตัวหันมอง แต่ความมืดสนิทไม่อาจโฟกัสภาพให้ชัดได้ สองมือบางไม่มีกระทั่งอาวุธ ได้แต่จับลูกบิดบานเลื่อนไว้ จะชิ่งออกหากเกิดเหตุร้าย สลับกับมองบรรยากาศด้านนอกผ่านกระจก ซึ่งชายนิรนามคนนั้นยังเดินวนเวียนอยู่
"ออกไป!!!" น้ำเสียงเข้มยังตะคอกกลับ ไม่ได้สนใจกับคำขอร้องอีกฝ่ายเลย
"แค่แป๊บเดียวค่ะ! มีไหมน้ำใจอ่ะ เป็นมนุษย์เหมือนกันซะเปล่า!" เธอกระแทกเสียงกลับ เกิดมายังไม่เคยขอร้องใคร แล้วชายในความมืดยังใจดำได้ลงคอ
พรึ่บ~
แสงไฟกลับมาสว่างจ้าทั่วทั้งหมดในห้อง แต่คนข้างนอกไม่สามารถมองเห็น
"......." ภาพตรงเบื้องหน้าคือ ชายบุรุษใบหน้าหล่ออย่างวิเศษที่สุดที่เธอเคยเจอมา ยกเว้นรัศมีความน่ากลัวเด่นประจักษ์กว่า ร่างบางรีบร่นถอยชิดประตูอย่ากล้าๆกลัวๆ กดกุญแจรถยนต์คันหรูให้ปลายจ่อขู่อีกฝ่ายแทน ราวเป็นอาวุธเดียวที่เธอมี
"มนุษย์เหรอ?" เขาคือไลเกอร์ ทายาทของสนามบินแห่งนี้ ไล่สายตาเรียบกริบมองชุดนักศึกษาสาวในชุดครุยสีดำ ไม่ยักรู้ว่าพวกบอดี้การ์ดปล่อยให้คนอื่นเข้ามาอนาเขตตัวเองได้ยังไงกัน
"ใช่ความเป็นมนุษย์ แบบมีน้ำใจอ่ะ...คุณคงไม่ติดนะ ดูไอโรคจิตข้างนอกสิ ที่สนามบินเขาไม่คัดพนักงานบ้างเหรอ?" ชายตรงหน้าเธอสวมแค่เสื้อเชิ้ตดำกับกางเกงสแล็ค ต่อให้ดูภูมิฐานยังไง เธอก็เชื่อว่าเขาเป็นแค่พนักงาน
"กล้าเนอะ!!! ออกไปได้แล้ว" ใบหน้าหล่อเหลาเอียงสั่ง นั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายเหลียวมองดูด้านนอก ในใจยังแอบหวั่นถ้าต้องเดินไปขึ้นรถแบบระแวง ซึ่งไม่รู้ว่าป่านนี้สุกี้จะบ่นต่อว่าอีกขนาดไหน
"ขอร้องล่ะ...ฉันเป็นถึงดาราดังเลยนะ ไม่งั้นคุณเดินออกไปส่งหน่อยสิ ดีกว่าฉันไปคนเดียวนะ!" ถ้าเขาหวงอนาเขตภายในห้อง งั้นแค่ออกไปยืนตรงประตูดูเธอเดินขึ้นรถก็ยังดี เลยอวดยกชื่อเสียงตนให้เขารู้บ้าง เผื่อเป็นพวกคนชอบวงการดารา
"ไม่ว่าง และก็ออกไปก่อนมันจะเข้ามา!" ไลเกอร์ยังยืนยันคำเดิม เขาไม่ได้มีเวลาว่างพอจะมาสนใจกับคำพูดหญิงสาวสักนิดเดียว เธอหลงมาเองก็ควรออกไปเอง
"คนอย่างฉันไม่เคยขอร้องใครนะ!! ถ้ามันไม่ได้หนักหนาอะไรก็ควรช่วยเหลือกันสิ" ขนาดเธอพูดขอร้องซ้ำๆ ชายตรงหน้ายังแล้งน้ำใจสิ้นดี หากเธอออกไปได้ รับรองได้เลยว่าจะเขียนรายงานให้เจ้านายไล่เขาออก
"งั้นเหรอ....ฉันให้เธอพูดใหม่อีกทีดีไหม?" ช่างน่าขำที่หญิงสาวตัวเล็กกว่าเขาตั้งเยอะ ยังยืนเถียงกราน คาดว่าอายุคงน้อยกว่าเขาอีกด้วย แต่ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่
คนตัวสูงยกเท้าเพียงไม่กี่ก้าว ยิ่งเดินกดดันประชิดใกล้ ให้ร่างบางแนบประตูกระจกสนิท
"กะก็ได้!!!" น้ำเสียงใสตะกุกตะกักบอก เธอเกือบลืมหายใจไปแล้วช่วงนึง เมื่อลมอุ่นจากจมูกใหญ่ราดรดใบหน้าหวาน
แก๊ก~
"ว๊ายยยกรี๊ด!!!ไอบ้า!!!เปิดออกมาได้ไงเนี้ย!!!" ลูกปัดหลุดร้องเสียงดัง จู่จู่เขาก็เอื้อมมาเปิดประตูตอนไหนไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เธอเกือบล้มหงายหลังไปเสียแล้ว ยังดีรีบดึงเสื้อเชิ๊ตดำประคองตัว ไม่สนว่ามันจะยับยู้ยี้สักเท่าไหร่
"ปล่อย!!!" น้ำเสียงเข้มตวาดดัง สันมือหนาปัดให้มือบางหลุดออกจากชายเสื้อตัวอย่างรำคาญเต็มทน
"ให้ทำอย่างไรกับมันดีครับนาย" ฟินิกซ์คือลูกน้องขวาเข้ามาบอกระยะใกล้ โบกมือให้กลุ่มบอดี้การ์ดควบคุมตัวชายนิรนามคนนั้น ท่าทางมีพิรุธและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
"เอามันไปโกดัง" ไลเกอร์ออกคำสั่งทันที ลูกน้องมือขวาเป็นคนลูกครึ่ง อายุน้องกว่าเขาเพียงนิดแต่เรื่องฝีมือระดับฉกรรจ์
"เฮ้อ...ทางสะดวก ไปล่ะคุณหมดประโยชน์แล้ว" จบประโยคคำพูด ร่างบางก็รีบเดินไปยังจุดที่เตรียมงานรวดเร็ว ไม่เหลียวมองคนด้านหลัง นัยน์ตาคมกริบเพ่งจ้องซ่อนการแสดงออกให้ใครรู้
..............................
เขาดุนะ อย่าได้แหย่ม 555
**กรุณากดไลค์และคอมเม้นท์ให้กันทุกวันนะครับ**